ฐิภา นววัฒนทรัพย์

มาแล้วค่ะ อิป่าหามาเล่า วันนี้จะพาไปส่องพอร์ตคนดัง สาวสวย รวยเสน่ห์ โปรไฟล์เยี่ยม มากความสามารถคนรุ่นใหม่ วัย 30 กว่า ๆ อย่าง คุณมล- ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ที่คนในแวดวงนักลงทุน รู้จักกันเป็นอย่างดี

เกียรตินิยมอันดับ 2 มธ. – ว่าที่ด๊อกเตอร์

จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ เอกการเงินเกียรตินิยมอันดับ 2 จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก่อนที่จะไปเรียนต่อปริญญาโท ด้านพาณิชยศาสตร์และการปัญชี จากมหาวิทยาลัยเคนท์ ประเทศอังกฤษ แล้วกลับมาเรียนปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ อีกหนึ่งใบจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาต่อปริญญาเอก ด้านบริหารการจัดการ ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง

เหตุเพราะทางบ้านเองทำธุรกิจเกี่ยวกับทองคำ จึงทำให้ซึมชับบรรยากาศการซื้อขายสินค้ามาตั้งแต่เด็ก นอกจากจะมีความสนใจในสาขาการเงินและการบัญชีเป็นพิเศษแล้วนั้น “คุณฐิภา” ยังมีความรู้หลายเกี่ยวกับภาษาอีกหลากหลายภาษา ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ ที่เรียกได้ว่าแทบจะเป็นอีกหนึ่งภาษาที่ใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ในช่วงที่เรียนอยู่ปี 3 ที่ธรรมศาสตร์ “คุณฐิภา” ได้เป็นตัวแทนนักศึกษาแลกเปลี่ยนของมหาวิทยาลัยไปเรียนต่อที่ เท็กชัส สหรัฐอเมริกา แถมระหว่างที่เรียนปริญญาโทอยู่ที่อังกฤษอีกด้วย

หนังสืออิป้าหามาเล่าจุดเริ่มต้นมาจากธุรกิจครอบครัว

จนกระทั่งเรียนจบก็ได้มาเริ่มธุรกิจนำเข้าทองคำแท่ง และต่อยอดสู่ TFEX ในทุกวันนี้ มีจุดเริ่มต้นมาจากธุรกิจครอบครัว มาจากบริษัท ยูหลิมโกลด์ แฟคตอรี่ จํากัด (Yoo Lim Gold Factory Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและส่งออกเครื่องประดับจากทองคําและเพชรพลอยแท้ ที่มีประสบการณ์การดําเนินธุรกิจส่งออกมากว่า 20 ปี

ซึ่งต่อมา เห็นถึงช่องทางในการดำเนินธุรกิจซื้อ-ขายทองคำแท่ง จึงได้ก่อตั้งขึ้นบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัดในปี 2003 เพื่อนําเข้าและซื้อขายทองคําแท่งบริสุทธิ์ 99.99% มาตรฐาน LBMA จนกลายเป็นผู้ดำเนินธุรกิจนำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่อันดับ 1 ของประเทศไทย

ด้วยความตั้งใจที่จะเป็น one-stop solution for gold trading and investment หรือจุดศูนย์รวมอย่างครบวงจรในด้านการซื้อขายและลงทุนในทองคำ จึงได้ก่อตั้งบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เพื่อการให้บริการที่ครอบคลุมด้านการซื้อขาย และลงทุนในทองคำอย่างครบวงจรในรูปแบบสัญญาซื้อขายล่วงหน้าล่าสุด และมี CEO สาวสวยอย่างคุณมล นั้นเอง

 

พอร์ตลงทุนของสาวแกร่ง

ส่วนตัวคิดว่า ไม่ควรทุ่มเงินไปกับการลงทุนประเภทใดประเภทหนึ่งมากเกินไป เพราะหากผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ อาจสูญเสียเงินทั้งหมดในคราวเดียวกัน ดังนั้นการจัดสรรการลงทุนอย่างเหมาะสม โดยพิจารณาถึงความสัมพันธ์และทิศทางการขึ้นลงของราคาที่แตกต่างกัน การขาดทุนจากการลงทุนประเภทหนึ่ง อาจถูกชดเชยด้วยกำไรจากการลงทุนอีกประเภทหนึ่ง จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มพูนผลตอบแทนโดยรวมอีกด้วย

สำหรับปัจจุบันที่เหมาะสมท่ามกลางความเสี่ยงทางทั้งการเงินและการเมือง ลงทุนในหุ้น 50% , ตราสารหนี้ 30% , เงินสด 5% และที่เหลืออีก 15% ควรลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ เพื่อเพิ่มโอกาสของผลตอบแทนและลดความเสี่ยงในยามที่ตลาดเผชิญกับความไม่แน่นอนอีกด้วย

ฐิภา นววัฒนทรัพย์5 หุ้นตัวแกร่งในพอร์ต…

ตัวแรก CK

1.CK ภาพรวมการก่อสร้างในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020 มีการชะลอการประมูลโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ออกไปหลายโครงการเนื่องจากการแพร่กระจายตัว COVID-19 แต่หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศเริ่มลดลงจนกระทั่งเป็น 0 รายต่อเนื่อง ทำให้ภาครัฐเริ่มมีการกลับมาเปิดประมูลโครงการใหญ่ๆหลายโครงการ ซึ่งส่งผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง แนวรับ 17.00 บาท แนวต้าน 24.00 บาท

ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ตัวที่ 2 ADVANC พี่บิ๊กกลุ่มสื่อสาร

ADVANCได้รับปัจจัยบวกจาก 3 ปัจจัยคือ 1.บริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งทำให้ยังสามารถจ่ายปันผลได้อย่างต่อเนื่องโดยปัจจุบันเงินปันผลอยู่ที่ระดับ 3-4% 2.การเพิ่มขึ้นของการใช้งานบริการอินเตอร์เน็ต WiFi ในช่วงไวรัส COVID-19 ระบาด เพิ่มขึ้นมากถึง 41.5% หลังหลายธุรกิจให้พนักงาน Work From Home

3.เป็นหุ้นใหญ่ที่ยังมีการปรับตัวขึ้นไปไม่มากในช่วงที่ผ่านมา ADVANC มีการปรับตัวขึ้นมากจากจุดต่ำสุดที่ราคา 156.50 บาท มาทรงตัวอยู่ที่ระดับราคา 185.00 บาท ณ ปัจจุบัน (+18% จากจุดต่ำสุด เมื่อเปรียบเทียบกับดัชนี SET ซึ่งมีการปรับตัว +28.60% จากจุดต่ำสุด) แนวรับ 160.00 บาทแนวต้าน 220.00 บาท

ฐิภา นววัฒนทรัพย์ตัวที่ 3 BEM อนาคตดี

BEM สถานการณ์ผู้ใช้บริการเริ่มกลับมาดีขึ้นตั้งแต่เดือน พ.ค.2563 หลังจากมีการผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ ทำให้ผู้ใช้ทางด่วนกลับคืนมา 80-90% ของระดับปกติแล้ว หรื คิดเป็นประมาณ 9 แสนเที่ยว/วัน ส่วนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินมียอดผู้โดยสารเฉลี่ย 1.6 แสนเที่ยว/วัน จากปกติ 4 แสนเที่ยว/วัน และ คาดว่าในไตรมาส 3/2563 การเดินทางจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติแนวรับ 9.00 บาท แนวต้าน 10.80 บาท

ฐิภา นววัฒนทรัพย์ตัวที่ 4 DELTA หุ้นกลุ่ม ‘ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์’ ตัวแกร่ง

DELTA คาดคำสั่งซื้อจากลูกค้าในช่วงปลายปีจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นโดยบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ปี 2020 เพิ่มขึ้น 5-10% และ มีแผนในการปรับปรุงอุปกรณ์เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต แต่อย่างไรก็ตามราคาหุ้นในระยะสั้นยังคงถูกกดันจากการแข็งค่าของค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ต้องหาจังหวะในการเข้าลงทุนเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ 45.00 บาท แนวต้าน 60.00 บาท

ตัวที่ 5 KTC หุ้น บัตรเครดิต

KTC ราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีการประกาศให้ ธนาคารพาณิชย์ และ ผู้ให้บริการสินเชื่อที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ซึ่งอาจเป็นลบต่อผลประกอบการ KTC ในไตรมาส 3/2563 และ ไตรมาส 4/2563 แต่อย่างไรก็ตาม ราคาได้สะท้อนปัจจัยลบนี้ไปค่อนข้างมากแล้ว น่าจะรอซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวลงมา…แนวรับ 25.00 บาท แนวต้าน 45.00 บาท

ฐิภา นววัฒนทรัพย์อย่างไรก็ตาม นี้คือเรื่องราวบางส่วนของสาวคนรุ่นใหม่เท่านั้นนะคะ ยังมีคมคิดในเรื่องการลงทุนในทองคำ ที่ดั๊นจะนำเสนอในโอกาสต่อไปในเร็ว ๆ นี้นะคะ วันนี้ไปละค่ะ บ๊ายย

Facebook Comments