เสี่ยยักษ์ - วิชัย วชิรพงศ์

มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้น STGT (บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย)) ถูกกล่าวขานอย่างหนัก พร้อม ๆ กับ ชื่อของ “เสี่ยยักษ์ – วิชัย วชิรพงศ์” เมื่อเขาถือ STGT 1.55% หรือ 22.2 ล้านหุ้น

ฉะนั้นดั๊นเลยต้องกลับไปอ่านข้อความใน “กูรูหุ้นพันล้าน” ที่คุณพีร์ บุญชนะวิวัฒน์ (Wizard Kid) จัดทำเป็น E-Book แจกจ่ายฟรีแก่ผู้ที่สนใจการลงทุนในตลาดหุ้น ทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่า อิป้าเลือกมา 10 คมคิด ทริคเด็ดๆ จาก E-Book เล่มนี้ มานำเสนอ และน่าจะเป็นประโยชน์กับนักลงทุน นะคะ

1.”อยู่ในตลาดหุ้นอย่าคิดว่าเราเก่งกว่าคนอื่น ยังมีคนที่รู้มากกว่าและเก่งกว่าเราตั้งเยอะแยะ เราต้องรู้ให้ได้ว่าหุ้นที่เราจะซื้อ…เราซื้อเพราะอะไร? เราต้องตอบให้ได้ว่า หุ้นตัวนี้มันจะขึ้นด้วยเหตุผลอะไร? ถ้าคุณตอบได้ โอกาส “ชนะ” ก็มีมากกว่าครึ่ง “คนจะเกิด (ในตลาดหุ้น) มันต้องเกิดจากการไขว่คว้า…ไม่ใช่ฟลุ้ค!”

2.”หุ้นที่เล่นแล้วได้กำไรมากกว่าขาดทุน จะเป็นหุ้นที่กำลังอยู่ในกระแสนิยมของตลาดในช่วงเวลานั้น ๆ …เราต้องพยายามอ่านหลักจิตวิทยาของตลาดว่า คนอื่นเขาคิดอย่างไร..? กับหุ้นตัวที่เราจะเล่น อย่าพยายาม “คิดเอง-เออเอง” คนเดียว “สมมติว่าขณะนั้น SET กำลัง “นิยม” หุ้นกลุ่มไหน เราก็ต้องจับตามองหุ้นกลุ่มนั้น เพราะการ “ฝืนกระแส” จะทำให้เรา “เสี่ยงสูง” ที่จะขาดทุน” วิชัยบอกว่า การเล่นหุ้นฝืนทิศทางตลาด..เล่นแล้วมันเหนื่อย!

หนังสืออิป้าหามาเล่า3.คำว่า “รู้จริง” จะต้องเข้าใจทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ การที่คุณอ่านหนังสือเท่ากับรู้แค่ทฤษฎี ยังถือว่า “รู้ไม่จริง” ต้องเอา 2 อย่างนี้มาใช้ร่วมกัน เพื่อสร้างประสบการณ์แห่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้น…นักเล่นหุ้นที่ประสบความสำเร็จ…คุณต้องพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตามเหตุการณ์ อย่าคิดว่าคุณเป็นคนที่ไม่มีหลักการ “ในเมื่อสถานการณ์มันเปลี่ยน…วิธีคิดก็ต้องเปลี่ยน”

4.หลักการที่ถูกต้อง เราต้องกำหนดจุด Stop Loss (จุดหยุดขาดทุน) พอขาดทุนถึงจุดนี้ก็ต้อง Cut Loss ตัดขายทิ้ง หุ้นเวลาเป็น “ขาลง” (Bearlish Down Trend) เราต้องตัดทิ้ง อย่าถือ และอย่าซื้อถัวเฉลี่ย”

5.”ตลาดหุ้น” คนที่จะประสบความสำเร็จยืนอยู่บนสังเวียนนี้ได้ยาวนาน จะต้องอาศัย “ฝีมือ” 70% …อีก 30% เป็นหน้าที่ของ “โชคชะตา”

6.กฎเหล็กข้อหนึ่งที่ “เสี่ยยักษ์” ยึดถือในการลงทุน นั่นคือ “วอลุ่มพีค” เท่ากับ “ราคาพีค” และอีกข้อ ถ้าหุ้นปรับฐาน “รีบาวนด์” แล้วแต่ไม่ทำ “นิวไฮ” ใหม่…”มันต้องลง”…หุ้นมันต้องมีการปรับตัว ถูก “Profit Taking” หรือ ตัดเอากำไร ถ้าราคาปรับลงแล้ว “รีบาวนด์” ขึ้นมาทำจุดสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ได้ มันจะ “รัน” (วิ่งไกล) แต่เมื่อไรก็ตาม ถ้าหุ้น “รีบาวนด์” แล้ว ไม่ทำ “นิวไฮ” ใหม่ ก็ต้องขายทิ้งออกไป แต่จุดมั่นใจ เราต้องดู “วอลุ่ม” ประกอบ

7.”จะซื้อหุ้นให้ได้กำไร เราต้องกล้าไปจ่ายตลาด “ตอนประมาณ ตี 5” หรือ อีก 1 ชั่วโมงฟ้าจะสว่าง…ผีไม่มี ใครซื้อหุ้นได้จังหวะนี้…ดีแน่! คุณได้เลือกของดี ได้ซื้อของสด ราคาไม่แพง ได้เลือกของก่อนคนอื่น รถไม่ติด คุณจะได้เปรียบเรื่อง “ต้นทุน” แต่คนที่จะเข้าใน “จังหวะ” นี้ได้ จะรู้ว่าตอนนี้กี่โมงต้องอาศัยเครื่องมือทาง “เทคนิเคิล” มาช่วยในการคลำหาตำแหน่งเวลาร่วมกับ “ประสบการณ์” ของแต่ละคน

8.”เวลาเลือกหุ้นให้ใช้พื้นฐาน แต่จังหวะซื้อต้องใช้เทคนิเคิล” ยิ่งตอนขายหุ้นเทคนิเคิลไม่เคยหลอกเลย ถ้าเราถอยหลังย้อนกลับไปได้ เราต้องกลับไปทบทวนตัวเองให้ดีๆผมขอแนะนำให้จดไดอารี่ทุกวัน นั่นคือการทบทวนตัวคุณเอง คุณจะได้เก็บเอาไว้อ่าน คุณเจ็บตรงไหน วันนี้คุณโดน (เทคนิเคิล) หลอกอย่างไร?”

8.”ข้อผิดพลาดของนักลงทุน มักมาจากความ “ดื้อรั้น” ของตัวเอง เทคนิเคิลมันตัดลงมาตั้งนานแล้ว แต่ว่าเรายังดื้อ ยังเล่นอยู่ แสดงว่า “คุณผิดเอง ตลาดไม่ผิด”

10.ถ้าคุณไม่มี “อินไซด์” ต้องเล่นหุ้นพื้นฐานอย่างเดียวเลย ถึงจะมีโอกาสรวย” นักลงทุนรายใหญ่เท่าที่สังเกต เขาจะลงทุนแบบ “โฟกัส” ในหุ้นหนักๆอยู่ไม่กี่ตัว เพราะการกระจายพอร์ตมากตัวเกินไป ถ้าไม่ใช่นักลงทุนระยะยาวจริงๆ การตัดสินใจ “ซื้อ-ขาย” จะผิดพลาดได้ง่าย ” “ผมขอให้คุณเก่งหุ้นแค่ทีละตัว หรืออย่างมากแค่ 3 ตัวพอ รู้ให้ลึก..รู้ให้แตกฉาน แล้วทนรอกับมันได้ คุณจะรวยมหาศาล”

อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณ คุณพีร์ และ “เสี่ยยักษ์ – วิชัย วชิรพงศ์” มาด้วยนะค่ะ วันนี้ไปละค่ะ บ๊ายย

Facebook Comments