สมคิด จาตุศรีพิทักษ์

มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า ศึกเลือกตั้ง 62 ธงรบสบัดแรงขึ้นเรื่อยๆ นะคะ ดั๊นเลยจะพาไปส่องในบางโปรไฟล์ของ แม่ทัพทีมเศรษฐกิจ 3 พรรคการเมืองดัง ว่าจะดีดเด้งเฟี้ยวฟ้าวขนาดไหน ทรัพย์สมบัติอู้ฟู่แค่ไหน และที่สำคัญ ความเชื่อมโยง ความสัมพันธ์กับตลาดหุ้นในบริบทใดบ้าง …เฮียกวง-เสี่ยกรณ์-บอสทริป พร้อมนำเหนอตัวแล้วค้าาาา

คนแรก กระดูกเบอร์ใหญ่สุดต้อง “เฮียกวง-ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ในวัย 66 ปี ผ่านสมรภูมิ ทั้งการเมือง-เศรษฐกิจ มายาวนาน และวันนี้ “อำนาจ” ของเฮียกวง แผ่ไพศาล นอกจากจะคุมงานในกระทรวงต่างๆ (คลัง-ต่างประเทศ-เกษตรฯ-คมนาคม-พาณิชย์-วิทยาศาสตร์-อุตสาหกรรม-สภาพัฒน์ -บีโอไอ) ในฐานะรองนายกแล้ว ยังเป็น 1 ในรายชื่อที่จะอยู่ในบัญชีนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ อีกด้วย

โปรไฟล์”เฮียกวง แน่นม๊าก จบโท MBA สาขาบริหารการเงิน นิด้า แล้ว ไปได้ปริญญาเอก สาขาบริหารธุรกิจ เน้นการจัดการด้านการตลาด ที่มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น สหรัฐอเมริกา

ความสัมพันธ์กับตลาดหุ้น…เฮียกวง ถือหุ้นใน PDG (บมจ.พรอดดิจิ) ผู้ผลิตขวด PET สำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม น้ำมันพืช ซื้อขายในตลาด MAI โดย เฮียกวงถือเป็นอันดับ 12 คือ 2,400,000 หุ้น (0 .89%) และมี (บมจ.น้ำมันพืชไทย) ถือหุ้นใหญ่สุด 86,000,000 หุ้น (31.85%) (อ้างอิงhttps://www.set.or.th)

นอกจากนี้ เขายังเคยเป็นกรรมการ การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ก่อนที่จะแปลงร่างเป็นบริษัทปตท. , เคยเป็นกรรมการ PTTEP :(บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม)., ที่ปรึกษา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, กรรมการในอนุกรรมการพิจารณารับและเพิกถอนหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ฯ,ประธานกรรมการ SPI (บมจ.สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง)

สมบัติเฮียกวง…สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรี “ลุงตู่3” เมื่อปี 58 …ระบุเฮียกวงมีทรัพย์สิน 56,944,641 บาท ไม่มีหนี้สิน ส่วนคู่สมรสมี 78,579,988 บาท ไม่มีหนี้สิน บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมี 11,392,299 บาท ไม่มีหนี้สิน รวมเบ็ดเสร็จมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 146,916,928 บาท ไม่มีหนี้สิน

เมื่อเทียบกับช่วงพ้นตำแหน่ง รมว.คลัง สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร เมื่อช่วงปี 48 แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 83,117,410 บาท เท่ากับว่าผ่านมากว่า 10 ปี (ถึงปี 58) นายสมคิด มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 63,799,518 บาท ไม่มี หนี้สิน (อ้างอิงเว็บwww.isranews.org 13 ตุลาคม 58)

คำทำนายนักวิชาการปี 58 “คุณสมคิดจะมาเล่นในเรื่องของรากหญ้า…มีการอัดฉีดเงินเพิ่มมากขึ้น ส่งเสริมด้านสินค้าและรายได้ของกลุ่มรากหญ้า ควบคู่ไปกับกระตุ้นการค้าบริเวณชายแดนมากขึ้น และเขตเศรษฐกิจต่างๆ นอกจากนี้ ยังพยายามเจาะตลาดต่างประเทศในแง่ของด้านมหภาค”…คำกล่าวของรศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระ (อ้างอิง ไทยรัฐออนไลน์ 20 ส.ค. 58)

ต่อมาเราจึงได้เห็นนโยบายประชารัฐ มากมาย แจกสะบัดไม่รอแล้วน้า เอาใจทุกกลุ่มชน ทั้งบัตรคนจน, ลดราคาค่าเช่าตลาดนัดจตุจักร, ช่วยเหลือชาวสวนยาง,ทำโครงการบ้านผู้มีรายได้น้อย 1 ล้านหลัง ,แจกบำนาญข้าราชการเพิ่มเงิน 10,000 บาท/เดือน, การพักชำระหนี้ให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ฯลฯ
—————————————————————-
คนต่อมา เสี่ยกรณ์ -กรณ์ จาติกวณิช วัย 55 ปี แม่ทัพเศรษฐกิจ ค่ายสีฟ้า ดีกรี ปริญญาตรี สาขาปรัชญา การเมือง และเศรษฐศาสตร์ (เกียรตินิยมอันดับสอง) มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด เคยเป็นขุนคลัง ในรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี51

ความสัมพันธ์กับตลาดหุ้น…เขาเคยเป็นกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย,กรรมการสมาคมบริษัทตลาดหลักทรัพย์ ,กรรมการ(บมจ.อยุธยา ซีเอ็มจี แอสชัวรันส์) , กรรมการ (บมจ.ไทยประกันภัย), กรรมการ (บมจ.ไทยยิบซั่ม) และมีชื่อน้องชาย นายอนุตร จาติกวณิช เป็นกรรมการ GLOW (บมจ.โกลว์ พลังงาน)

นอกจากนี้ความเคลื่อนไหว ในช่วงเดือน ก. ย.61 เสี่ยกรณ์ – ไล่บี้ปม GPSC (บมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่) บริษัทลูกปตท. จะเข้าซื้อ GLOW (บมจ.โกลว์ พลังงาน) จน คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ต้องตั้งการด์สูง แต่ท้ายสุดก็ไฟเขียว… ต่อมาเสี่ยแกออกโรงอีกรอบขย่ม ค้านหุ้นน้องใหม่เป็นโรงเรียนแห่งแรกที่ระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์

ต่อมาเขา โปรยยาหอมหนักมากค่ะ แมงเม่านี่ขนลุกเกรียวเลย..แกบอก ใน 4 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ 2,500 จุด สะท้อนถึงการประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจ, ตั้งเป้าบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่มีผลประกอบการที่มาจากการค้ากับต่างประเทศ มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 50% ฯลฯ (อ้างอิงเว็บกรุงเทพธุรกิจ 25 ม.ค.62)

ทรัพย์สิน…เสี่ยกรณ์ แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินช่วงพ้นตำแหน่ง ส.ส เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2556 ต่อคณะป.ป.ช.ระบุว่า มีรายได้รวมคู่สมรส คือ นางวรกร จาติกวณิช เป็นจำนวนเงิน 6,786,254.80 บาท มีรายจ่าย 14,601,665.62 บาท มีทรัพย์สินรวม 907,460,896 .92 บาท แต่ไม่มีหนี้สิน (อ้างอิงเว็บwww.isranews.org )

เกียรติประวัติ… ม.ค. 53 นิตยสาร The Banker นิตยสารชั้นนำของประเทศอังกฤษ คัดเลือกให้นายกรณ์ เป็น “รัฐมนตรีคลังโลก ปี 2010” และ “รัฐมนตรีคลังเอเชียแห่งปี 2010” โดยคัดเลือกจากรัฐมนตรีคลังในประเทศต่างๆ ทั่วโลก 5 ภูมิภาค ได้แก่ อเมริกา ยุโรป เอเชีย แอฟริกา และตะวันออกกลาง
———————————————————-
คนต่อมา บอสทริป นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ วัย 53 ปี จบเตรียมอุดมศึกษา ต่อที่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเกียรตินิยมอันดับ 1 ต่อมาได้รับทุนอานันทมหิดลในระดับปริญญาโท สาขาวิศวกรรมโครงสร้างจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ และระดับปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมในเดือนมกราคม ปี 55

ความสัมพันธ์กับตลาดหุ้น เคยเป็นกรรมการ (บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์) (บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์) และต่อมา (บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์) มีมติแต่งตั้ง บอสทริป เป็นกรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ 1 ม.ค. 58 และได้ลาออกจากตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 62 เป็นต้นไป เพื่อลงการเมืองเต็มตัว (บัญชีนายกฯอันดับ 2 พรรคเพื่อไทย)

ทรัพย์สิน นายชัชชาติ ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อป.ป.ช. ต้อนรับตำแหน่งรัฐมนตรีคมนาคม วันที่ 23 ม.ค. 55 มีทรัพย์สิน 19,250,462.34 บาท และเมื่อรวมกับ นางปิยดา คู่สมรส (นามสกุลเดิม อัศวฤทธิภูมิ รวมทรัพย์สิน 2 คน 50,531,762.33 บาท ในจำนวนนี้เป็นเงินลงทุนรวม 33,713,280.34 บาท ไม่มีหนี้สิน

ผลงานในอดีต สมัยเป็นเสนาบดี เขาให้ความสำคัญ กับการขนส่งระบบรางเป็นพิเศษ เช่น การแก้แบบสถานีกลางบางซื่อให้รองรับรถไฟความเร็วสูง, การแก้แบบสายสีแดงเข้มจาก 3 ทางเป็น 4 ทาง, การจัดซื้อจัดขบวนรถด่วนพิเศษ CNR จำนวน 8 ขบวน, การเปลี่ยนรางรถไฟในภาคเหนือตอนบนทั้งหมด ฯลฯ (อ้างอิงเว็บข่าวสด)

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตอันใกล้ ถ้าไม่ล๊อกถล่ม เราจะได้เห็น เฮียกวง-เสี่ยกรณ์-บอสทริป 1 ใน 3 คนนี้คนใดคนหนึ่ง คุมหางเสือเศรษฐกิจบ้านเรากันแน่นอนคะ…วันนี้ไปละคะ บ๊ายย

Facebook Comments