มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า วันนี้ขออนุญาติมิตรรักแฟนๆ อิป้าเลาะเลี้ยวเข้าซอยการเมืองอีกครั้งนะคะ เพราะมีความเป็นไปได้ว่าภายในสัปดาห์นี้ (28-31 พ.ค.62) การเมืองบ้านเราจะชัดเจนมากขึ้น “น่าจะ” มีการกำหนดวันและโหวตประมุขฝ่ายบริหารได้ในอาทิตย์นี้ ฉะนั้นแล้ว หุ้นที่เกี่ยวโยงกับการเมืองและสถานการณ์ น่าจะมีโอกาสขยับได้บ้างค่ะ

ก่อนอื่นว่าตามตำรานะคะ กลุ่มที่น่าจะได้รับอานิสงค์ จากการได้รัฐบาลใหม่ คือหุ้นค้าปลีก–อาหารเครื่องดื่ม-รับเหมา-อีอีซี และหุ้นการเมืองที่ได้อำนาจรัฐ ซึ่งพบว่า มีอยู่หลายตัวที่น่าสนใจ ได้ 2 เด้งค่ะ

1.หุ้นของเสี่ยหนูและพรรคพวก…เอาของเสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล ก่อน คือ STEC (บมจ.ซิโน-ไทย ) STPI (บมจ.เอสทีพี แอนด์ ไอ) และ BBL (บมจ.ธนาคารกรุงเทพ) ผ่านทางสายสัมพันธ์ของพ่อตาเสี่ยหนู

ส่วนของเครือข่ายพวกเสี่ยหนู เช่น ตระกูลศรีวัฒนประภา จากคิงพาว์เวอร์ที่กำลังใช้กำลังภายในอย่างหนักในการช่วงชิงงานดิวตี้ฟรีใหม่ หุ้นที่สัมพันธ์ เช่น AAV (บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น) และ WP (บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่) อีกรายบิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผบ.ตร. หุ้นที่สัมพันธ์ เช่น SAMTEL (บมจ.สามารถเทลคอม) ไปดูตัวที่น่าสนใจกันค่ะ

STEC ราคาก่อนเลือกตั้ง (24 มี.ค.62) อยู่ที่ 23.00 บาท หลังเลือกตั้งแล้วขยับขึ้นทันที วันต่อมาปิดที่ 23.70 บาท อีก 3วันต่อมาขยับขึ้น 24.40 บาท ต่อมากลางเดือนเม.ย. ขยับขึ้น 25.25บาท จากนั้นก็เคลื่อนไหวในกรอบ 24.25 -25.00 บาท ยังไม่พัน 26 บาทเสียที ซึ่งตัวนี้ ถ้าใครซื้อตอน สิ้นปี 61 ราคา 20.40 บาท ตอนนี้ล่าสุด (24 พ.ค. 62) ปิดที่ 25.00 บาท จะได้กำไร 4.60 บาท /หุ้น หรือ 22.54%

STPI ราคาก่อนเลือกตั้ง (24 มี.ค.62) อยู่ที่ 5.90 บาท หลังเลือกตั้งแล้วขยับขึ้นทัน ปิดที่ 6.05 บาท ต่อมากลางเดือนเม.ย. ขยับขึ้น ไปถึง 7.45 บาท จากนั้นก็เคลื่อนไหวในกรอบ 6.25-7.20 บาท ซึ่งตัวนี้ถ้าใครซื้อตอนสิ้นปี 61 บาท ราคา 4.06 บาท ตอนนี้ล่าสุด (24 พ.ค. 62) ปิดที่ 6.50 บาท จะได้กำไร 2.44 บาท /หุ้น หรือ 60.09%

WP ราคาก่อนเลือกตั้ง (24 มี.ค.62) อยู่ที่ 5.60บาท หลังเลือกตั้งแล้วราคาย่อลงเล็กๆ ปิดที่ 5.35 บาท ต่อมากลางเดือนเม.ย. ขยับขึ้น มาปิดที่ 5.70 บาท จากนั้นก็ทรงๆ มีหลุด 5 บาทไป 1 วัน ซึ่งตัวนี้ถ้าใครซื้อตอนสิ้นปี 61 ราคา 4.98 บาท ตอนนี้ล่าสุด (24 พ.ค. 62) ปิดที่ 5.00 บาท จะได้กำไร 0.02 บาท /หุ้น หรือ 0.40%

2.หุ้นของเจ้าสัวธนินทร์ 3 ตัวหลัก…(ไม่รวม TRUE บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น)

CPALL (บมจ.ซีพี ออลล์ ) ราคาก่อนเลือกตั้ง (24 มี.ค.62) อยู่ที่ 76.00 บาท หลังเลือกตั้งแล้ว วันต่อมาปิดที่ 74.00 บาท อีก 6 วันต่อมาขยับขึ้นมาที่ 76.25 บาท ต่อมากลางเดือนเม.ย. ขยับขึ้นไปปิดที่ 78.00บาท ซึ่งตัวนี้ถ้าใครซื้อตอนสิ้นปี 61 บาท ราคา 68.75บาท ตอนนี้ ล่าสุด (24 พ.ค. 62) ปิดที่ 79.00 บาท จะได้กำไร 10.25 บาท/หุ้น หรือ 14.90%

CPF (บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร) ราคาก่อนเลือกตั้ง (24 มี.ค.62) อยู่ที่ 26.25 บาท หลังเลือกตั้งแล้ววันต่อมา 25.75 บาท อีกวันต่อมาขยับขึ้น 26.00บาท ต่อมาปลายเดือนเม.ย. ขยับขึ้น 27.75 บาท ซึ่งตัวนี้ถ้าใครซื้อตอนสิ้นปี 61 ราคา 24.60 บาท ตอนนี้ล่าสุด (24 พ.ค. 62) ปิดที่ 27.50 บาท จะได้กำไร 2.90 บาท /หุ้น หรือ 11.78%

MAKRO (บมจ.สยามแม็คโคร) ราคาก่อนเลือกตั้ง (24 มี.ค.62) อยู่ที่ 35.25บาท หลังเลือกตั้งแล้วขยับขึ้นทันที่ วันต่อมา 35.50 บาท จากนั้นก็เคลื่อนไหวในกรอบ 32-33 บาท ซึ่งตัวนี้ถ้าใครซื้อตอนสิ้นปี 61 ราคา 32.00 บาท ตอนนี้ล่าสุด (24 พ.ค. 62) ปิดที่ 33.00 บาท จะได้กำไร 1.00 บาท /หุ้น หรือ 3.12%

3.หุ้นของเจ้าสัวเจริญ…มี 10 ตัว คือ1.BJC (บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์) 2.GOLD (บมจ. แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์) 3.OISHI (บมจ.โออิชิ กรุ๊ป) 4.UV (บมจ.ยูนิเวนเจอร์) 5. SSC (บมจ.เสริมสุข) 6.SFP (บมจ.อาหารสยาม) 7. INSURE (บมจ.อินทรประกันภัย) 8. AMARIN (บมจ.อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง) 9. FPT (บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้) และ 10.TIC (บมจ.ไทยประกันภัย) โดยตัวที่น่าสนใจคือ

OISHI (บมจ.โออิชิ กรุ๊ป) ราคาก่อนเลือกตั้ง (24 มี.ค.62) อยู่ที่ 82.50บาท หลังเลือกตั้งแล้ว วันต่อมา 82.00 บาท อีก 5 วันต่อมา ขยับขึ้น 83.00 บาท จากนั้น 10 พ.ค. 62 ดีดไปถึง 101.00 บาท จากนั้นเคลื่อนไหวในกรอบ 92.00-96.50บาท ซึ่งตัวนี้ถ้าใครซื้อตอนสิ้นปี 61 ราคา 75.50 บาท ตอนนี้ล่าสุด (24 พ.ค. 62) ปิดที่ 96.50 บาท จะได้กำไร 21.00 บาท /หุ้น

FPT(บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้) ราคาก่อนเลือกตั้ง (24 มี.ค.62) อยู่ที่ 17.30บาท หลังเลือกตั้งแล้ว วันต่อมา 17.10 บาท อีก 6 วันต่อมาขยับขึ้น 17.30 บาท จากนั้นก็เคลื่อนไหวในกรอบ 16.60-17.30 บาท ซึ่งตัวนี้ถ้าใครซื้อตอนสิ้นปี 61 ราคา 13.70 บาท ตอนนี้ล่าสุด (24 พ.ค. 62) ปิดที่ 17.30 บาท จะได้กำไร 3.60 บาท/หุ้น หรือ 27.81%

ทั้งนี้หลังได้นายกฯคนใหม่ (แต่หน้าเก่าหรือป่าวนะ) ก่อนสิ้นเดือน พ.ค. นี้ แล้วจะมีการฟอร์มทีมคณะรัฐมนตรี ซึ่งน่าจะได้ตัวบุคคลชัดๆ ในเดือนมิ.ย.นี้แหละคะ (น่าจะเลยการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนระหว่างวันที่ 22-23 มิ.ย. 62) ถึงตรงนั้นก็จะได้เห็นหน้าตาทีมเศรษฐกิจว่าจะแจ่มแจ๋วขนาดไหนคะ

อย่างไรก็ตาม ตามตรรกะแล้ว ถ้าได้รัฐบาลที่สานงานต่อรัฐบาลเดิม ก็น่าจะทำให้เกิดความลื่นไหลและมีความต่อเนื่องมากขึ้น วันนี้ไปล่ะค่ะ บ๊ายย

Facebook Comments