Fund Flow

อิป้า มาแล้วค่ะ มาร่วมวงเผือกกันแร๊วๆๆ ขอเม้าท์เรื่องใหญ่เรื่องโตสักหน่อยนะค่ะ ก็เรื่องคุณพ่อเฟด(ธนาคารกลางสหรัฐ)ไม่มีพลิกโผ ตามล๊อคเป๊ะ ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ 1.75 – 2% แล้วนะค่ะ ไม่เท่านั้น ยังไม่หนำใจ พี่แกส่งซิกกันแบบไม่ต้องเดาว่า จะมีอีก2รอบนะค่ะคุณขา แว่วว่าก.ย. และธ.ค. สรุป ปีเดียวกดไป 4-0พูลสวัสดิ์ อิ่มแปร้จนจุกเลยนะซิค่ะ

การขยับของเฟด ตั้งแต่ปลายปี 2558 เป็นต้นมา (ครั้งนี้ครั้งที่ 7 ) และยิ่งมาถึงยุคอีตาทรัมป์ ที่แม้คนทั่วโลกจะไม่ค่อยรักแกนัก แต่ “อเมริกัน เฟริส์” ก็ฉมังใช้ได้ค่ะ ส่งผลสหรัฐ มีการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ (ใช้คำว่าแข็งแกร่งเลยค่ะ-ช่างกล้าเน้อ) อัตราการว่างงานลดลง มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น การจับจ่ายใช้ฟุ้ง กำไรธุรกิจก้าวหน้า เงินดอลลาร์แข็งวันแข็งคืน รวมไปถึง Bond Yield สหรัฐ ปรับขึ้นด้วย

แน่นวนว่า เมื่อผลเฟดออกมาเยี่ยงนี้แล้ว ตลาดดักเม่าไทยแลนด์ ระสำ กระเพื่อมอีกซิค่ะ ไหนจะ ราคาน้ำมันผันผวนรวนซวนเซ ชะลอตัวจากระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี (วิตกจริตเรื่องกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น) ไหนจะสงครามการค้าของตาทรัมป์กับมังกรจีน มาทุบซ้ำด้วยกำปั้น เฟด แล้วอย่างงี้ Fund Flow (กระแสเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ) จะไม่วิ่งไหวหรือค่ะ(วิ่งหนี นะไม่ได้วิ่งเข้า)

อิป้า ของอธิบายหลักการ Fund Flow ของไทย ง่ายๆ นะค่ะ คือ1. เมื่อค่าเงินบาทอ่อน…เงินต่างชาติก็จะไหลเข้ามาเก็งกำไรในหลักทรัพย์ โดยการไล่ซื้อหุ้น ทำให้ราคาหุ้นสูงขึ้น 2. เมื่อค่าเงินบาทแข็ง หุ้นที่เคยไล่ช้อนเมื่ออดีตขยับราคาขึ้น พี่หรั่งก็เทขายหุ้น และนำเงินบาทไปแลกเงินสกุลต่างประเทศ กำไร 2 เด้ง คือ กำไรจากการขายหุ้น และกำไรจากค่าเงิน นั้นเองค่ะ

ฉะนั้นแล้ว ห้วงเวลานี้ เลือด(เงิน)จากนักลงทุนต่างชาติ ที่ไหลออกจากร่างกาย(ตลาดทุนไทย)อยู่แล้ว จึงไหลออกอย่างต่อเนื่องเหมือนน้ำก๊อกลืมปิดวาล์ลกันเลยค่ะ

ข้อมูลจากตลาดฯ ตั้งแต่ต้นปีถึงต้นเดือนม.ย.นักลงทุนต่างชาติ เทไปแล้วกว่า 1.5แสนล้านบาท จะเยอะไปไหนค้าาา

อันนำมาสู่คำถามว่า แล้วเมื่อไรเลือดจะหยุดไหลเสียที …เกจิ อาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญ หลากหลายสำนัก บอกคล้ายๆกันว่า ภาวะแบบนี้ อึนๆ มึนๆ ทรงๆ จะดำรงคงอยู่ไปจนถึงปลายไตรมาส 3 หรืออาจจะกลางไตรมาส 4 เสียด้วยซ้ำ แต่ถ้าให้ชัวร์กว่านี้ โน้นเลยค่ะต้นปี 62 ไปเลยค่ะ ด้วยเหตุผลที่ว่าตลาดไทยไม่ค่อยเย้ายวล ดูปล่อยเนื้อปล่อยตัว ไม่น่าพิศมัย เหมือน ที่ผ่านมา

จาก2 ปัจจัยหลัก คือ 1.เรื่องของดอกเบี้ย ซึ่งผลผลิตจาก เฟด อัพดอกไปแล้ว ทาง ธนาคารกลางของอินโดนีเซีย และมาเลเซีย เด้งรับทันควัน อัพขึ้นตามไปด้วย ส่วนพี่ไทยละค่ะ (ระดับ 1.50%)ถ้าทางแบงค์ชาติตัดใจปรับขึ้นดอกเบี้ยในบ้านเรา(อาจจะปลายปี-ปรับ 0.25) จะทำให้เงินบาทกลับมาหล่ออีกครั้ง เงินน่าจะหยุดไหลได้ แต่ก็ต้องเสี่ยงกับเงินเฟ้อที่จะตามมานะค่ะ

ปัจจัย ที่ 2 คือ เรื่องการเมือง เรื่องของผลประโยชน์ สุดยอดแห่งปัจจัยอ่อนไหวเลยนะค่ะ ที่โรดแมปเลือกตั้ง แม้วางไว้ก.พ. 62 แต่ ยังไม่ชัด จะจะว่าแน่หรือไม่ อย่างไร ทำให้ความเชื่อมั่้นนักลงทุนยังไม่เสถียร ดังนั้น ถ้าลุงตู่ถกวงลับได้ลงตัวแล้ว กำหนด วัน เดือน ที่แน่นอนออกมาได้ เมื่อนั้น Fund Flow น่าจะชลอลงได้มาก

ต้องรอลุ้นกันต่อค่ะว่า ตลาดหุ้นในยุค Fund Flow ยาวๆแบบนี้ จะลงทุนกันแบบไหน แต่ที่แน่ๆ หุ้นกลุ่มแบงค์ ตีปีกร่าเริงทั่วหน้าเลยค่ะ…ไปละ บ๊าย

—————————–

ติดตามที่ :

#หุ้น #กองทุนรวม #fund #set #Mutualfund #epahamalao #อิป้าหามาเล่า #ตลาดหุ้น #ตลาดหุ้นไทย #mai #ลงทุน #ออมเงิน

Facebook Comments