มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า วันนี้ขอเหลา “หุ้นพลังงาน” กันอีกระลอกนะคะซิส…ช่วงก่อน ต้องบอกว่า “ร่วงระนาว-เจ๊งระนาด” เซ่นราคาน้ำมันดิบทรุดหนัก บางคนโอดราคาลงเหมือนจะเลิกกิจการ แต่1-2วันนี้เริ่มนิ่งๆ บ้าง และในเดือน ธ.ค.61 นี้ จะมี “ข่าวดี” ให้กับ “หุ้นพลังงาน” ที่น่าจะพอมีแรงฮึด กลับมาทำราคาได้บ้างไม่มากกก็น้อยค่ะ
ข่าวดีแรกคือ เรื่องการเปิดประมูลขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในทะเลอ่าวไทย หมายเลข G1/61 (แหล่งเอราวัณ) และ G2/61 (แหล่งบงกช) ที่ตามไทม์มิ่งแล้ว จะได้ผู้เข้าวินแล้วจะมีการนำเสนอคณะกรรมการปิโตรเลียมพิจารณา ก่อนนำเหนอครม. เลือกผู้ชนะในเดือน ธ.ค. 61 และลงนามสัญญา ก.พ. 62 ซึ่งจะก่อให้เกิดการลงทุนมูลค่า 1.1 ล้านล้านบาท ในอีก 10 ปีข้างหน้า (อ้างอิงเว๊บแนวหน้า)
โดยแหล่งเอราวัณ มี ชิง 2 ราย ได้แก่ 1. บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในกลุ่ม PTTEP (บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม) ถือหุ้น 60% ร่วมกับ บริษัท เอ็มอี จี 2 (ประเทศไทย) จำกัด ในกลุ่มมูบาดาลา จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถือหุ้น 40% และ 2.บริษัทเชฟรอน ไทยแลนด์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ถือหุ้น 74% ร่วมกับบริษัท มิตซุย ออยล์ เอ็กซ์โปลเรชั่น คัมปานี ลิมิเต็ด ถือหุ้น 26%
สำหรับโครงสร้างผู้ร่วมทุนในแหล่งเอราวัณเดิม จะประกอบไปด้วย บริษัท เชฟรอน ประเทศไทยสำรวจและผลิตถือหุ้น 71.25%, บริษัทมิตซุย ออยล์ เอ็กซพลอเรชั่น (MOECO) 23.75% และ ปตท.สผ. 5% (อ้างอิงเว็บประชาชาติ)
ส่วนแหล่งบงกช มีชิง 2 ราย ได้แก่ 1. บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ถือหุ้น 100% และ 2.บริษัทเชฟรอน ไทยแลนด์ โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 74% ร่วมกับบริษัทมิตซุย ออยล์ เอ็กซ์โปลเรชั่น คัมปานี ลิมิเต็ด ถือหุ้น 26% สำหรับโครงสร้างผู้ร่วมทุนในแหล่งบงกชเดิม ประกอบไปด้วยบริษัท ปตท.สผ. 66.6667% กับบริษัทโททาล อีแอนด์พี ไทยแลนด์ 33.3333%…(อ้างอิงเว็บประชาชาติ)
ทั้งนี้ จากการที่ได้ผู้ชนะประมูล 2 แหล่งต่างเป็นผลดีต่อหุ้นพลังงาน ในภาพรวมแน่นอน เพราะจะสร้างความคึกคักให้กับวงการ ซึ่งถ้าทาง PTTEP เข้าวินแหล่งใดแหล่งหนึ่งก็จะช่วย หนุนอัพไซด์พื้นฐานรอบใหม่ให้กับหุ้นตัวนี้ อย่างแน่นอนเลยทีเดียวค่ะ รวมไปถึงตัวแม่อย่าง PTT (บมจ.ปตท.) ก็พลอยรับอานิสงส์จากท่อก๊าซไปด้วยเช่นกัน
ข่าวดีที่ 2 คือการหารือเรื่องการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมโอเปค 6 ธ.ค.61ที่จะถึงนี้ (คาดว่าทางกลุ่มอาจจะลดกำลังการผลิตในระดับ 1-1.4 ล้านบารเรล์/วัน) ซึ่งงานนี้ ทางโกลด์แมน แซคส์ออกรายงานมาดักหน้าเลยคะว่า การประชุมโอเปค จะเป็นตัวหนุนราคาน้ำมันให้รีบาวน์ หลังตกลงเรื่องลดกำลังการผลิตกันได้ (แต่ถ้าดีลไม่จบก็วงแตกนะคะ)
ข่าวดีที่ 3 การเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ในการประชุม G20 วันที่ 30 พ.ย.-1ธ.ค.61จะช่วยคลายกังวลต่อหุ้นรวมถึงราคาน้ำมันดิบ ซึ่งหลายสำนักเทใจ คาดว่าตาทรัมป์น่าจะลดความแข็งกร้าวลงหลังผ่านการหาเสียงเลืองตั้งกลางเทอมไปแล้ว (อ้างอิงเว็บกรุงเทพธุรกิจ)
ฉะนั้นแล้วไปส่องดูราคาของ PTTEP (บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม) ถ้าเริ่มสารตั้งต้นที่เปิดหัวไตรมาส4 (1 ต.ค.61) ราคาอยู่ที่ 160.00 บาท จากนั้นก็หล่นเรี่ยต่ำตมไปเรื่อยค่ะ หลุด 150 บาทแล้ว 140 บาท แล้ว 130 บาทแล้วยังไม่หนำใจ ไหลไปกองที่ 128.00 บาท (22 พ.ย.61) และราคาล่าสุดเริ่มบวกแล้ว อยู่ที่ 129.00 บาท (28 พ.ย.61)
ทั้งนี้ตามตำรา (รุ่นโบราณ อิอิ) แล้วนั้น ไตรมาส 4 ต่อเนื่องไตรมาส 1 มักจะเป็นช่วงนาทีของหุ้นกลุ่มพลังงานเลยนะคะ แต่วันนี้อะไรก็ผันผวนไปหมดค่ะ…ขอให้สมหวังกับทุกการลงทุนนะคะ ไปละบ๊ายย
