เงินดิจิทัล

วันนี้ อิป้า ขอเกาะกระแส หน่อยนะคะซิส เรื่องร้อนฉ่า อย่างเจ้าสกุล เงินดิจิทัล ที่นับตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา เขามีมาตราการควบคุมกันแล้วนะคะ ไม่ใช่ปล่อยปะละเลย เหมือนเช่นอย่างเก่าแล้วเดี๋ยว อิป้าจะเหลาให้ฟังล่ะว่า เป็นเช่นไร ขาเผือกที่แท้ทรู อย่ารอช้า ล้อมวงเข้ามาเลยค้าาาา

เงินดิจิทัล สุดผันผวน

เอาเป็นว่า อิป้าจะเล่าง่ายๆ นะคะ คือไอ้เจ้าการลงทุนเงินดิจิทัล ผ่านคริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัลนั้น หลายฝ่ายหลายคน ยิ่งเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ มองว่า การระดมทุนเช่นนี้ มันสุ่มเสี่ยง และเป็นช่องโหว่ ข่องว่างทำให้การฟอกเงิน การหลอกลวงและตามมาด้วยการฉ้อโกงประชาชน นั้นเองค่ะ

ดังนั้นต้องมีผู้คุมกฎเหล็ก (บอร์ดก.ล.ต.) มาคอยสอดส่อง ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ทั้งผู้ประกอบธุรกิจ ตัวกลางการซื้อขาย โบรกเกอร์ แพลทฟอร์ม ผู้ค้า ดีลเลอร์ ซึ่งผู้ออกโทเค็นต้องเป็น บริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนเท่านั้น และการเสนอขายที่ออกใหม่ต่อประชาชน ต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตามข้อเสนอแนะของบอร์ด ก.ล.ต. เท่านั้นนะคะ

สำหรับสาระสำคัญของกฎหมายตัวนี้ อีกประเด็น คือกรณีของบทลงโทษ พบว่ามีทั้งโทษจำคุกและปรับ ซึ่งเป็นการป้องปราม หรือขู่ให้กลัว ..อิป้า ขอยกตัวอย่างเช่น ใครเสนอขายแบบไม่ได้รับอนุญาต ก.ล.ต. จะเพิกถอนใบอนุญาต แถมด้วยคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับเป็นเงินไม่เกิน 2 เท่าของราคาขาย แต่ไม่น้อยกว่า 500,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ โอ้มายก็อดดดด!!!

และหากผู้ใดแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงแก่นักลงทุน คุกไม่เกิน 5 ปี และปรับเป็นเงินไม่เกิน 2 เท่าของราคาขาย รวมถึงหากประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโดยมิได้รับอนุญาตคุก2-5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 – 500,000 บาท และปรับอีกวันละ 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืน

และหากกรรมการผู้จัดการ หรือบุคคลใด กระทําการเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 5-10 ปี และปรับตั้งแต่ 500,000-1,000,000 บาท

นอกจากนี้ ประเด็นสุดแหลมคมอย่างเรื่องการเสียภาษี เงินเข้าหลวง นั้นได้มีการประกาศ พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร พ.ศ.2561 ซึ่งเป็นกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกัน โดยกำหนดให้ผู้ที่มีกำไรจาก จากเงินดิจิทัลทั้งหลายแหล่ ต้องเสียภาษีร้อยละ 15 ด้วยนะจ๊ะ จะบอกให้ ไม่มีของฟรีในโลกแล้วนะคะ

อย่างไรก็ตาม เมื่อมองกระแสลงทุนเงินดิจิทัล โดยเฉพาะระดมทุนด้วยการออกเหรียญดิจิทัล ICO (initial coin offering) ยังมาแรงไม่หยุด ขณะนี้ทั่วโลกตอนนี้มี ICO 3,000-5,000 ราย แต่ไม่ถึงครึ่งที่ระดมทุนสำเร็จ ในไทยมีราว 10 ราย ถึงปลายปีน่าจะขยับไปถึง 100 ราย ซึ่งต่อไปเมื่อมีกฎหมายรองรับแล้ว น่าจะมากกว่า100 รายแน่นอน

เรื่องกฎเหล็กคุมเงินดิจิทัล ต้องถือว่าเป็นเรื่องใหม่เอี่ยมมั๊ก มาก ดังนั้นต้องมีการทำความเข้าใจให้กับชาวบ้านร้านตลาดอีกมาก อิป้าแว่วมาว่า 24 พ.ค. นี้ ทางมูลนิธินิติศาสตร์ กองทุนศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เตรียมจะจัดเสวนาเรื่องนี้กัน เชิญมือกฎหมายระดับประเทศ เช่นอาจารย์วิษณุ เครืองาม รวมไปถึง บิ๊ก ก.ล.ต. และหน่วนงานที่เกี่ยวข้องจะมาร่วมให้ความรู้ด้วย

ที่สุดแล้ว อิป้าต้องเตือนกันดังๆ เลยนะคะ ความโลภ มันมาพร้อมกับความเสี่ยงค่ะ และสุดๆ ของเงินดิจิทัลก็คือความผันผวน นั้นเองละค่ะ…ไปละ บ๊ายย
——————————

ติดตามที่ :
? Website : www.epahamalao.com
? Facebook : www.facebook.com/epahamalao
? Instagram : www.instagram.com/epahamalao
? Twitter : www.twitter.com/epahamalao

#หุ้น #กองทุนรวม #fund #set #Mutualfund #epahamalao #อิป้าหามาเล่า #ตลาดหุ้น #ตลาดหุ้นไทย #mai #เงินดิจิทัล #ดิจิทัล #ลงทุน #แบงก์ชาติ #ธปท. #ธนาคารแห่งประเทศไทย

Facebook Comments