มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า วันนี้จะพาไปดูเศรษฐีหุ้นพันล้านไม่แคร์ใบปริญญา เรียนไม่สูง แต่มุมานะ สู้ไม่ถอย พากราฟชีวิตพุ่งอย่างน่าสนใจ ตอนนี้กลายเป็นเศรษฐีระดับพันล้าน หมื่นล้าน ถูกถอดบทเรียนกันไปมากมาย ซึ่งครั้งนี้ดั๊นจะพาไปอัพเดทพอร์ตหุ้นและเรื่องราวแบบย่อๆ ของเศรษฐีเหล่านี้กันค่ะ

1.นายสำเริง มนูญผล จบแค่มัธยมศึกษาปีที่ 3 วัดราชบพิธ อดีตมือขวานายห้างเทียม ผู้ก่อตั้งเครือ “สหพัฒน์” และคนบริหารพอร์ตให้กับตระกูล “โชควัฒนา” ที่ค่อนข้างโลว์โปรไฟล์ แต่ทำธุรกิจเก่งมั๊กๆ ค่ะ รวยเงียบเลยล่ะค่ะ มีชื่อในบริษัทของเครือสหพัฒน์มากมาย เช่น บริษัท ทรัพย์สินสหพัฒน์ จำกัด , บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และบมจ.สหพัฒนพิบูล

และในนามส่วนตัวเป็นประธานกรรมการบริษัท สหมนูญผล จำกัด และเจ้าของโรงละครเอ็มเธียเตอร์ (ชื่อเดิมโรงละครกรุงเทพ) ซึ่งทางสำเริงได้เข้าบริหารและจัดการตั้งแต่ปี 2548 นอกจากนี้แล้ว สำเริงยังเป็นที่ปรึกษาอีกหลายองค์กร เช่นที่ปรึกษาเกียรติศักดิ์โรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ และเป็นคนชอบทำบุญบริจาคเงินมากมาย

ไปส่องพอร์ต เจ้าสัวสำเริงกันค่ะ ถืออยู่ 17 ตัว มูลค่าหลายพันล้านบาท ประกอบด้วย CGD (บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ ), CGH (บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ) , CMC (บมจ.เจ้าพระยามหานคร) , FE (บมจ.ฟาร์อีสท์ เฟมไลน์ ดีดีบี) , GGC (บมจ.โกลบอลกรีนเคมิคอล) , LHFG (บมจ.แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป) , OCC (บมจ.โอ ซี ซี) ,

PG (บมจ.ประชาอาภรณ์) , PMTA (บมจ.พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์) , S&J (บมจ.เอส แอนด์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอนเตอร์ไพรส์ ) , SCG (บมจ.สหโคเจน (ชลบุรี) , SPC (บมจ.สหพัฒนพิบูล) , SWC (บมจ.เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย)) ,T (บมจ.ที เอ็นจิเนียร์ริ่ง คอร์เปอร์เรชั่น) ,TNL (บมจ.ธนูลักษณ์) ,TPCORP (บมจ.เท็กซ์ไทล์เพรสทีจ) ,VPO (บมจ. วิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์)

2.มานิต อุดมคุณธรรม อายุ 74 ปี จบแค่มัธยมศึกษาปีที่ 6 ฐานะครอบครัวไม่ค่อยดี เด็กๆ ต้องช่วยพ่อแม่ขายลอตเตอรี่ พอโตขึ้นหน่อยไปเป็นเซลส์แมนขายเสื้อผ้าในต่างจังหวัดในอดีตเขาเป็นผู้บุกเบิกห้างโรบินสัน ในปี 2522 จากนั้นในปี 2535 เขานำโรบินสัน ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งแรกของไทยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ต่อมากลุ่มเซ็นทรัล เข้ามาถือหุ้นใหญ่เมื่อปี 2538

ปัจจบุันเป็นประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีลิเชี่ยน ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด เจ้าของโครงการ สวอนเลค ที่เขาใหญ่ ที่ผ่านมามานิต ยังเป็นผู้ริเริ่มศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ และฟิวเจอร์พาร์ค รวมทั้งเป็นประธานกรรมการบริหารโฮมโปร “นิ้วกลม” นักเขียนชื่อดังถ่ายทอดชีวิตของมานิต ผ่านหนังสือชื่อ “สิ่งสำคัญของชีวิต” ทั้งเรื่องราวของการสู้ชีวิต การประสบความสำเร็จในธุรกิจ การป่วยโรคเลือดในสมองแตก การเริ่มวิ่ง ฯลฯ

มานิต ถือตัวเดียว คือ HMPRO (บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์) ถือใหญ่เป็นลำดับ 6 (293,991,997 หุ้น หรือ 2.24%) มูลค่า4,850,867,950 บาท (ราคาหุ้น 19.50 บาท ณ 24 พ.ค.62)

3.กมล ว่องกุศลกิจ อายุ 85 ปี ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ กลุ่มมิตรผลและประธานมูลนิธิ ฟ้า ว่องกุศลกิจ ผู้ก่อตั้งและอุปการะโรงเรียนกรับใหญ่ว่องกุศลกิจพิทยาคม…กมล เป็น “ว่องกุศลกิจ” รุ่นที่ 2 มีพี่น้อง 8 คน เขาเป็นคนที่ 2 (กุศล-กมล -สุนทร -วิมล – วิฑูรย์-ลักษมี อิสระ-ชนินท์ )

กมล จบการศึกษาในระดับประถมปีที่ 4 โรงเรียนสามัคคีวิทยา ราชบุรี…ด้วยฐานะที่ยังไม่ดีนักในช่วงเริ่มต้น พี่น้อง 4 คนแรกของว่องกุศลกิจไม่ได้เรียนหนังสือถึงระดับปริญญา เพราะต้องออกมาช่วยครอบครัวทำงาน อย่างไรก็ตาม ด้วยแรงผลักดันของแม่ที่เห็นคุณค่าของการศึกษาอย่างยิ่งยวด จึงพยายามส่งให้ลูกได้เรียนตั้งแต่รุ่นวิฑูรย์เป็นต้นมา …(อ้างอิงhttp://info.gotomanager.com/ส.ค.49)

กมลเป็นผู้ ริเริ่มเปลี่ยนมาปลูกอ้อยและตั้งโรงหีบน้ำอ้อยทำน้ำตาลทรายขึ้น เมื่อปี 2496 และขยายพื้นที่ปลูกรวมทั้งขยายโรงงานให้ใหญ่โตมีปริมาณผลิตมากขึ้นและทันสมัยขึ้น โดยตั้งเป็นบริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด ขึ้นที่ ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง ซึ่งปัจจุบันได้ย้ายไปอยู่ที่ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี นอกจากนี้ยังได้ขยายกิจการไปที่ จ. กำแพงเพชร และ จ.ชัยภูมิ ฯลฯ (อ้างอิงเว็บโรงเรียนกรับใหญ่ว่องกุศลกิจพิทยาคม)

และแม้ว่ากมลจะเรียนน้อยแต่ ลูก 9 คนของเขานั้น แต่ละคนสุดยอดคะ เรียนจบปริญญาโท จากประเทศสหรัฐอเมริกา กันเกือบทุกคน

ในพอร์ต กมล ถือ 2 ตัว คือ 1.BANPU (บมจ.บ้านปู) ถือ 94,292,420 หุ้น หรือ 1.83% มูลค่า 1,357,810,848 บาท (ราคาล่าสุด 14.40 บาท ณ 24 พ.ค.62) และ 2.ERW (บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป) ถือ 14,850,275 หุ้น หรือ 0.59% มูลค่า 95.784,273บาท (ราคาล่าสุด 6.45 บาท ณ 24 พ.ค.62) รวม 2 ตัว มูลค่า 1,453,595,121 บาท

4.สุดารัตน์ วิทยฐานกรณ์ ประธานที่ปรึกษา บริษัทน้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน) สาวปวช. การบัญชี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตพาณิชยการพระนคร สู่นายหญิงน้ำมันพืชตราองุ่น และต่อมามหาวิทยาลัยศรีปทุมมอบปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการและยังได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง

ปี 2528 สุดารัตน์ เริ่มทำธุรกิจครอบครัวภายใต้ชื่อ บริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด บริหารจัดการจนประสบความสำเร็จ สามารถนำธุรกิจเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2533 บริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทอุตสาหกรรมน้ำมันพืชชั้นนำของอาเซียน และได้รับการคัดเลือกเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนที่น่าลงทุน ประจำปี 2559 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

สุดารัตน์ เข้าอบรมในหลักสูตรด้านการบริหารจัดการมากมายหลายหลักสูตร เช่นสถาบันวิทยาการตลาดทุน รุ่นที่ 8 ทำให้สามารถบูรณาการศาสตร์ต่างๆ มาประยุกต์ใช้ในการทำงานจนประสบความสำเร็จอย่างสูง

ในพอร์ตสุดารัตน์ มี 3 ตัว คือ 1.MODERN (บมจ.โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป) ถือ11,200,000หุ้น หรือ 1.49% มูลค่า 36,064,000บาท (ราคาล่าสุด 3.22บาท ณ 24 พ.ค.62) 2.PDG (บมจ.พรอดดิจิ ) ถือ 6,000,000หุ้น หรือ 2.22% มูลค่า 16,800,000 บาท (ราคาล่าสุด 2.80บาท ณ 24 พ.ค.62) 3.TVO (บมจ.น้ำมันพืชไทย) ถือ 61,110,800 หุ้น หรือ 7.56% มูลค่า 1,604,158,500 บาท (ราคาล่าสุด 26.25 บาท ณ 24 พ.ค.62) รวม 3 ตัวมูลค่า 1,657,022,500 บาท

5.ตัน ภาสกรนที อายุ 60 ปี จบการศึกษาชั้นมัธยมปีที่ 3 จากครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีนที่มีฐานะปานกลาง โดยบิดาของเขาอพยพมาจากจีน และตั้งรากฐานที่จังหวัดชลบุรี ทำงานแรกเป็นพนักงานแบกของ แล้วผันตัวเองเป็นเจ้าของแผงหนังสือ ก่อนขยายกิจการไปซื้อห้องแถว จนกลายเป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

จนมาบูมสุดขีด เมื่อก่อตั้งบริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) แล้วขายหุ้นให้เสี่ยเจริญ ก่อนมาให้กำเนิด บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และช่วงหนึ่งเสี่ยตันกลายเป็นไอดอล เป็นสัญลักษณ์ของคนรวยติดดิน และพยายามชูสโลแกน “ชีวิตนี้ไม่มีทางตัน” จะได้ออกหนังสือขายดิบขายดีอีกด้วยคะ

แม้เสี่ยตันจะจบแค่ ม.3 แต่บริหารธุรกิจจนดัง ต่อมามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาการตลาด), มหาวิทยาลัยรามคำแหง มอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์)

-ในพอร์ตเสี่ยตัน ถือ ICHI ถือ 360,639,600 หุ้น หรือ 27.74% มูลค่า 1,745,495,664 บาท (ราคาล่าสุด 4.84 บาท ณ 24 พ.ค.62) แต่ถ้ารวมภรรยาและลูกแล้ว ครอบครัวภาสกรนที ถือรวม 45.59%

ส่วนหุ้นนั้น ICHI ช่วงก่อนหน้านี้ถูกมองว่าเป็นขาลง แต่เมื่อประกาศงบไตรมาสแรก ปี 62 มีกำไรสุทธิ 114.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 247.1% จากงวดเดียวกันปีก่อน ทำให้ราคา ICHI ขยับขึ้นมาเลยที่เดียวค่ะ

อย่างไรก็ตามยังมีเศรษฐีหุ้นพันล้าน ไร้ใบปริญญาอีกหลายคน ไว้อิป้าจะไปค้นหามานำเสนอในโอกาสหน้านะคะ…วันนี้ไปล่ะค่ะ บ๊ายย

ขอบคุณรูปประกอบจาก 

ตัน ภาสกรนที จาก people.mthai.com
สำเริง มนูญผล จาก www.icc.co.th
มานิต อุดมคุณธรรม จาก services.home.co.th
กมล ว่องกุศลกิจ จาก www.krabyai.ac.th
สุดารัตน์ วิทยฐานกรณ์ จาก talk.mthai.com

Facebook Comments