set

มาแล้วคะ อิป้าหามาเล่า สัปดาห์ที่แล้ว ชาวเม่าที่รักต่างดี้ด้าเริงร่ากับ ปู่ SET เริ่มผงกหัว เหมือนอยากจะผงาดอีกครั้ง (ศุกร์ 20ก.ค.61 ปิดตลาดไปที่ 1671.06 จุดปรับ +24.17) แถมไปสอดคล้องกับบรรดานักวิเคราะห์ ส่วนใหญ่ พยากรณ์ไปในทิศทางบวกๆ เลยค่ะ แต่มันจะจริงอย่างนั้นหรือเปล่าน้า?

จากเดิมช่วงต้นปี 61 SET วิ่ง ทะลุ 1800 จุดจากนั้นช่วง มิถุนายน ร่วงไปอยู่แถว1550 จุด จากนั้น ช่วง กรกฎาคม เริ่มกลับมา โลดเล่น ที่ 1600-1670 จุดท่ามกลางปัจัยลบภายนอกที่ยังดำรงคงอยู่ ทั้งสงครามการค้าที่ทำท่าจะเจรจา แต่ยังไม่เริ่มสักทีคะ หรือจะเป็นเรื่อง fund flow ที่ไหลออกไปปริ่มๆ 2แสนล้านบาทแล้ว หรือจะเป็นเรื่องเงินบาทที่อ่อนระทวย..แต่เกิดอะไรขึ้น?

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา(16-20ก.ค.61) SET เริงร่ามาก บวกเกือบทุกวัน เหตุผลที่พออนุมานได้ คือ เรื่องของหุ้นกลุ่มบิ๊กแคปช่วยประคอง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มแบงค์ ที่ทยอยโชว์ฝีมือ ไตรมาส2 ไปแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับกระแสตอบรับดีกว่าที่คาด (สัปดาห์นี้ลุ้นผลงานQ2กลุ่มพลังงานด้วย) รวมไปถึงหุ้นขนส่ง-ท่องเที่่ยว ที่ สำคัญ อย่าง AOT (การท่าอากาศยานไทย) กลับมาคึกคักอีกครั้ง

รวมไปถึงการคลายความกังวลเรื่องสงครามการค้า และลมปากจากคนของรัฐ ที่กระตุ้นว่าเศรษฐกิจเติบโตขึ้น ดีดให้ มู้ด(อารมณ์)ของนักลงทุนหนุกหนานเพิ่มขึ้นนั้นเองคะ

นักพยากรณ์บางเจ้าอ้างอิงด้วยปัจจัยบวกหลายตัว โดยเฉพาะตัวเลขเศรษฐกิจไทยทุกตัว ขยายตัวแข็งแกร่ง ช่วยดันก้น SET พลิกฟื้นในไตรมาส 3/61 และปรับตัวขึ้นสู่ 1900 จุดภายในสิ้นปีนี้ พร้อมบอกให้ เน้นหุ้นที่ราคายังขึ้นน้อยกว่าตลาดและมีปัจจัยหนุนจากดอลลาร์สหรัฐแข็ง และอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ( คือกลุ่มส่งออก-ธนาคาร)

นักวิเคราะห์อีกค่าย ชี้ชัดฟันธงไปเลยว่า หุ้นผ่านจุดต่ำสุดที่ 1,570 จุดไปแล้ว หลังจากความกังวลสงครามการค้าสหรัฐกับจีนเริ่มลดลง บวกกับภาพรวมกำไรบจ.ไตรมาส 2 จะไม่ด้อยกว่าไตรมาสแรก และผลงานในอดีตที่ผ่านมา ไตรมาส 3 หุ้นมักจะไม่ร่วง และจะส่งผลยาวไปจนถึงไตรมาส 4 เลย

แต่ทว่า ยังมีนักสังเคราะห์สถานการณ์จากบางค่าย มีมุมมองย้อนแย้งที่ต่างออกไปคะ ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เป็นระยะสั้นเท่านั้น จากปัจจัยบวกที่เป็นเรื่องของสถานการณ์ แต่ปัจจัยลบยังอยู่ระยะยาว โดยเฉพาะสงครามการ ค้า แม้จะมีแนวโน้มเล็กๆ ของการเจรา แต่ยังเร็วเกินไปที่จะผ่อนคลายจากประเด็นร้อนดังกล่าวคะ

นอกจากนี้แล้วยังมี เรื่อง fund flow ที่ไหลออก 2แสนล้านบาท และยังไม่มีท่าว่าจะหยุด แม้ว่าจะมีแนวโน้มชลอการขาย ปัจจัยที่เลือดยังไหลอยู่คือ1. ดอกเบี้ยยังขาขึ้น เฟดจ่อขย่มอีก2ครั้ง และ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ฟื้นตัวจากระดับตํ่าสุดนับตั้งแต่ต้นปี 61 ที่ 2.4% ในช่วงต้นเดือนม.ค.ขึ้นมาอยู่ที่ 2.9% ในปัจจุบัน

ปัจจัยที่ 2.เงินบาทอ่อน ตามหยวน ส่งผลอ่อนทั้งภูมิภาค ตามแรงเหวี่ยงของการกลับมาแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐซึ่งถูกคาดว่าจะแข็งต่อเนื่องไปตลอดครึ่งหลังของปีนี้ …โดยเงินบาท ทดสอบระดับ 33.50บาทต่อดอลลาร์ แล้ว (ศุกร์ 20ก.ค. 61)อ่อนค่าสุดในรอบ 9เดือน ซึ่งถ้าหลุด 33.50 ไปถึง 33.60 นักลงทุนจะไปมองที่ 34 .00 เป็นผลจิตวิทยาให้พี่หรั่งจะยิ่งเทขายเพิ่ม

ส่วน ที่ว่า SET ผ่านจุดต่ำที่สุดแล้ว นั้น กูรูบางสำนัก บอกว่า ตามตำรา ถ้าผ่าน 1680 ไปได้ จะถึงจุดกึงกลางของขาขึ้น และเมื่อพ้นน้ำ 1700 จุดไปแล้ว ถึง จะเรียกว่า ขาขึ้นได้อย่างเต็มปาก แต่ในภาวะนี้ ยังไม่มีปัจจัยบวกที่เด่นชัดมากนัก อย่างสงครามการค้า ก็ยังไม่ขึ้นโต๊ะเจราจา คะแนนเสียงอีตาทรัมป์ก็ยังไม่ตกมากนัก (แม้จะปากเสียด่าเฟด) รวมถึงผลกระทบจากค่าเงินบาทอ่อนด้วย

แต่ถ้าเป็นช่วงไตรมาส 4 หรือปลายๆปี อาจได้สัญญาณบวกดังๆเรื่องเลือกตั้ง ประกอบการโครงการรัฐ แสนล้านได้ตัวผู้ชนะประมูล ได้งาน กันแล้ว นั้นและถึงจะทำให้หุ้นกระเตื้องขึ้นมา

ฉะนั้น ต้องจับตาคะ ว่าสัปดาห์นี้ (23-26ก.ค.) หุ้นจะบวกขึ้นได้มากน้อยขนาดไหน หรือจะโดนแรงกดจากภายนอกกระฉากให้ลงมาต่ำกว่าเดิม..ไปละคะ บ๊ายย

——————————-

ติดตามที่ :

#หุ้น #กองทุนรวม #fund #set #Mutualfund #epahamalao #อิป้าหามาเล่า #ตลาดหุ้น #ตลาดหุ้นไทย #mai #ลงทุน #ออมเงิน

Facebook Comments