มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า สัปดาห์ที่ผ่านมารวมพลคนรักหุ้นโรงไฟฟ้า ต่างจุก เจ็บ จ๋อย กันไปตาม ๆ กันนะคะ จากแรงกดดันเศรษฐกิจซึม ๆ เศร้า ๆ ภัยแล้ง บาทอ่อน และการคาด Q4/62 ที่อาจไม่แจ่มนัก บวกกับมีแรงขาย “ชอร์ตเซล” ออกมามาก ทำให้ราคาวูบลงยกแผงกันเลยค้าาา
อิป้าเลยจะพาไปดู 10 หุ้นโรงไฟฟ้า ที่เคยยิ่งใหญ่ ราคาวิ่งไม่หยุด แต่ห้วงนี้กลายเป็นจัดน๊อกเอ้าเซลล์ จัดโปรไฟไหม้กันเลยค่ะ (เรียงตาม% ที่ย่อลงมาที่สุดเมื่อเทียบราคาที่สูงสุดในปี 63 กับราคาในปัจจุบันนี้)
1.GPSC (บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่) มาร์เกตแคป 209,364.91 ล้านบาท ราคาสูงสุดในปี 63 ปิดที่ 97.50 บาท (23 ม.ค.63) และ ณ วันที่ 14 ก.พ.63 ปิด 74.25บาท ลดลง 23.25 บาท หรือ -23.84%
(จากสถิติวันที่ราคาดิ่งมากสุด วันที่ 30 ม.ค.63 ปิดที่ 88.50 บาท และ ณ วันที่ 31 ม.ค.63 ปิด 84.00 บาท ลดลง 4.50 บาท หรือ -5.08%)
ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 85.75 บาท ณ วันที่ 14 ก.พ.63 ปิดที่ 74.25 บาท ลดลง 11.50 บาท หรือ -13.41%
2.BGRIM (บมจ.บี.กริม เพาเวอร์) มาร์เกตแคป 150,548.48 ล้านบาท ราคาสูงสุดในปี 63 ปิดที่ 65.50 บาท (22 ม.ค.63) และ ณ วันที่ 14 ก.พ.63 ปิด 54.75บาท ลดลง 10.75 บาท หรือ -16.41%
(จากสถิติวันที่ราคาดิ่งมากสุด วันที่ 5 ก.พ.63ปิด 61.75 บาท และ ณ วันที่ 6 ก.พ.63 ปิด 57.00 บาท ลดลง 4.75 บาท หรือ -7.69%)
ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 52.50 บาท ณ วันที่ 14 ก.พ.63 ปิด 54.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท หรือ 4.28%
3.RATCH (บมจ.ราช กรุ๊ป) มาร์เกตแคป 93,887.50 ล้านบาท ราคาสูงสุดในปี 63 ปิดที่ 75.00 บาท (20 ม.ค.63) และ ณ วันที่ 14 ก.พ.63 ปิด 63.50 บาท ลดลง 11.50 บาท หรือ -15.33%
(จากสถิติวันที่ราคาดิ่งมากสุด วันที่ 30 ม.ค.63 ปิด 70.75 บาท วันที่ 31 ม.ค.63 ปิด 68.00 บาท ลดลง 2.75 บาท หรือ -3.89%)
ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 68.75 บาท ณ วันที่ 14 ก.พ.63 ปิด 63.50 บาท ลดลง 5.25บาท หรือ -7.63%
4.CKP (บมจ.ซีเค พาวเวอร์) มาร์เกตแคป 34,793.76 ล้านบาท ราคาสูงสุดในปี 63 ปิดที่ 5.00 บาท (2 ม.ค.63) และ ณ วันที่ 14 ก.พ.63 ปิด 4.24 บาท ลดลง 0.76 บาท หรือ -15.20%
(จากสถิติวันที่ราคาดิ่งมากสุด วันที่ 3 ม.ค.63 ปิด 4.92 บาท วันที่ 6 ม.ค.63 ปิด 4.62 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ -6.10%)
ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 4.96 บาท ณ วันที่ 14 ก.พ.63 ปิด 4.24 บาท ลดลง 0.72 บาท หรือ -14.51%
5.WHAUP (บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์) มาร์เกตแคป 19,125.00 ล้านบาท ราคาสูงสุดในปี 63 ปิดที่ 5.80 บาท (17 ม.ค.63) และ ณ วันที่ 14 ก.พ.63 ปิด 5.00 บาท ลดลง 0.80 บาท หรือ -13.79%
(จากสถิติวันที่ราคาดิ่งมากสุด วันที่ 24 ม.ค.63 ปิด 5.50 บาท วันที่ 27 ม.ค.63 ปิด 5.30 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ -3.64%)
ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 5.45 บาท ณ วันที่ 14 ก.พ.63 ปิด 5.00 บาท ลดลง 0.45 บาท หรือ -8.25%
6.EGCO (บมจ.ผลิตไฟฟ้า) มาร์เกตแคป 160,571.82 ล้านบาท ราคาสูงสุดในปี 63 ปิดที่ 344.00 บาท (20 ม.ค.63) และ ณ วันที่ 14 ก.พ.63ปิด 298.00 บาท ลดลง 46.00 บาท หรือ -13.37%
(จากสถิติวันที่ราคาดิ่งมากสุด วันที่ 30 ม.ค.63 ปิด 317.00 บาท วันที่ 31 ม.ค.63 ปิด 304.00 บาท ลดลง 13.00 บาท หรือ -4.10%)
ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 328.00 บาท ณ วันที่ 14 ก.พ.63 ปิด 298.00 บาท ลดลง 30.00 บาท หรือ -9.14%
7.GUNKUL (บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง) มาร์เกตแคป 23,982.83 ล้านบาท ราคาสูงสุดในปี 63 ปิดที่ 2.96 บาท (2 ม.ค.63) และ ณ วันที่ 14 ก.พ.63 ปิด 2.70 บาท ลดลง 0.26 บาท หรือ -8.78%
(จากสถิติวันที่ราคาดิ่งมากสุด วันที่ 3 ม.ค.63 ปิด 2.94 บาท วันที่ 6 ม.ค.63 ปิด 2.82 บาท ลดลง 0.12 บาท หรือ -4.08%)
ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 2.98 บาท ณ วันที่ 14 ก.พ.63 ปิด 2.70 บาท ลดลง 0.28 บาท หรือ -9.39%
8.GULF (บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์) มาร์เกตแคป 409,593.60 ล้านบาท ราคาสูงสุดในปี 63 ปิดที่ 202.00 บาท (22 ม.ค.63) และ ณ วันที่ 14 ก.พ.63 ปิด 186.50 บาท ลดลง 15.50 บาท หรือ -7.67%
(จากสถิติวันที่ 10 ม.ค.63 ปิด 177.00 บาท วันที่ 13 ม.ค.63 ปิด 193.50 บาท เพิ่มมา 16.50 บาท หรือ 9.32% ส่วนวันที่ 5 ก.พ.63 ปิด 197.00 บาท วันที่ 6 ก.พ.63 ปิด 187.00 บาท ลดลง 10.00 บาท หรือ -5.08%)
ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 166.00 บาท ณ วันที่ 14 ก.พ.63 ปิด 186.50 บาท เพิ่มขึ้น 20.50 บาท หรือ 12.34%
9.BCPG (บมจ.บีซีพีจี) มาร์เกตแคป 32,781.83 ล้านบาท ราคาสูงสุดในปี 63 ปิดที่ 17.50 บาท (17 ม.ค.63) และ ณ วันที่ 14 ก.พ.63 ปิด 16.40 บาท ลดลง 1.10 บาท หรือ -6.28%
(จากสถิติวันที่ราคาดิ่งมากสุด วันที่ 31 ม.ค.63 ปิด 15.90 บาท วันที่ 3 ก.พ.63 ปิด 14.90 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ-6.29%)
ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 16.20 บาท ณ วันที่ 14 ก.พ.63 ปิด 16.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 1.23%
10.EA (บมจ.พลังงานบริสุทธิ์) มาร์เกตแคป 181,837.50 ล้านบาท ราคาสูงสุดในปี 63 (13ก.พ.63) ปิดที่ 49.00 บาท และ ณ วันที่ 14 ก.พ.63 ปิด 48.75 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.51%
(จากสถิติวันที่ราคาดิ่งมากสุด วันที่ 7 ม.ค.63 ปิด 41.00 บาท วันที่ 8 ม.ค.63 ปิด 38.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ -6.10%)
ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 43.75 บาท ณ วันที่ 14 ก.พ.63 ปิด 48.75 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท หรือ 11.42%
อย่างไรก็ตาม แม้ราคาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าจะย่อลงมา แต่ด้วยความแข็งแกร่งของแต่ละตัว บวกกับบางบริษัทมีสายสัมพันธ์ลึกซึ้งกับศูนย์รวมอำนาจในรัฐบาลนี้ ทำให้น่าจะขยับดีดกลับมาได้ค่ะ …วันนี้ไปล่ะค่ะ บ๊ายย