มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า ห้วงนี้ประเด็นยุบ-ไม่ยุบพรรคขุ่นพี่ธนาธร กำลังลุ้นระทึกกันเลยล่ะค่ะ เห็น2 – 3วันก่อน มีการรณรงค์ลงชื่อผ่าน change.org เพื่อคัดค้านการยุบพรรรคอนาคตใหม่ ซึ่งดั๊นไปแง้มรายชื่อดู ๆ แล้ว ค่ะมีหลากหลายสาขาอาชีพมากมาย ไปสะดุดตามีชื่อของ 3 เซียนหุ้น VI ที่ร่วมลงชื่อด้วยค้าาาา แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้จักว่าเป็นใคร อิป้าเลยไปล้วงข้อมูลมานำเสนอ
1.คเชนทร์ เบญจกุล (นักลงทุนเน้นมูลค่า VI, กรรมการบริหาร โรงเรียนเพลินพัฒนา , อดีตกรรมการสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) หรือ VI )
-จบการศึกษาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเศรษฐศาสตร์และการเงิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาอุตสาหการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยเป็นนักวิเคราะห์อาวุโส กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
-เจ้าของพอร์ตหุ้นอันดับ 478 ของเมืองไทย มูลค่าพอร์ต 593,474,300 บาท ในปัจจุบัน ถือ 9 ตัว COMAN (บมจ.โคแมนชี่ อินเตอร์เนชั่นแนล ) ,JUBILE (บมจ.ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์), KAMART (บมจ. คาร์มาร์ท) , LALIN (บมจ.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้) ,QHOP (กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ ฮอสพิทอลลิตี้) , SPA (บมจ.สยามเวลเนสกรุ๊ป) ,VIH (บมจ.ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์) , XO (บมจ.เอ็กโซติค ฟู้ด) , IP (บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา)
สำหรับหุ้น บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา หรือ IP ผู้ประกอบธุรกิจด้านการพัฒนา คิดค้น และจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพ เป็นแหล่งรวม ‘นักลงทุนเน้นคุณค่า’ เพราะพบรายชื่อ VI เพียบ เช่น ‘แพท-ภาววิทย์ กลิ่นประทุม’ นักลงทุนอิสระ 3.39% , ‘หยง-ธำรงชัย เอกอมรวงศ์’ เทรดเดอร์มืออาชีพ 2.90% ‘ , คเชนทร์ เบญจกุล’ นักลงทุนหุ้นอาชีพ 1.55% , ‘ชูรัชฎ์ ชาครกุล’ ลูกชายบิ๊ก ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ถือ 0.24% (ตัวเลข ณ หลังเสนอขายหุ้น IPO)
2.อาท-ชัชวนันท์ สันธิเดช (นักลงทุนเน้นมูลค่า VI , นักเขียน นักแปล เจ้าของเพจ Club VI สุดยอดแฟนพันธุ์แท้สามก๊ก สุดยอดแฟนพันธุ์แท้แผ่นดินมังกร สุดยอดแฟนพันธุ์แท้แห่งปี 2008 และคอลัมภ์นิสต์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ) ซึ่ง bangkokbiznews เคยสัมภาษณ์ ชัชวนันท์ ไว้อย่างน่าสนใจ ดังต่อไปนี้ค่ะ
หนุ่มอาท จบปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปริญญาโท คณะนิเทศศาสตร์ สาขาสื่อสารมวลชน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผ่านงานหลากหลาย เช่นนักข่าวสายกีฬา หนังสือพิมพ์คมชัดลึก คลุกคลีแวดวงอสังหาริมทรัพย์ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) นาน 5 ปี ก่อนจะโบกมือลาเพื่อมาเป็นนักลงทุนเต็มตัวในปี 2546
-เกือบ 20 ปี ผาดโผนมาเยอะค่ะ ทั้งรุ่งเรือง และติดดอยสูงลิ่ว ต่อมาค้นพบทางสว่างหันมาลงทุนแบบเน้นคุณค่าผ่านการศึกษาแนวทางของ ‘เบนจามิน เกรแฮม’ บิดาแห่งการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ ‘ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร’ ฯลฯ ถอดบทเรียนจากหนังสือ ‘คัมภีร์การลงทุนแบบเน้นคุณค่า’ หรือ ‘พ่อรวยสอนลูก’ ของ โรเบิร์ต คิโยซากิ
-ช่วงแรกการลงทุนแบบเน้นคุณค่า มุ่งแต่ซื้อของถูกมีหุ้นในพอร์ตมากถึง 15-16 ตัว แทนที่จะมีกำไรกลับต้องมานั่งซื้อถัวเฉลี่ย เพื่อให้ได้รีเทิร์น ต่อมาปี 2551 ช่วงวิกฤติสินเชื่อซับไพรม์ ตลาดหุ้นลดลงจาก 900 จุด เหลือ 300 จุด หุ้นในพอร์ตขาดทุนทันที 30% จึงปรับพอร์ตหุ้นจาก 16 ตัว เหลือเพียง 4 ตัว คือ หุ้น ซีพี ออลล์ หรือ CPALL หุ้น บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ หรือ BIGC หุ้น เซ็นทรัลพัฒนา หรือ CPN และหุ้น ซีเอ็ดยูเคชั่น หรือ SE-ED
-กลยุทธ์ลงทุน ‘ซื้อกิจการที่ดีมีการเติบโตต่อเนื่องผ่าน 5 ข้อหลัก 1.ลงทุนในธุรกิจที่มีกำไรเติบโตปีละ 15% ขึ้นไป 2.องค์กรต้องมีผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น หรือ ROE เฉลี่ย 15% 3.อัตราหนี้สินต่อทุน หรือ D/E ไม่ควรเกินระดับ 1.5 เท่า ดีที่สุดไม่ควรเกิน 1 เท่า 4. เลือกบริษัทที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40-50% และ 5.บริษัทแห่งนั้นควรมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานอยู่ในระดับที่ดีและเป็นบวก
3.ธนากร เล็กวิจิตรธาดา (นักลงทุนเน้นมูลค่า VI)
-เจ้าของพอร์ต 29,190,560 บาท บาท ถือ 2 ตัว คือ XO (บมจ.เอ็กโซติค ฟู้ด) และ PRO (บมจ.โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี 1999)
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 คนเคยผ่านกลยุทธการลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ มาแล้ว แต่สุดท้ายก็มาจบที่การลงทุนแบบเน้นคุณค่า นั่นเองค่ะ วันนี้ไปล่ะค่ะ บ๊ายย
ขอบคุณภาพ ชัชวนันท์ สันธิเดช จาก StockRadars , ธนากร เล็กวิจิตรธาดา จาก กรุงเทพธุรกิจ , คเชนทร์ เบญจกุล จาก stock-set-trader.blogspot
