มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า จากค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น บวกกับภาครัฐเตรียมเร่งจัดเก็บภาษีความหวาน ในอีก 6 เดือน ข้างหน้าหรือ 31 มี.ค.2566 ส่งผลให้หุ้นกลุ่มเครื่องดื่มชูต้องได้รับผลกระทบไม่ใช่น้อย
ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาเครื่องดื่ม “คาราบาวแดง” หรือ บมจ.คาราบาวกรุ๊ป หรือ CBG ที่ต้องเผชิญอยู่ อิป้าได้เข้าไปสำรวจพบว่า ราคาสิ้นปี 2564 ปิดที่ 119.50 บาท ขณะที่ราคาล่าสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 ปิดที่ 85.25 บาท ลดลงไปกว่า 34.25 บาท หรือ 28.66% (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)
นอกจากนี้อิป้าเลยแอบไปส่องดูพอร์ตของน้าแอ๊ด คาราบาว ว่า พอร์ตของเขานั่นเป็นอย่างไรกันบ้าง ซึ่งก็พบว่า ยืนยง โอภากุล หรือแอ๊ดคาราบาว ถือเป็นลำดับ ที่ 3 จำนวน 70,480,000 หุ้น หรือ 7.05% หากเทียบช่วงราคาสิ้นปีจะมีมูลค่ากว่า 8,422,360,000 บาท ขณะที่ล่าสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 มีมูลค่าที่ 6,008,420,000 บาท หรือลดลง 2,413,940,000 บาท
ขณะที่นางลินจง โอภากุล ภรรยา ถือเป็นลำดับ ที่ 6 จำนวน 26,166,900 หุ้น หรือ 2.62% หากเทียบช่วงราคาสิ้นปีจะมีมูลค่ากว่า 3,126,944,550 บาท ขณะที่ล่าสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 มีมูลค่าที่ 2,230,728,225 บาท หรือลดลง 896,216,325 บาท
ขณะที่ลูกสาวและลูกชาย น.ส. ณิชา โอภากุล ถือเป็นลำดับที่ 9 จำนวน 17,794,600 หุ้น หรือ 1.78% หากเทียบช่วงราคาสิ้นปีจะมีมูลค่ากว่า 2,126,454,700 บาท ขณะที่ล่าสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 มีมูลค่าที่ 1,516,989,650 บาท หรือลดลง 609,465,050 บาท
นายวรมัน โอภากุล ถือเป็นลำดับที่ 10 จำนวน 15,219,100 หุ้น หรือ 1.52% หากเทียบช่วงราคาสิ้นปีจะมีมูลค่ากว่า 1,818,682,450 บาท ขณะที่ล่าสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 มีมูลค่าที่ 1,197,428,275 บาท หรือลดลง 621,254,175 บาท
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า น้าแอ็ดและครอบครัวจะมีเงินในพอร์ตปรับลดลงไปตั้งแต่ต้นปีทำเงินหล่นหายไปกว่า 4,540,875,550 ล้านบาท แต่คาดว่า น่าจะเป็นแค่ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เพราะหากาเข้าสู่ช่วงหน้าร้อนแล้วหุ้น CBG น่าจะพลิกฟื้นกลับขึ้นมาได้…วันนี้ไปล่ะค่ะ…บ๊ายยย