มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า วันนี้จะมาเม้าตระกูลการเมืองดังของเมืองไทย อย่าง “ลิปตพัลลภ” ที่ปลุกปั้นแบรนด์ “พราว เรียล เอสเตท” จนดังและจ่อ “Backdoor Listing” FOCUS (บมจ.โฟคัส ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น) ในเร็วๆนี้ และหลังดีลสำเร็จ เปลี่ยนรหัสจาก FOCUS เป็น PROUD
เกริ่นเรื่องก่อนนะคะ คือทาง FOCUS เตรียมเพิ่มทุน 451.39 ล้านหุ้น (หุ้นละ 1.44 บาท) ให้แก่นายพสุ และนางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ เจ้าของ พราว เรียล เอสเตท จำกัด เพื่อระดมทุนส่วนหนึ่งใช้รองรับการเข้าซื้อที่ดิน 2 แปลงในหัวหินของกลุ่มพราว และ “วานา นาวา” มูลค่ารวม 1,325 ล้านบาท หลังจบดีล พสุ-พราวพุธ เข้าถือหุ้นใหญ่ใน FOCUS รวม 70.37% แล้วเปลี่ยนเป็น PROUD
และเป็นอีกหนึ่ง ดีล Backdoo Listing (เป็นการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทางอ้อม จัดเป็นวิธีการเข้าตลาดหุ้นที่เร็วที่สุด) เศรษฐีทุ่มใส่เงินเข้าไปในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เรียบร้อยค่ะ ที่ผ่านมามีหลายตัวนะคะที่ใช้วีธี Backdoo เช่น EARTH , NUSA ,CGD , DIGI ฯลฯ
เอาล่ะมาพูดถึง 2 พี่น้อง พสุ -พราวพุธ ลูกชาย – ลูกสาวของนักการเมืองชื่อดังเมืองไทยคือ “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” อดีตรองนายกรัฐมนตรี (รัฐบาลทักษิณ) อดีตรัฐมนตรีว่าการหลายกระทรวง สมรสกับพลโทหญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มีบุตรด้วยกัน 2 คนคือ พสุ -พราวพุธ นั่นเอง
ในศึกเลือกตั้ง 24 มี.ค. 62 นี้ นายสุวัจน์ สวมหมวกประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และให้น้องชาย (เทวัญ) เป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 5 โดยพรรคนี้งัดสมบัติก้นหีบ ดึงจุดขายโบราณอย่าง “No Problem” วลีเด็ดของ น้าชาติ (พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ) นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 17 มาเป็นจุดขายขอคะแนนในครั้งนี้
ครั้งหนึ่้ง วลี “No Problem” โด่งดังมากกก (ก.หลายตัวเลยคร้าา) ขนาดน้า แอ๊ด คาราบาว ยังแต่งเพลงล้อเลียนการเมืองออกมาชื่อ “โนพลอมแพลม” กันเลยค่ะ
มาถึงธุรกิจของตระกูล ลิปตพัลลภ นั้น เมื่อก่อนธุรกิจหลักคือ บริษัท ประยูรวิศว์ ทำรับเหมาก่อสร้าง จดทะเบียน 3 มิถุนายน 2507 อดีตเคยโด่งดังมากถึงมากที่สุด เป็น 1 ใน 5 เสือ กรมทาง โดยมักจะ “ได้” งานก่อสร้างกระทรวงคมนาคมมาอย่างยาวนาน-แต่ตอนนี้ไม่ปังเหมือนเดิมแล้ว (5 เสือ – กรุงธนเอนยิเนียร์ -ประยูรวิศว์ -วิจิตรภัณฑ์-สีแสงการโยธา-ไทยวัฒน์วิศวการทาง)
ต่อมาตระกูลลิปตพัลลภ ขยับไลน์เข้าวงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และมีธุรกิจ 19 บริษัท รวมทุนจดทะเบียน 4,088.1 ล้านบาท นอกจากธุรกิจอสังหาฯ แล้ว เมื่อวันที่ 23 พ.ค.55 กลุ่มลิปตพัลลภได้จดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท จรัสการบิน จำกัด ประกอบกิจการให้เช่าบริการทางการบินอีกแห่งหนึ่ง โดยใช้ทุน 24 ล้านบาท นางจรัสพิมพ์ เป็นกรรมการ (อ้างอิง เว็บ isranews.org)
ธุรกิจอสังหา ที่ดังๆ คือ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน (ของคุณแม่สุวัจน์-จรัสพิมพ์ ลิปตพัลลภ) ,โปรเจกต์ใหญ่ร่วมกับ “คุณแอ๊ว-ศุภลักษณ์ อัมพุช” ค่ายเดอะมอลล์ สร้างศูนย์การค้าช็อปปิ้งคอมเพล็กซ์ ที่หัวหิน คือ โครงการบลูพอร์ท ต่อด้วยโครงการของครอบครัวคือ “วานา นาวา หัวหิน” ฯลฯ
ซึ่งในตระกูล ลิปตพัลลภ ปรากฎชื่อของผู้ถือหุ้นในบริษัทหลักทรัพย์เพียงคนเดียวคือ จรัสพิมพ์ ลิปตพัลลภ ถือ ORI (บมจ.ออริจิ้นพร็อพ) ถือเป็นลำดับ 8 (ถือ 64,257,030 หุ้น หรือ 2.62%) ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยสร้างบิ๊กดีลมาแล้วเมื่อปี 60 ทาง ORI เข้าไปซื้อหุ้น 100% มูลค่า 4,000 ล้านบาท ในขณะที่ พราว เรสซิเดนซ์ (ของตระกูลลิปตพัลลภ ) เข้าไปถือหุ้น ORI ในสัดส่วน 5% มูลค่าหุ้น 1,000 ล้านบาท
ขณะที่โปรไฟล์ของ “หนุ่มพสุ” นั้นไม่ธรรมดาค่ะ จบปริญญาตรีทางด้านการเงินที่ Westminster University และจบปริญญาโททางด้าน real estate development จาก Cass University ประเทศอังกฤษ ได้ทำงานสะสมประสบการณ์ในต่างประเทศมากว่า 7 ปี ก่อนกลับมาบริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวหลายโครงการ
ส่วนโปรไฟล์ของ “สาวพราวพุธ” วัย 32 ปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ปริญญาโทด้านการบริหารที่ลอนดอน บิสเนส สคูล ทำงานกับ “บริษัท แมคคินซี่ แอนด์ คอมพานี อิงค์ ไทยแลนด์” ก่อนเปิดบริษัทพัฒนาอสังหาฯ “พราว เรียลเอสเตท จำกัด” และเตรียม Backdoo เข้าตลาดหลักทรัพย์นั่นเองค่ะ
ต้องจับตาดูล่ะค่ะว่า PROUD หุ้นน้องใหม่อสังหาฯ จะวิ่งไปทางไหน ซึ่งถ้าหากพรรคชาติพัฒนา ได้ร่วมรัฐบาลก็น่าจะได้อานิสงส์ ไปด้วยนะคะ…วันนี้ไปละค่ะ บ๊ายย
