epahamalao

10 หุ้น “มาร์เก็ตแคป” เพิ่มมากสุด ปี 62

มาร์เก็ตแคป

มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า วันนี้จะพาไปส่อง มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของหุ้นในกลุ่ม SET 50 กันนะคะ โดยใน 50 ตัวมี 29 ตัวที่มาร์เก็ตแคปเพิ่มขึ้น อิป้าเลยคัด 10 ตัวจี๊ดเพิ่มสูงสุดมาให้ยลโฉมกันค่ะ (ข้อมูลจาก settrade อ้างอิงตัวเลข ณ กลางเดือน ธ.ค.62)

1.GPSC (บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่) มาร์เกตแคปสิ้นปี 61 อยู่ที่ 87,650 ล้านบาท ปัจจุบัน 245,316 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 157,666 ล้านบาท หรือ 179.88% GPSC คาดผลงานปี 63 จะทำ New High หลังรับรู้ผลประกอบการ GLOW เข้ามาเต็ม และ COD ของโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี , โครงการศูนย์ผลิตสาธารณูปการ จ.ระยอง และโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมที่จะเข้ามาในปี 63

2.CBG (บมจ.คาราบาวกรุ๊ป) มาร์เกตแคปสิ้นปี 61 อยู่ที่ 30,750 ล้านบาท ปัจจุบัน 86,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55,250 ล้านบาท หรือ 179.67% ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า Q 4/62 จะปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดต่อเนื่องจาก Q3/62 และจะเติบโตขึ้นต่อเนื่อง คาดผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่ปี 63 เป็นต้นไป

3.GULF (บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์) มาร์เกตแคปสิ้นปี 61 อยู่ที่ 173,863 ล้านบาท ปัจจุบัน 365,860 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 191,997 ล้านบาท หรือ 110.42% ปีนี้ต้องยกให้เสี่ยกลาง – สารัชถ์ เพราะ GULF ยังไปได้อีกหลังซิว 6,000 เมกะวัตต์ที่เวียดนาม พร้อมกางแผนลงทุนเขื่อนใน สปป.ลาวอีก 2,500 เมกะวัตต์ หวังราคาทะลุ 200 บาท/หุ้นในปี 63

4.BGRIM (บมจ.บี.กริม เพาเวอร์) มาร์เกตแคปสิ้นปี 61 อยู่ที่ 69,082 ล้านบาท ปัจจุบัน 139,469 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70,387 ล้านบาท หรือ 101.88 % บนเวที The Asset ESG Awards 2019 ปรียนาถ สุนทรวาทะ CEO พา BGRIM เก็บ 4 รางวัล โดยเฉพาะ รางวัล Best CEO

5.OSP (บมจ.โอสถสภา) มาร์เกตแคปสิ้นปี 61 อยู่ที่ 73,591 ล้านบาท ปัจจุบัน 123,904 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50,313 ล้านบาท หรือ 68.36% คาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ จากเดิมที่คาดโต 5% หลังจากในช่วง 9 เดือนแรกมีรายได้ 18,989 ล้านบาท เติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 5.7%

6.SAWAD (บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น) มาร์เกตแคปสิ้นปี 61 อยู่ที่ 51,649 ล้านบาท ปัจจุบัน 84,851 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33,202 ล้านบาท หรือ 64.28% น่าสนใจเพราะเป็นหุ้นตัวที่ชอบมากคะเวลา เศรษฐกิจแย่ ดอกเบี้ยขาลง กลุ่มนอนแบงก์จะดี้ด้า และยังคาดว่าปี 63 จะมีรายได้จากธุรกิจนายหน้าขายประกันอีก 300 ล้านบาท ส่งผลกำไร New High ต่อเนื่อง

7.BTS (บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์) มาร์เกตแคปสิ้นปี 61 อยู่ที่ 113,122 ล้านบาท ปัจจุบัน 180,213 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67,091 ล้านบาท หรือ 59.30 % BTS ผลประกอบการเติบโตก้าวกระโดดต่อเนื่อง แถมล่าสุดจัดหนักซื้อ Big Lot หุ้น HUMAN (ฮิวแมนิก้า -ธุรกิจ บริหารจัดการทรัพยากรบุคคล) 85.065 ล้านหุ้น มูลค่า 655 ล้านบาท น่าจะทำให้ราคาขยับได้อีกค่ะ

8.TMB (บมจ.ธนาคารทหารไทย) มาร์เกตแคปสิ้นปี 61 อยู่ที่ 96,474 ล้านบาท ปัจจุบัน 145,502 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49,028 ล้านบาท หรือ 50.81% มาจาก TMB เสนอซื้อหุ้นแบงก์ธนชาตจากผู้ถือหุ้นรายย่อยในราคา 27.55 บาท/หุ้น ตั้งแต่วันที่ 9-13 ธ.ค. ที่ผ่านมา

9.RATCH (บมจ.ราช กรุ๊ป) มาร์เกตแคปสิ้นปี 61 อยู่ที่ 73,587 ล้านบาท ปัจจุบัน 100,412 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26 ,825 ล้านบาท หรือ 36.45% เริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าเซเปียน เซน้ำน้อย สปป.ลาว (RATCH สัดส่วนการถือหุ้น 25%) ของกำลังผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวม 396 เมกะวัตต์

10.KTC (บมจ.บัตรกรุงไทย) มาร์เกตแคปสิ้นปี 61 อยู่ที่ 78,639 ล้านบาท ปัจจุบัน 107,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28361 ล้านบาท หรือ 36.06% คาดว่ากำไรปีนี้จะเติบโตใกล้เคียงเป้าหมายที่ 10% แต่ในปีหน้าน่าจะหืดจับค่ะ เพราะมีเรื่องโครงการรีไฟแนนซ์เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อบัตรเครดิต และบัตรกดเงินสดของธปท. ที่อาจกดดันราคาได้

ทั้ง นี้ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เคยเขียนไว้ว่า Market Cap ใช้ประกอบในการวิเคราะห์และประเมินหุ้นเพื่อที่จะดูว่ามันถูกหรือแพงเมื่อคำนึงถึงการลงทุนระยะยาว มันเป็นวิธีการที่ไม่ได้แม่นยำเป็นตัวเลขแน่นอน แต่จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราพบ “ความผิดพลาดที่ร้ายแรง” ทั้งทางด้านที่แพงและถูก หน้าที่ของเราก็คือ หลีกเลี่ยงหุ้นที่แพงมาก ๆ มองจาก Market Cap และเลือกซื้อหุ้นที่ถูกสุด ๆ และอาจจะกลายเป็นหุ้น 10 เด้งในอนาคตอีกหลาย ๆ ปีข้างหน้าที่ Market Cap จะโตขึ้นตามสถานะทางเศรษฐกิจในวันนั้น ( อ้างอิง bangkokbiznews)

อย่างไรก็ตาม จะเลือกหุ้นสักตัว ต้องพิจารณาให้ลึกรอบด้านนะคะ วันนี้ไปล่ะค่ะบ๊ายย

Facebook Comments
Skip to toolbar