หุ้นกลุ่มแบงก์

หนังสืออิป้าหามาเล่ามาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า หลายบริษัทได้ประกาศงบการเงินกันออกมาแล้ว เราลองมาดูว่าหุ้นกลุ่มแบงก์เป็นอย่างไรกันบ้าง หลังจากที่นักวิเคราะห์หลายที่มีการประเมินว่าหุ้นกลุ่มนี้จะมีการเติบโตเพิ่มขึ้น แม้ว่าหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จะยังคงปรับเพิ่มขึ้นจากผลกระทบโควิด-19 ก็ตาม เราลองมาดูกันเลยว่า มีตัวไหนกันบ้างที่น่าสนใจมีกำไรปรับเพิ่มขึ้นบ้าง (ข้อมูลตัวเลข ณ วันที่ 12 มี.ค.64)

1.KBANK (บมจ.ธนาคารกสิกรไทย)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 113.00 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 12 มี.ค.64 ปิดที่ 147.00 บาท เพิ่มขึ้น 34.00 บาท หรือเพิ่มขึ้น +30.08% ขณะที่ P/E 11.81 เท่า , P/BV 0.79 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 267,734.02 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 12 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 348,291.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 80,557.14 ล้านบาท

งบไตรมาส 4/63 ทำกำไร 13,258 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/63 กำไร 6,679 ล้านบาท

2.SCB (บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 87.50 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 12 มี.ค.64 ปิดที่ 110.50 บาท เพิ่มขึ้น 23.00 บาท หรือเพิ่มขึ้น +26.28% ขณะที่ P/E 13.80 เท่า , P/BV 0.91 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 297,114.18 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 12 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 375,212.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78,098.70 ล้านบาท

งบไตรมาส 4/63 ทำกำไร 4,965 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/63 กำไร 4,641 ล้านบาท

3.BAY (บมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 31.25 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 12 มี.ค.64 ปิดที่ 34.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท หรือเพิ่มขึ้น +10.4% ขณะที่ P/E 11.01 เท่า , P/BV 0.88 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 229,867.56 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 12 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 253,773.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23,906.22 ล้านบาท

งบไตรมาส 4/63 ทำกำไร 3,461 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/63 กำไร 6,199 ล้านบาท

4.KTB (บมจ.ธนาคารกรุงไทย)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 11.10 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 12 มี.ค.64 ปิดที่ 12.20 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท หรือเพิ่มขึ้น +9.90% ขณะที่ P/E 10.19 เท่า , P/BV 0.50 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 155,134.28 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 12 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 170,507.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15,373.67 ล้านบาท

งบไตรมาส 4/63 ทำกำไร 3,453 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/63 กำไร 3,057 ล้านบาท

5.BBL (บมจ.ธนาคารกรุงเทพ)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 118.50 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 12 มี.ค.64 ปิดที่ 125.50 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท หรือเพิ่มขึ้น +5.90% ขณะที่ P/E 13.94 เท่า , P/BV 0.53 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 226,197.88 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 12 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 239,559.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13,361.90 ล้านบาท

งบไตรมาส 4/63 ทำกำไร 2,398 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/63 กำไร 4,017 ล้านบาท

6.TISCO (บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 88.50 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 12 มี.ค.64 ปิดที่ 97.50 บาท เพิ่มขึ้น 9.00 บาท หรือเพิ่มขึ้น +10.16% ขณะที่ P/E 12.87 เท่า , P/BV 1.98 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 70,857.14 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 12 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 78,062.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,205.81 ล้านบาท

งบไตรมาส 4/63 ทำกำไร 1,636 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/63 กำไร 1,611 ล้านบาท

7.TMB (บมจ.ธนาคารทหารไทย)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 1.08 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 12 มี.ค.64 ปิดที่ 1.22 บาท เพิ่มขึ้น 1.08 บาท หรือเพิ่มขึ้น +12.96% ขณะที่ P/E 11.63 เท่า , P/BV 0.57 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 104,122.17 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 12 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 117,619.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13,497.32 ล้านบาท

งบไตรมาส 4/63 ทำกำไร 1,235 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/63 กำไร 1,619 ล้านบาท

8.KKP (บมจ.ธนาคารเกียรตินาคิน)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 51.75 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 12 มี.ค.64 ปิดที่ 61.25 บาท เพิ่มขึ้น 9.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น +18.35% ขณะที่ P/E 10.12 เท่า , P/BV 1.11 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 43,819.37 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 12 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 51,863.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,044.14 ล้านบาท

งบไตรมาส 4/63 ทำกำไร 1,108 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/63 กำไร 1,347 ล้านบาท

9.LHFG (บมจ.แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 1.05 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 12 มี.ค.64 ปิดที่ 1.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท หรือเพิ่มขึ้น +14.28% ขณะที่ P/E 12.20 เท่า , P/BV 0.65 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 22,242.84 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 12 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 25,420.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,177.55 ล้านบาท

งบไตรมาส 4/63 ทำกำไร 204 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/63 กำไร 522.9 ล้านบาท

10.CIMBT (บมจ.ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 0.60 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 12 มี.ค.64 ปิดที่ 0.60 บาท ราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลง ขณะที่ P/E 16.19 เท่า , P/BV 0.50 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 20,893.36 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 12 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 20,893.36 ล้านบาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

งบไตรมาส 4/63 ทำกำไรขาดทุน -290 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/63 กำไรอยู่ที่ 82 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่า KBANK มีกำไรสูงลิ่วนำเพื่อน ๆ ในกลุ่มไปแบบลอยลมกันเลยนะคะ ซึ่งบล.โนมูระ พัฒนสิน ก็ได้ออกมาวิเคราะห์ว่า ในปี 64 กำไรรวมของกลุ่มจะขยายตัว 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการฟื้นตัวจากปี 63 จากค่าใช้จ่ายสำรองลดลง โดยคาดว่า KBANK จะขยายตัว 20% และ BBL จะขยายตัว 18% เนื่องจากที่ผ่านมาแบงก์ได้ตั้งสำรองล่วงหน้าไปมากแล้วนะคะ…วันนี้ไปล่ะค่ะ…บ๊ายยยย

Facebook Comments