มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า วันนี้จะเม้าท์เรื่องในกระแส “โอสถสภา” เตรียมส่งหุ้น OSP ลงสังเวียนเปิดให้จองซื้อ 1-4 ต.ค.นี้ รายละเอียดเพื่อนๆ คงรู้กันแล้ว แต่อิป้าจะพาไปเจาะลึก ดูที่มาความเป็นไปของแม่ทัพหญิงโอสถสภา ที่ชื่อ “วรรณิภา ภักดีบุตร” ว่าทำไมองค์กร 127 ปี จึงไว้วางใจสตรีผู้นี้ให้บริหารงานหินเยี่ยงนี้ และที่สำคัญเธอจะสามารถดันหุ้น OSP ไปไกลได้แค่ไหน?
โดยโปรไพล์ของเธอนั้น ไม่ธรรมดาอย่างยิ่งค่ะ “วรรณิภา” หรือ “พี่อ้น” วัย 55 กะรัต นั้นหัวดีเรียนเก่งตั้งแต่เด็กๆ แล้ว จบเกียรตินิยมอันดับ 1 จากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แล้วไปได้ปริญญาโท บริหารธุรกิจบัณฑิต (MBA) ที่ซานดิเอโก สหรัฐฯ
จากนั้นแล้วก้าวเข้าสู่ “มนุษย์เงินเดือน” ที่ยูนิลีเวอร์ ในตำแหน่ง management trainee หรือ ผู้จัดการฝึกหัด จากนั้นเติบโตมาโดยตลอด ทำงานมาเกือบ 30 ปี บริหารแบรนด์ดังๆ มามากมายทั้ง บรีส ซันซิล คลีนิค โดฟ ลักส์ วาสลีน พอนด์ส ซิตร้า ซันไลท์ คอมฟอร์ท วิม โอโม ฯลฯ ซึ่งต้องออกงานบ่อยๆ เลย กลายเป็นโลโก้ของ “ยูนิลีเวอร์ “ไปเลยค่ะ
“วรรณิภา” ได้ศึกษาทุกกลยุทธ์ที่ “นักการตลาด” ที่ดีพึงจะมีจากเจ้านายเก่าอย่าง วิโรจน์ ภู่ตระกูล คนไทยคนแรกที่เป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัทลีเวอร์บราเดอร์ส ในประเทศไทย (เสียชีวิตไปแล้ว) หรือกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ (อดีตบอสธนาคารไทยพาณิชย์ และปลุกปั้นยูนิลีเวอร์มา 30 กว่าปี)
“วรรณิภา” เคยสัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ”เมื่่อ ปี 2551 ว่า “วิธีการรักษาความเป็นผู้นำ บริษัทต้องมีกลยุทธ์ชัดเจน ว่าแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์เราจะพัฒนาตราสินค้าไปในทิศทางไหน ให้ตอบสนองผู้บริโภคได้ตลอดเวลาหลายแบรนด์ของเรามีอายุเยอะ เราต้องทำให้แบรนด์เติบโตควบคู่ไปกับสังคม โตไปกับผู้บริโภคให้ได้”
ต่อมาปี 2559 “วรรณิภา” ขณะนั้น ตำแหน่ง” รองประธานกรรมการบริหารด้านผลิตภัณฑ์ความงาม ดูแลแบรนด์เพอร์ซันนอล แคร์ ” ถูก คนวงใน “โอสถสภา” มาตามจีบหลังจากสอยตัว กรรณิกา ชลิตอาภรณ์ ไปช่วยงานแล้ว (ปัจจุบันตำแหน่งรองประธานกรรมการบริษัท โอสถสภา) และในที่สุด 1 มิ.ย. 59 “วรรณิภา” ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ รับงานเข็นโอสถสภาเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
ขณะเดียวกัน “เพชร โอสถานุเคราะห์ ” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โอสถสภา เปิดใจกับ a day BULLETIN ฉบับวันที่ 21 พ.ย. 59 ว่า “ผมให้สิทธิและอำนาจในการบริหารงานและการตัดสินใจของคนที่ผมเลือกเข้ามา ทุกคนรู้ว่ากรรมการผู้จัดการใหญ่ คุณวรรณิภา คือผู้นำทีมบริหาร ผมมีหน้าที่สนับสนุน ทำให้ทุกอย่างไปในทิศทางที่ถูกต้อง โดยอาศัยการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหาร”
พร้อมกับเอ่ยชม “วรรณิภา” ว่า “ผมรับตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหาร คนที่ทำงานจริงๆ แบบวันต่อวันเลยก็จะเป็น คุณวรรณิภาถือว่าเขาเป็นนักการตลาดที่มีฝีมือและมากด้วยประสบการณ์คนหนึ่งของประเทศไทย หลังจากที่เราได้คุณวรรณิภามาร่วมงาน ตอนนี้เราก็มีคนที่มีความสามารถอีกหลายๆ คนมาร่วมงานกับเราเพิ่มขึ้นอีก”
“วรรณิภา” นั้นยังมีชื่อเคยเป็น (บางที่ยังเป็นอยู่) กรรมการบริษัทอยู่หลายที่ เช่น บริษัท ยูนิชาร์ม (ประเทศไทย) จำกัด ,บริษัท โอสถสภา เบฟเวอเรจ จำกัด ,บริษัท สยามกลาส อินดัสทรี จำกัด, บริษัท สยามกลาสอยุธยา จำกัด ,
บริษัท กรีนสวิลล์ จำกัด, สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย(เพื่อนกรรมการคนดังเพียบเช่น อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม, พสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตฯ, เจน นำชัยศิริ)
ทั้งนี้ ด้วยประสบการณ์ จากโรงเรียนสอนนักการตลาดระดับอ๋อง อย่างยูนิลีเวอร์ ทำให้ “วรรณิภา” ถูกเลือกมาถือธงนำ “โอสถสภา” และเธอลั่นวาจาไว้ว่า “จะนำพาโอสถสภาก้าวขึ้นเป็นบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำ”
ซึ่งสินค้าเมนที่ต้องโฟกัสนั้นคือ เครื่องดื่มบำรุงกำลัง ตัวพ่ออย่าง เอ็ม-150 และลูกอย่างๆ เอ็ม-สตอร์ม, ลิโพวิตัน-ดี, ฉลาม, ชาร์คคูลไบท์, โสมอิน-ซัม, เอ็มเกลือแร่
เป็นที่รู้กันว่า ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังเป็นตลาดปราบเซียน และแม้ข้อมูลจาก Frost & Sullivan จะบอกว่าปี 60 เอ็ม-150 เป็นผู้นำตลาด สัดส่วน 54.4% แต่อย่าลืมว่าคู่แข่งตัวเอ้นั้น ไล่ตามมาติดๆ อย่าง คาราบาวแดง-คาราบาวกรุ๊ป ของเสี่ยเสถียร และน้าแอ็ด ,กระทิงแดง-กลุ่มธุรกิจทีซีพี ,T 247 ของอิชิตัน กรุ๊ป
อย่างไรก็ตามต้นเดือนหน้า หุ้น OSP จะถูกจับตาอย่างม๊ากกก ถ้าดูจากชื่อชั้นความเก๋าคนบริหาร สายป่านยาวเหยียด เงินหน้าตักล้นทะลัก แล้ว น่าจะไปโลดด ค่ะ…ไปละ บ๊ายย
