หุ้น

มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า เรื่องนี้ต้องเม้าค่ะ เมื่ออาตี๋ อาหมวยลูกหลานมังกร ไม่ยอมเอาเงินมาโปรยให้ท่องเที่ยวบ้านเราเหมือนเดิม ฮะ! แรกพวกคนรัฐที่กุมอำนาจก็คิดว่าแค่สิว ๆ ชิลๆ เรื่องเล็กเดี๋ยวก็กลับมา ที่ไหนได้ล่ะค้าา เล่นหายวับๆ หล่นจ๋อมๆ ตัวเลขนักเที่ยวจีนรูดกราว จนบรรดาบิ๊กๆ ในรัฐบาลเต้นระวิง เพราะงานนี้ความเสียหายเกินกว่าที่คิดไว้หลายขุมค่ะ

ขณะที่เอกชนอย่าง “สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.)” อยู่ไม่ไหวแล้ว ต้องปรับลดเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวไทยในปีนี้ (2560) เหลือ 35 ล้านคน จากเป้าหมายเดิม 39 ล้านคน โดยยอดที่ลดลง 4 ล้านคนนั้น เป็นชาวจีน 2 ล้านคน หรือร้อยละ 50 ของทั้งหมด ส่วนที่เหลือเป็นนักท่องเที่ยวชาติอื่น เห็นมั้ยล่ะคะว่า ตี๋หมวยมังกรนั้นสำคัญไฉน

และสิ่งที่ตามมา คนหด เงินหายสิคะ จะรออะไร รายได้จากการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี 2561 จากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 3 ล้านล้านบาท ที่เป็นส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 ล้านล้านบาท นั้นปรับลดลงเหลือ 1.9 ล้านล้านบาท คือง่ายๆ ปรับลดลง 1 แสนล้านบาทนั้นเองค่ะ ไม่เท่านั้นถ้าประเมินแบบโลกไม่สวย วิฤกติลุกลามบานไปถึงตรุษจีนปี 2562 (กุมภาพันธ์) โอกาสหายนะหนัก สูงลิ่วเลยละค้าา

ในความจริงแล้ว ไตรมาส 4 ของทุกปีนั้น ถือเป็นช่วงแห่งความสุข สนุกสนาน การค้าการขายธุรกิจต่างๆ คึกคัก ท่องเที่ยวร่าเริง สนามบินแน่น ร้านค้ามือไม่ว่าง แต่ทว่าเมื่อเกิดสถานการณ์มังกรเมินเที่ยวไทยเช่นนี้ ผลกระทบจึงตกอยู่ที่ภาคธุรกิจ และหุ้นในธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างหลีกเหลี่ยงไม่ได้ โดยกลุ่มหลักที่โดนเต็มๆ คือ หมวดขนส่ง (ทางอากาศ) และสายการบินค่ะ

ตัวแรก พี่ใหญ่ของตาราง AOT (บมจ.ท่าอากาศยานไทย) สุดยอดแห่งหุ้นพื้นฐาน สุดยอดแห่งการผูกขาดยังต้านไม่ไหว เอาไม่อยู่ เจอปัจจัยพี่จีนมเที่ยวน้อย ผสมโรงกับปมร้อนสร้างเทอร์มินอล 2 บวกกับเหตุประเทศเกิดใหม่โดนโจมตีหนัก แถมพี่หรั่งเทไม่หยุด ทำให้ราคา AOT ถอดกรูดจากที่หลายฝ่ายแอบเชียร์ให้ทะลุ 70 วันนี้ลุ้นขอแค่อย่าหล่นต่ำกว่า 60 (ร่วง 3 วันติด ล่าสุด 61.00 -19 ต.ค.61)

ส่วนหุ้นสนามบินนั้น โดยทั่วหน้าเช่นกัน ทั้งประเด็นพี่จีนรวมกับน้ำมันขาขึ้น ทำให้ต้นทุนพุ่งราคาเกาะกลุ่มกันอ่อนหยวบแดงยกเซ็ตค่ะ อย่าง AAV (บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น) ราคาทรงกับฮวบติดต่อกัน 6 วัน (ล่าสุด 4.12 ต่ำที่สุดในรอบปี ณ วันที่ 19 ต.ค.61) ตัวนี้เคยขึ้นไปถึง 4.42 เมื่อ 21 ก.ย. 61 (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 6.50/4.12)

BA (บมจ.การบินกรุงเทพ) ราคาตัวนี้ นิ่งกับรูดลง 14 วันติดจาก 13.30 (3 ต.ค. 61) แล้วลงต่อเนื่องจากล่าสุด 12.40 ณ วันที่ 19 ต.ค.61 ราคาสูงสุด/ต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 18.60/11.40) ส่วนรักคุณเท่าฟ้า THAI (บมจ.การบินไทย) จาก 15.90 (1ต.ค.61) ลงกับทรงเป็นส่วนใหญ่ มีบวกอยู่ 3 วัน นอกนั้นดิ่งเหว ล่าสุด13.70 ณ วันที่ 19 ต.ค. 61 (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 18.80/12.20)

ส่วน NOK (บมจ.สายการบินนกแอร์) ถูกตลาดหลักทรัพย์ประกาศขึ้นเครื่องหมาย C (Caution) เป็นเครื่องหมายที่แสดงว่า บริษัทจดทะเบียนมีเหตุการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อฐานะการเงินและการดำเนินธุรกิจ (อ้างอิง www.set.or.th) ขณะที่ภาพรวม (19 ต.ค.61) หุ้นขนส่งและโลจิสติกส์ (TRANS) 21 ตัว มีบวกแค่ 2 ตัวเท่านั้น คือ ASIMAR (บมจ.เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์) และJWD (บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์)

หุ้นกลุ่มต่อมาที่โดนหางเลขไปด้วย เพื่อนจีนไม่มา โรงแรมที่พักก็เหงาสิคะ หมวดการท่องเที่ยวและสันทนาการ (TOURISM) จึงรับแรงกระแทกไปค่ะ ตัวเด่นๆ อย่าง CENTEL (บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา) ยังแกร่งหล่นเล็กน้อย ล่าสุด 39.25 (19 ต.ค.61) ส่วน ERW (บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป) ยังปิดบวก (19 ต.ค.61) ราคาล่าสุด 7.85 แต่เมื่อ1 ต.ค.61 ขึ้นไปถึง 8.10

DTC – บริษัท ดุสิตธานี ยังปิดบวก (19 ต.ค.61) ราคาล่าสุด 12.10 แต่เมื่อ 2 ต.ค. 61 เคยขึ้นไปถึง 13.80 ขณะที่ MINT (บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล) หมวดอาหารและเครื่องดื่ม ยังปิดบวก (19 ต.ค.61) ราคาล่าสุด 38.50 แต่เมื่อ1 ต.ค.61 ขึ้นไปถึง 41.75 ส่วนอีกตัวที่มีผลกระทบด้วย SPA (บมจ.สยามเวลเนสกรุ๊ป) จากต้นเดือน ต.ค.61 ราคา 15.70 แล้ว ยวบๆ ล่าสุด13.70 (เกือบต่ำสุดในรอบ 1 ปี-13.60)

นอกจากนี้ยังมีหุ้น (ธุรกิจ) ที่ชาวจีนชอบมาซื้อบริการ เมื่อมาน้อย ยอดอาจหดลงตามสัดส่วนค่ะ เช่น เครื่องสำอาง BEAUTY (บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้) ราคา 12.10 ต้นเดือนต.ค. 61 แล้วลงสลับหยุดนิ่ง ล่าสุดปิดที่ ราคาล่าสุด 9.05 (19 ต.ค.61) ส่วนอีกตัว DDD (บมจ.ดู เดย์ ดรีม) ช่วงนี้วิฤกติหนัก จาก 47.50 ตอนต้นเดือน ต.ค. 61 จากนั้นไหลรูดดั่งน้ำตก จนราคาล่าสุด 29.00 (ใกล้ถึงจุดต่ำสุดในรอบ1 ปี-28.00)

ฉะนั้นแล้วพี่เม่า น้องเม่าที่ถือหุ้นพวกนี้ต้องดูให้ดี จับจังหวะ การถอย อาจต้องยอม cut loss (ตัดขาดทุน) เมื่อถึงจุดที่กำหนดไว้ เพื่อไม่ให้มันฉุดคุณลงก้นเหวนะคะ ส่วนคนที่ประสงค์เล่นเก็งกำไรระยะสั้นหรือจะเข้ามาช้อนของถูก ต้องศึกษาให้ดี แต่อย่างไรก็ตาม หุ้นเหล่านี้บางตัวอย่าง AOT CENTEL MINT นั้นพื้นฐานแกร่งเหลือหลาย หากสถานการณ์คลาย หุ้นเหล่านี้ น่าจะกลับมาดีดได้ค่ะ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ตลาดหุ้นเรายิ่งกว่าคลื่นลมในทะเลอันดามันอีกนะคะ ฉะนั้นแล้ว จะเลือกลงทุนตัวไหน พิจารณาให้ถ้วนถี่นะคะ…ไปล่ะบ๊ายย

———————————-

ติดตามที่ :

#หุ้น #กองทุนรวม #fund #set #Mutualfund #epahamalao #อิป้าหามาเล่า #ตลาดหุ้น #ตลาดหุ้นไทย #mai #ลงทุน #ออมเงิน

Facebook Comments