epahamalao

จัดพอร์ตการ ลงทุน ให้ปัง ปัง ด้วย7ทริค

ลงทุน

วันนี้ อิป้า ขอเม้าเรื่องพื้นฐานหน่อยนะคะ เผื่อมือใหม่ เพิ่งเข้าสู่วงการ อาจจะได้คำแนะนำเล็กๆน้อยๆนะคะ คือเรื่อง “การจัดพอร์ตการลงทุน” ของคุณให้สมดังหวังตั้งใจ ซึ่งก็คือการจัดสรร การลงทุนให้กระจายไปในหลายประเภทสินทรัพย์ เช่น หุ้น ตราสารหนี้ และสินทรัพย์อื่นๆ กระจาย “ความเสี่ยง” ค่ะ มาดูว่าเราจะจัดพอร์ตการลงทุนอย่างไงให้ปัง กันนะคะ

จัดพอร์ตการ ลงทุน

1.เลือกก่อนเลยว่าจะ จัดพอร์ตตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ หรือจัดพอร์ตตามช่วงอายุ

2.ถ้าจัดตาม สถานะภาพ “รับความเสี่ยง” ก็จะมี 3 อย่าง เริ่มที่ รับความเสี่ยงได้ต่ำ รับความผันผวนได้น้อย หรือเรียกง่ายๆ มือใหม่หัดเทรดค่ะ คำแนะนำง่ายสุด ควรจัดพอร์ตแบบรอบคอบ ระมัดระวัง เน้นการลงทุนโดยลงทุนในหุ้น 30% ตราสารหนี้ 40% และเงินสด 30% เพื่อพยายามรักษาเงินต้นให้ปลอดภัยเอาไว้ก่อน

รับความเสี่ยงได้ปานกลาง เมื่อเริ่มคุ้นเคยหรืออาจจะเคยเจ็บตัวมาบ้าง รับความผันผวนได้ระดับหนึ่ง เริ่มสนุกกับการลงทุนแล้วซิ ฉะนั้นต้องขยับกันหน่อยแล้ว เพิ่มสัดส่วนเบอร์ใหญ่ ให้มากขึ้น ลงทุนในหุ้นเป็น 50% ลดการลงทุนในตราสารหนี้เหลือ 30% และเงินสดเหลือ 20% เพื่อหวังให้ได้ผลตอบแทนสูงขึ้น

รับความเสี่ยงได้สูง เรียกว่ามือเก๋าแล้ว ผ่านมาแล้วทั้งดีใจ เสียใจ ชินชากับความผันผวน สามารถรับความเสี่ยง หนักๆ แรงๆ ได้ อย่างงี้ต้องเล่นใหญ่ค่ะคุณขา จัดไปเลย ลงทุนในหุ้น 70%และลงทุนในตราสารหนี้แค่ 20% และเงินสด 10% เพื่อเพิ่มโอกาสให้เงินลงทุนเติบโตขึ้น

แต่ถ้าใครขาแรง กว่านี้ อยากจัดหนัก ใส่เต็มมากกว่านี้ ก็สามารถทำได้ แต่ไม่ควรค่ะ ตามตำราบอกไว้ว่า “อย่าใส่ไข่ไว้ในตะกร้าเดียวกัน” Don’t put all your eggs in one basket” ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักการลงทุน ที่มุ่งหวังให้กระจายความเสี่ยง นำเงินลงทุน กระจายไปในการลงทุนหลายๆรูปแบบ เพราะหากผิดพลาดจะได้ไม่เจ๊งหมดตัวไงค่ะ

3.เลือกจัดพอร์ตตามช่วงอายุ ประกอบด้วยวัยเริ่มต้นทำงาน อายุ 21 – 30 ปีมนุษย์เงินเดือนวัยนี้ ถือว่าโชคดีที่สุด เพราะยังไม่มีภาระให้รับผิดชอบมากนัก และยังเหลือเวลาให้ลงทุนอีกหลายปี มีเวลาให้ล้มลุกคลุกคลานได้อีกนาน เพราะฉะนั้นจึงสามารถลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น ได้มากถึง 90% และอีก 10% ที่เหลือควรลงทุนตราสารหนี้ หรือฝากเงิน ค่ะ

วัยสร้างครอบครัว 31 – 40 ปี การงานเริ่มมั่นคง รายได้สูงขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายสูงตามด้วย ทั้งยังมีภาระต่างๆ ให้รับผิดชอบมากขึ้น การรับความเสี่ยงได้น้อยลงกว่าช่วงเริ่มต้นทำงาน เพราะฉะนั้นจึงแนะนำให้ลงทุนในหุ้นประมาณ 50% และอีก 50% เป็นการฝากเงินและลงทุนตราสารหนี้เพื่อลดระดับความเสี่ยงของพอร์ตลง ค่ะ

วัยปึกแผ่นมั่นคง อายุ 41 – 55 ปี อายุเริ่มมากขึ้น และเหลือเวลาเก็บออมและลงทุนอีกไม่กี่ปีก็จะถึงวัยเกษียณแล้ว เพราะฉะนั้นจึงต้องเน้นการลงทุนที่มีความปลอดภัยมากขึ้น ควรเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ขึ้นมาเป็น 70% และอีก 30% ลงทุนในหุ้นเพื่อทำให้เงินออมเพิ่มค่าได้มากขึ้น ค่ะ

วัยเกษียณ อายุ 55 ปีขึ้นไปเข้าสู่วัยเกษียณ ต้องระมัดระวังการลงทุนมาก เลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยงสูง เพราะต้องเน้นรักษาเงินออม ดังนั้น เงินส่วนใหญ่ หรือประมาณ 90% ไปเก็บไว้ในตราสารหนี้ และอาจแบ่งมาลงทุนในหุ้นไม่เกิน 10% ให้พอชีวิตมีลุ้นเล็กๆ ค่ะ

4.ไม่ว่าจะเลือกจัดพอร์ตตามระดับความเสี่ยง หรือจัดตามช่วงอายุ ข้อสำคัญ อีกประการคือต้องกระจายความเสี่ยงอย่างสมดุล ไม่ควรทุ่มเงินลงทุนในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งทั้งหมด

5. ต้องไม่จัดพอร์ตที่มีสินทรัพย์ หลากหลายหรือกระจัดกระจายมากเกินไป ทำให้ดูแลยาก ปวดหัวในการหาข้อมูลอีก..พูดง่ายๆไม่ต้องรู้ไปทุกอย่าง เอาเฉพาะที่รักที่ชอบนั้นแหละค่ะ

6. ต้องมีเป้าหมายการลงทุน ว่าจะเดินหน้าไปถึงดาวดวงใด (ไม่เอาดอยนะค่ะ) จากนั้นก็จัดสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะกับเป้าหมายที่มีไว้พุ่งชนนะค่ะ

7. มีความยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนสัดส่วนในพอร์ตได้ นั้นหมายถึงว่าต้องติดตามสถานการณ์โลก เหตุการบ้านเมืองในประเทศ พอสมควรจะได้รู้ว่าเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป เราก็ต้องปรับเปลี่ยนพอร์ตด้วย

อ่านถึงบรรทัดนี้แล้ว ลองสังเกตุดูซิค่ะว่า คุณ มีครบ 7ข้อยัง ถ้ายังจัดเลยค่ะ ให้ไว เป้าหมายรออยู่ค่ะ…ไปละ บ๊ายย
————————————

ติดตามที่ :
? Website : www.epahamalao.com
? Facebook : www.facebook.com/epahamalao
? Instagram : www.instagram.com/epahamalao
? Twitter : www.twitter.com/epahamalao

#หุ้น #กองทุนรวม #fund #set #Mutualfund #epahamalao #อิป้าหามาเล่า #ตลาดหุ้น #ตลาดหุ้นไทย #mai #ลงทุน

Facebook Comments
Skip to toolbar