มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า สัปดาห์นี้ (15-19 ต.ค.61) มีหุ้น IPO น้องใหม่อย่าง รพ.พระราม9 จะเปิดให้จับจองกัน ซึ่งความเป็นมาโรงพยาบาล 26 ปีแห่งนี้ (ก่อตั้งปี 2535-เพิ่งรีแบรนด์ครั้งใหญ่ทรานส์ฟอร์มสู่ Digital Hospital) คงทราบกันไปแล้ว แต่สิ่งที่อิป้าจะมาเม้าซ์ นั้นก็คือเส้นทางความสัมพันธ์ของ “เจ้าของ” กับผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นอันดับ 2 ที่มีนามว่า “ตุ่ม- สันติ ภิรมย์ภักดี” แห่งอาณาจักรบุญรอด บริวเวอรี่
ในหนังสือชี้ชวนก่อนเข้าตลาดของโรงพยาบาลพระราม 9 ระบุว่า มีนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ (พี่ชายบุญธรรมคุณหญิงพจมาน) นั่งเก้าอี้ประธานกรรมการ และผู้ถือหุ้นใหญ่สุดคือ 1.กลุ่มคุณหญิงพจมาน และครอบครัว ประกอบด้วยลูก 3 คน แพทองธาร-พานทองแท้-พินทองทา ถือหุ้นรวม 307,062,500 หุ้น หรือ 51.18% (หลังขายIPOจะลดสัดส่วนลงเหลือ 38.4 – 39.4%)
และผู้ถือหุุ้นลำดับ 2.ชื่อสันติ ภิรมย์ภักดี ถือ 10,000,000 หุ้น หรือ 1.67% (หลังขาย IPO จะลดสัดส่วนลงเหลือ 1.25 -1.28%) และยังมีนางสาวพรภิรมย์ ภิรมย์ภักดี ถือหุ้นในอันดับ 9 ถืออยู่ 4,000,000 หุ้น หรือ 0.67 % (หลังขายIPOจะลดสัดส่วนลงเหลือ 0.50-0.51%) ส่วนนายแพทย์เสถียร ภู่ประเสริฐ มือบริหารงานถือหุ้นใหญ่เป็นอันดับ 3
สำหรับผู้ถือหุ้นใหญ่ อันดับ1 นามคุณหญิงพจมานนั้น แม้ช่วงหลัง ๆ จะโลว์โปรไพล์แต่ถ้าเป็นช่วงทักษิณเรืองอำนาจ คุณหญิงถือเป็นบุคคลสำคัญระดับประเทศเลยนะค้า อย่างปลายปี 2548 ผลเอแบคโพล ระบุผู้หญิงที่มีบารมีต่อการเมืองไทยมากที่สุดแห่งปี คือคุณหญิงพจมาน และสื่อยักษ์ใหญ่ ยังยกให้คุณหญิงพจมาน คือบุคคลการเมืองแห่งปี 2548 (https://positioningmag.com/8861- วันที่ 5 ก.ค. 2549)
ทั้งนี้ในเส้นทางความสัมพันธ์ ของคนในตระกูลชินวัตร กับคนในตระกูลภิรมย์ภักดี น่าจะแบ่งออกเป็น 2 ทางคู่ขนาน กล่าวคือถ้ายังจำกันได้ ช่วงปลายปี 2556 (29 พ.ย. 2556) “สุเทพ เทือกสุบรรณ” สถาปนากลุ่มมวลชนเคลื่อนไหวในนาม กปปส. มีเป้าประสงค์สุดท้ายคือขยี้ ทักษิณ ชินวัตร ผ่านการกดดันให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ้นอำนาจจนที่สุดขุนทหารก็เข้ามาล้างท่อ-รัฐประหารอีกครั้ง
ซึ่งการเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส. นั้น หนึ่งในผู้ร่วมขบวนคือ “ตั๊น” น.ส.จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี ซึ่งการออกแอ๊คชั่นของ “ตั๊น” นั้นเข้าตา สันตินายใหญ่สิงห์อย่างหนักคะ ทำให้ 18 ธ.ค. 2556 สันติ ออกมาเขียนจดหมายถึงนายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี (พ่อของตั๊น)ในทำนองว่า บทบาททางการเมืองของ ตั๊น ส่งผลกระทบต่อธุรกิจและตระกูลภิรมย์ภักดี จนทำให้ ตั๊นต้องยอมเปลี่ยนนามสกุลในที่สุด
จากบทบาทของสันติในครั้งนั้น เหมือนแสดงให้สังคมเห็นว่า สิงห์ไม่ได้เลือกข้างทางการเมือง แต่ทว่าการตำหนิบทบาท น.ส.จิตภัสร์ ในครั้งนั้น จึงทำให้ถูกสังคมมองว่า สันติน่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนในตระกูลชินวัตร โดยที่ผ่านมามีกิจกรรมทางสังคมที่ฉายให้เห็นถึงความเป็นเพื่อนเป็นพวกพ้องกันแบบชัดๆ ผ่านทางลูกๆ ของทั้งชินวัตรและภิรมย์ภักดี
“เต้” ภูริต ทายาทรุ่นที่ 4 ของสิงห์ ลูกคนโตของสันติ และน้องชาย “ต๊อด” ปิติ ปรากฎกายร่วมเฟรมกับลูกสาวและลูกเขยของ ทักษิณ อยู่บ่อยครั้งและเปิดเผย ไม่มีอะไรปิดบัง และเมื่อวันแต่งของ พินทองทา ลูกสาวทักษิณ ที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี เมื่อ 12 ธ.ค. 2554 สันติควงภรรยาและลูกๆ มาร่วมแสดงความยินดีกันชื่นมื่น(https://www.siamzone.com/movie/news/5748-13 ธ.ค. 2554)
ไม่เท่านั้นช่วงที่โอ๊ค-พานทองแท้เปิดบริษัท- ทำรายการทีวี เพื่อนสนิทก็มาช่วยลงโฆษณาให้สถานีวอยซ์ทีวีในบางช่วงเวลา ยังมีโฆษณาของคนคุ้นเคยมาให้เห็นกันอย่างต่อเนื่องค่ะ
และย้อนกลับปี 2550 ปรากฎรอยร่องเส้นทางความสัมพันธ์ “ทักษิณ-สันติ” เมื่อนายคำนูณ สิทธิสมาน อดีตสว. เคยเขียนถึงผลประโยชน์ธุรกิจระหว่าง “สิงห์-ชินวัตร” เอาไว้หลังการปฏิวัติรัฐประหาร 2549 ขณะที่ทักษิณอยู่ที่อังกฤษและซื้อสโมสรบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยในเวลานั้น บุญรอด ฯ ได้เข้าไปเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับสโมสรฟุตบอลของทักษิณ …(อ้างอิง ASTVผู้จัดการ 23 ก.ย.50)
ส่วนปฐมเส้นทางของสันติ และทักษิณ นั้นเริ่มเมื่อไรนั้นอิป้าก็ไม่รู้ชัด เพียงแต่ว่ามีสื่อนำเสนอถึงความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันระหว่างคุณหญิงพจมาน ว่าสนิทสนมกับบิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และที่บิ๊กป้อมได้ขึ้นเป็น ผู้บัญชาการทหารบก ก็ “อาจจะ” มาจากความสัมพันธ์ที่ดี มีแต้มความสนิทสนมกับคุณหญิงอ้อ (อ้างอิง-มติชนสุดสัปดาห์ 5 ก.พ. 2560)
โดยบิ๊กป้อมอยู่ในเครือข่ายทรงอำนาจอย่าง “เซนต์คาเบรียลเน็ตเวิร์ก” ที่เชื่อมโยงกับคนดังๆ มากมายในด้านของนักธุรกิจเช่น ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล บัณฑูร ล่ำซำ และสันติ ภิรมย์ภักดี (อ้างอิง-มติชนสุดสัปดาห์ 5 ก.พ. 2560 )…โดยสันตินั้น จบชั้นมัธยมต้น จากเซนต์คาเบรียล จากนั้นไปต่อที่เยอรมันนี-อเมริกาตามลำดับ (อ้างอิง -ประวัติของสันติ เมื่อตอนที่เขาได้รับปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาสังคมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เมื่อปี 2552)
…ก่อนจะจบอิป้าไปค้นเจอมาว่า นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับพฤษภาคม 2561 เผยทำเนียบ “50 อภิมหาเศรษฐีไทยประจำปี 2561” จากการจัดอันดับโดยนิตยสาร Forbes อันดับ 11 สันติ ภิรมย์ภักดี มีมูลค่าทรัพย์สิน 2,400 ล้านเหรียญ …อันดับ 19 ทักษิณ 1,900 ล้านเหรียญ …อึมม 2 คนรวมกัน 4,300 ล้านเหรียญ หรือ 133,300 ล้านบาท (ค่าเงิน 31บาท/ดอลลาร์) (อ้างอิง www.matichon.co.th/foreign/news_940172- วันที่ 3พ.ค.61)
สุดท้าย ต้องติดตามว่า หุ้น IPO น้องใหม่อย่างโรงพยาบาลพระราม 9 ที่มีแบ๊คแข็งปั๋ง จะนำพาให้ในอนาคตเหล่านักลงทุนแฮปปี้ ได้มากน้อยขนาดไหนค่ะ…ไปละบ๊ายยย
ขอบคุณภาพจาก mgr
———————————-
ติดตามที่ :
#หุ้น #กองทุนรวม #fund #set #Mutualfund #epahamalao #อิป้าหามาเล่า #ตลาดหุ้น #ตลาดหุ้นไทย #mai #ลงทุน #ออมเงิน