หุ้นโรงพยาบาล

หนังสืออิป้าหามาเล่า

มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า หลังจากมีข่าวดีมาระยะหนึ่งว่า วัคซีนไวรัสโควิด-19 ปีนี้ทุกคนจะได้ฉีดกันแน่ ๆ แล้ว ทำให้หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลต่างได้รับอานิสงค์ไป และวันนี้อิป้าเลยอย่างจะรู้ว่ามีตัวไหนบ้างที่น่าสนใจ บวกรัว ๆ ในช่วงนี้บ้างไหมน้อ อิป้าจึงอยากชวนเพื่อนมาช่วยกันสำรวจไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

1.BDMS (บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ) มาร์เก็ตแคปที่ 340,088.84 ล้านบาท

สิ้นปี 63 ปิดที่ 20.08 บาท ล่าสุด 15 ม.ค.64 ปิดที่ 21.80 บาท เพิ่มขึ้น 1.72 บาท หรือ 8.56% ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคา 5 วัน -1.38% ขณะที่ 20 วันอยู่ที่ -3.60% และ 60 วันอยู่ที่ 15.05% ส่วนค่า P/E อยู่ที่ 47.57 เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 4.10 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก ณ วันที่ 11 มิ.ย.2563 ได้แก่ 1.นายปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ จำนวน 2,504,132,840 หุ้น หรือคิดเป็น 15.76% 2. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวน 1,320,190,412 หุ้น หรือคิดเป็น 8.31% 3.บมจ.วิริยะประกันภัย จำนวน 948,283,830 หุ้น หรือคิดเป็น 5.97% 4.บมจ.การบินกรุงเทพ จำนวน 828,418,690 หุ้น หรือคิดเป็น 5.21% และ 5.น.ส.ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ จำนวน 552,014,710 หุ้น หรือคิดเป็น 3.47%

2.BH (บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์) มาร์เก็ตแคปที่ 98,131.33 ล้านบาท

สิ้นปี 63 ปิดที่ 120.00 บาท ล่าสุด 15 ม.ค.64 ปิดที่ 123.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ 2.91% ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคา 5 วัน -3.89% ขณะที่ 20 วันอยู่ที่ 0.41% และ 60 วันอยู่ที่ 29.66% ส่วนค่า P/E อยู่ที่ 51.27 เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 5.33 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก ณ วันที่ 20 ส.ค.2563 ได้แก่ 1.บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ จำนวน 182,513,006 หุ้น หรือ 22.97% 2.บมจ.กรุงเทพประกันภัย อยู่ที่ 106,740,417 หุ้น หรือคิดเป็น 13.43% 3.บมจ.กรุงเทพ จำนวน 65,743,344 หรือ 8.27% 4.UOB KAY HIAN (HONG KONG) LIMITED – Client Account จำนวน 62,514,765 หุ้น หรือคิดเป็น 7.87% และ5.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวน 59,105,358 หุ้น หรือคิดเป็น 7.44%

3.SVH (บมจ.สมิติเวช) มาร์เก็ตแคปที่ 39,700.00 ล้านบาท

สิ้นปี 63 ปิดที่ 400.00 บาท ล่าสุด 15 ม.ค.64 ปิดที่ 397.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ -0.75% ซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคปที่ 39,700.00 ล้านบาท ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคา 5 วัน -0.75% ขณะที่ 20 วันอยู่ที่ 1.02% และ 60 วันอยู่ที่ 0.51% ส่วนค่า P/E อยู่ที่ 25.15 เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 4.24 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ณ วันที่ 3 ก.ค.2563 ได้แก่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ จำนวน 95,763,634 หุ้น หรือคิดเป็น 95.76%

4.BCH (บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล) มาร์เก็ตแคปที่ 34,413.72 ล้านบาท

สิ้นปี 63 ปิดที่ 13.60 บาท ล่าสุด 15 ม.ค.64 ปิดที่ 13.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 1.47% ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคา 5 วัน -1.43% ขณะที่ 20 วันอยู่ที่ -% และ 60 วันอยู่ที่ -4.17% ส่วนค่า P/E อยู่ที่ 28.87 เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 5.20 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก ณ วันที่ 28 ส.ค. 2563 ได้แก่ 1.นายเฉลิม หาญพาณิชย์ จำนวน 813,750,000 หุ้น หรือคิดเป็น 32.63% 2.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวน 184,238,122 หุ้น หรือคิดเป็น 7.39% 3.พ.ญ. สมพร หาญพาณิชย์ จำนวน 181,750,000 หุ้น หรือคิดเป็น 7.29% 4.สำนักงานประกันสังคม จำนวน 149,908,800 หุ้น หรือคิดเป็น 6.01% และ 5.THE BANK OF NEW YORK MELLON จำนวน 120,389,300 หุ้น หรือคิดเป็น 4.83%

5.RAM (บมจ.โรงพยาบาลรามคำแหง) มาร์เก็ตแคปที่ 33,840.00 ล้านบาท

สิ้นปี 63 ปิดที่ 139.50 บาท ล่าสุด 15 ม.ค.64 ปิดที่ 141.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 1.07% ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคา 5 วัน -% ขณะที่ 20 วันอยู่ที่ 0.36% และ 60 วันอยู่ที่ 0.71% ส่วนค่า P/E อยู่ที่ 69.40 เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 3.20 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก ณ วันที่ 13 พ.ย. 2563 ได้แก่ 1.บริษัท เอฟแอนด์เอส 79 จำกัด จำนวน 55,246,695 หุ้น หรือคิดเป็น 23.02% 2.CYPRESS CONSOLIDATED HEALTHCARE PTE.LTD. จำนวน 48,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 20.00% 3.บริษัท โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม จำกัด จำนวน 17,246,000 หุ้น หรือคิดเป็น 7.19% 4.บริษัท สินแพทย์ จำกัด จำนวน 15,797,469 หุ้น หรือคิดเป็น 6.58% และ5.บมจ.โรงพยาบาลวิภาวดี จำนวน 12,482,736 หุ้น หรือคิดเป็น 5.20%

6.CHG (บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์) มาร์เก็ตแคปที่ 27,940.00 ล้านบาท

สิ้นปี 63 ปิดที่ 2.46 บาท ล่าสุด 15 ม.ค.64 ปิดที่ 2.54 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท หรือ 3.25% ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคา 5 วัน -4.51% ขณะที่ 20 วันอยู่ที่ -1.55% และ 60 วันอยู่ที่ 5.83% ส่วนค่า P/E อยู่ที่ 36.89 เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 7.41 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก ณ วันที่ 27 ส.ค. 2563 ได้แก่ 1.น.ส.กรรณิกา พลัสสินทร์ จำนวน 1,994,750,400 หุ้น หรือคิดเป็น 18.13% 2.นายอภิรุม ปัญญาพล จำนวน 1,127,189,050 หุ้น หรือคิดเป็น 10.25% 3.นางกอบกุล ปัญญาพล จำนวน 917,156,600 หุ้น หรือคิดเป็น 8.34% 4.นายณรัณ รติพาณิชย์วงศ์ จำนวน 775,393,100 หุ้น หรือคิดเป็น 7.05% 5.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวน 461,099,036 หุ้น หรือคิดเป็น 4.19%

7.VIBHA (บมจ.โรงพยาบาลวิภาวดี) มาร์เก็ตแคปที่ 24,436.56 ล้านบาท

สิ้นปี 63 ปิดที่ 1.47 บาท ล่าสุด 15 ม.ค.64 ปิดที่ 1.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.33 บาท หรือ 22.44% ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคา 5 วัน -3.23% ขณะที่ 20 วันอยู่ที่ 21.62% และ 60 วันอยู่ที่ 18.42% ส่วนค่า P/E อยู่ที่ 82.91 เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 3.19 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก ณ วันที่ 2563 ได้แก่ 1.นาย ชัยสิทธิ์ วิริยะเมตตากุล จำนวน 1,983,500,000 หุ้น หรือคิดเป็น 14.95% 2.บริษัท เอฟแอนด์เอส 79 จำกัด จำนวน 1,933,742,766 หุ้น หรือคิดเป็น 14.58% 3.บริษัท สินแพทย์ จำกัด จำนวน 1,172,639,166 หุ้น หรือคิดเป็น 8.84% 4.บมจ.โรงพยาบาลรามคำแหง จำนวน 962,605,200 หุ้น หรือคิดเป็น 7.26% 5.บมจ.โรงพยาบาลเจ้าพระยา จำนวน 804,634,195 หุ้น หรือคิดเป็น 6.07%

8.THG (บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป) มาร์เก็ตแคปที่ 22,712.89 ล้านบาท

สิ้นปี 63 ปิดที่ 25.75 บาท ล่าสุด 15 ม.ค.64 ปิดที่ 26.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 3.88% ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคา 5 วัน -% ขณะที่ 20 วันอยู่ที่ 2.88% และ 60 วันอยู่ที่ 46.17% ส่วนค่า P/E อยู่ที่ 197.73 เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 2.88 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก ณ วันที่ 13 มี.ค.2563 ได้แก่ 1.นางจารุวรรณ วนาสิน จำนวน 96,599,119 หุ้น หรือคิดเป็น 11.38% 2.บมจ.โรงพยาบาลรามคำแหง จำนวน 85,502,400 หุ้น หรือคิดเป็น 10.07% 3.WJ INTERNATIONAL HOSPITAL MANAGEMENT COMPANY LIMITED จำนวน 51,304,344 หุ้น หรือคิดเป็น 6.04% 4.นายแพทย์ อำนวย อุนนะนันทน์ จำนวน 43,510,970 หุ้น หรือคิดเป็น 5.12% 5.นายอาษา เมฆสวรรค์ จำนวน 29,743,637หุ้น หรือคิดเป็น 3.50%

9.PRINC (บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล) มาร์เก็ตแคปที่ 14,749.55 ล้านบาท

สิ้นปี 63 ปิดที่ 4.00 บาท ล่าสุด 15 ม.ค.64 ปิดที่ 4.26 บาท เพิ่มขึ้น 0.26 บาท หรือ 6.5% ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคา 5 วัน -3.18% ขณะที่ 20 วันอยู่ที่ 13.90% และ 60 วันอยู่ที่ 62.60% ส่วนค่า P/E อยู่ที่ N/A เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 1.76 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก ณ วันที่ 10 ก.ค. 2563 ได้แก่ 1.UBS AG HONG KONG BRANCH จำนวน 1,262,060,526 หุ้น หรือคิดเป็น 36.45% 2.นาย สาธิต วิทยากร จำนวน 821,728,800 หุ้น หรือคิดเป็น 23.73% 3.น.ส. สาธิตา วิทยากร จำนวน 498,054,588 หุ้น หรือคิดเป็น 14.38% 4.INTERNATIONAL FINANCE CORPORATION จำนวน 222,249,300 หุ้น หรือคิดเป็น 6.42% 5.Peak Development Holdings Ltd. จำนวน 157,737,029 หุ้น หรือคิดเป็น 4.56%

10.SKR (บมจ.ศิครินทร์) มาร์เก็ตแคปที่ 13,295.54 ล้านบาท

สิ้นปี 63 ปิดที่ 6.50 บาท ล่าสุด 15 ม.ค.64 ปิดที่ 6.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท หรือ 2.30% ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคา 5 วัน 0.76% ขณะที่ 20 วันอยู่ที่ -2.21% และ 60 วันอยู่ที่ 9.02% ส่วนค่า P/E อยู่ที่ 44.44 เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 3.37 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก ณ วันที่ 30 เม.ย. 2563 ได้แก่ 1.บมจ.โรงพยาบาลวิภาวดี จำนวน 292,900,000 หุ้น หรือคิดเป็น 14.65% 2.นางเพียงนภา จรูญศรี จำนวน 229,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 11.45% 3.นายนพดล เขมะโยธิน จำนวน 180,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 9.00% 4.นายอติรัชต์ จรูญศรี จำนวน 166,128,877 หุ้น หรือคิดเป็น 8.31% 5.น.ส.นิลเนตร มหัทธนารักษ์ จำนวน 83,013,994 หุ้น หรือคิดเป็น 4.15%

11.RJH (บมจ.โรงพยาบาลราชธานี) มาร์เก็ตแคปที่ 7,575.00 ล้านบาท

สิ้นปี 63 ปิดที่ 23.70 บาท ล่าสุด 15 ม.ค.64 ปิดที่ 25.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.55 บาท หรือ 6.54% ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคา 5 วัน -1.94% ขณะที่ 20 วันอยู่ที่ 6.99% และ 60 วันอยู่ที่ 12.72% ส่วนค่า P/E อยู่ที่ 21.66 เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 5.43 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก ณ วันที่ 23 พ.ย. 2563 ได้แก่ 1.นายสุรินทร์ ประสิทธิ์หิรัญจำนวน 40,661,805 หุ้น หรือคิดเป็น 13.55% 2.บริษัท โรงพยาบาลวิภาราม จำนวน 23,815,039 หุ้น หรือคิดเป็น 7.94% 3.บมจ.โรงพยาบาลรามคำแหง จำนวน 12,100,000 หุ้น หรือคิดเป็น 4.03% 4.กองทุนเปิด บัวหลวงหุ้นระยะยาว จำนวน 10,872,800 หุ้น หรือคิดเป็น 3.62% 5.น.ส.พิชญ์ระพี ประสิทธิ์หิรัญ จำนวน 9,591,800 หุ้น หรือคิดเป็น 3.20%

12.PR9 (บมจ.โรงพยาบาลพระรามเก้า) มาร์เก็ตแคปที่ 7,312.59 ล้านบาท

สิ้นปี 63 ปิดที่ 9.00 บาท ล่าสุด 15 ม.ค.64 ปิดที่ 9.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ 3.33% ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคา 5 วัน 2.76% ขณะที่ 20 วันอยู่ที่ -3.12% และ 60 วันอยู่ที่ 29.17% ส่วนค่า P/E อยู่ที่ 37.54 เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 1.81 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก ณ วันที่ 4 มิ.ย. 2563 ได้แก่ 1.คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ จำนวน 292,062,500 หุ้น หรือคิดเป็น 37.14% 2.กองทุนเปิด อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด สมอล แค็พ จำนวน 16,449,700 หุ้น หรือคิดเป็น 2.09% 3.กองทุนเปิด บัวหลวงปัจจัย 4 หุ้นระยะยาวปันผล จำนวน 12,440,900 หุ้น หรือคิดเป็น 1.58% 4.นายเสถียร ภู่ประเสริฐ จำนวน 10,550,000 หุ้น หรือคิดเป็น 1.34% 5.น.พ.ประเสริฐ ไตรรัตน์วรกุล จำนวน 9,950,000 หุ้น หรือคิดเป็น 1.27%

13.CMR (บมจ.เชียงใหม่รามธุรกิจการแพทย์) มาร์เก็ตแคปที่ 7,241.62 ล้านบาท

สิ้นปี 63 ปิดที่ 1.76 บาท ล่าสุด 15 ม.ค.64 ปิดที่ 1.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท หรือ 2.27% ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคา 5 วัน -6.25% ขณะที่ 20 วันอยู่ที่ 1.69% และ 60 วันอยู่ที่ 0.56% ส่วนค่า P/E อยู่ที่ 36.11 เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 2.06 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ณ วันที่ 17 มี.ค. 2563 ได้แก่ 1.บมจ.โรงพยาบาลวิภาวดี จำนวน 3,361,400,000 หุ้น หรือคิดเป็น 83.55% 2.นายวิโรจน์ องค์อนันต์คุณ จำนวน 51,935,200 หุ้น หรือคิดเป็น 1.29% 3.นายพิสุทธิ์ วิริยะเมตตากุล จำนวน 30,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 0.75%

14.NTV (บมจ.โรงพยาบาลนนทเวช) มาร์เก็ตแคปที่ 6,680.00 ล้านบาท

สิ้นปี 63 ปิดที่ 42.50 บาท ล่าสุด 15 ม.ค.64 ปิดที่ 41.75 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ -1.76% ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคา 5 วัน -0.60% ขณะที่ 20 วันอยู่ที่ -6.70% และ 60 วันอยู่ที่ 2.45% ส่วนค่า P/E อยู่ที่ 26.09 เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 3.14 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก ณ วันที่ 10 ก.ค. 2563 ได้แก่ 1.น.ส.ประพิชญา พรมมาส จำนวน 73,486,800 หุ้น หรือคิดเป็น45.93% 2.นายภาโณตม์ พรมมาส จำนวน 11,430,000 หุ้น หรือคิดเป็น 7.14% 3.นายพรมพันธ์ พรมมาส จำนวน 9,670,000 หุ้น หรือคิดเป็น 6.04% 4.นางปัทมา พรมมาส จำนวน 6,040,000 หุ้น หรือคิดเป็น 3.78% 5.บมจ.กรุงเทพประกันภัย จำนวน 5,107,600 หุ้น หรือคิดเป็น 3.19%

15.VIH (บมจ.ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์) มาร์เก็ตแคปที่ 4,165.86 ล้านบาท

สิ้นปี 63 ปิดที่ 7.30 บาท ล่าสุด 15 ม.ค.64 ปิดที่ 7.30 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคา 5 วัน -5.19% ขณะที่ 20 วันอยู่ที่ -5.81% และ 60 วันอยู่ที่ 19.67% ส่วนค่า P/E อยู่ที่ 23.57 เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 3.12 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก ณ วันที่ 2 มี.ค. 2563 ได้แก่ 1.บริษัท บีบีทีวี เอ็คควิตี้ จำกัด จำนวน 114,240,000 หุ้น หรือคิดเป็น 20.02% 2.นายบวรรัฐ วนดุรงค์วรรณ จำนวน 82,496,107 หุ้น หรือคิดเป็น 14.46% 3.นางพัฏ โรจน์มหามงคล จำนวน 78,556,000 หุ้น หรือคิดเป็น 13.77% 4.นางรังสิมา วณิชภักดีเดชา จำนวน 78,555,999 หุ้น หรือคิดเป็น 13.77% 5.น.ส.พัชรพรรณ วนดุรงค์วรรณ จำนวน 28,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 4.91%

16.LPH (บมจ.โรงพยาบาล ลาดพร้าว) มาร์เก็ตแคปที่ 3,405.00 ล้านบาท

สิ้นปี 63 ปิดที่ 4.58 บาท ล่าสุด 15 ม.ค.64 ปิดที่ 4.54 บาท ลดลง 0.04 บาท หรือ -0.87% ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคา 5 วัน -0.44% ขณะที่ 20 วันอยู่ที่ -4.22% และ 60 วันอยู่ที่ 9.13% ส่วนค่า P/E อยู่ที่ 27.13 เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 2.35 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก ณ วันที่ 28 ส.ค. 2563 ได้แก่ 1.บริษัท แอล.พี.โฮลดิ้ง จำกัด จำนวน 250,274,100 หุ้น หรือคิดเป็น 33.37% 2.นายพิพัฒน์ เศวตวิลาศ จำนวน 37,543,684 หุ้น หรือคิดเป็น 5.01% 3.บริษัท เอ็นซีเอช 2555 โฮลดิ้ง จำกัด จำนวน 34,749,880 หุ้น หรือคิดเป็น 4.63% 4.บมจ.โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำนวน 30,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 4.00% 5.นายอังกูร ฉันทนาวานิช จำนวน 23,636,600 หุ้น หรือคิดเป็น 3.15%

17.EKH (บมจ.เอกชัยการแพทย์) มาร์เก็ตแคปที่ 3,120.00 ล้านบาท

สิ้นปี 63 ปิดที่ 4.98 บาท ล่าสุด 15 ม.ค.64 ปิดที่ 5.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.22 บาท หรือ 4.41% ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคา 5 วัน -5.45% ขณะที่ 20 วันอยู่ที่ 4.84% และ 60 วันอยู่ที่ 20.93% ส่วนค่า P/E อยู่ที่ 55.02 เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 3.90 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก ณ วันที่ 29 พ.ค. 2563 ได้แก่ 1.นางอรสา ตั้งสัจจะพจน์ จำนวน 38,510,480 หุ้น หรือคิดเป็น 6.42% 2.นายอำนวย เอื้ออารีมิตร จำนวน 29,052,900 หุ้น หรือคิดเป็น 4.84% 3.นางกาญจนา เอื้ออารีมิตร จำนวน 21,636,600 หุ้น หรือคิดเป็น 3.61% 4.นายกิตติพัฒน์ เอื้ออารีมิตร จำนวน 19,916,000 หุ้น หรือคิดเป็น 3.32% 5.น.ส.นิษฐา เอื้ออารีมิตร จำนวน 19,760,000 หุ้น หรือคิดเป็น 3.29%

18.M-CHAI (บมจ.โรงพยาบาลมหาชัย) มาร์เก็ตแคปที่ 3,008.00 ล้านบาท

สิ้นปี 63 ปิดที่ 191.50 บาท ล่าสุด 15 ม.ค.64 ปิดที่ 188.00 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ -1.82% ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคา 5 วัน -5.76% ขณะที่ 20 วันอยู่ที่ 2.17% และ 60 วันอยู่ที่ 2.73% ส่วนค่า P/E อยู่ที่ 51.50 เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 2.21 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก ณ วันที่ 13 มี.ค. 2563 ได้แก่ 1.บริษัท มหาชัยเวชกรรม จำกัด จำนวน 6,800,000 หุ้น หรือคิดเป็น 42.50% 2.นายพงษ์พัฒน์ ปธานวนิช จำนวน 1,226,508 หุ้น หรือคิดเป็น 7.67% 3.บมจ.ธนาคาร ไอซีบีซี (ไทย)) จำนวน 778,900 หุ้น หรือคิดเป็น 4.87% 4.บริษัท โรงพยาบาลกรุงเทพสนามจันทร์ จำกัด จำนวน 684,400 หุ้น หรือคิดเป็น 4.28% 5.นาย เดโช เอี่ยมชีรางกูร จำนวน 398,900 หุ้น หรือคิดเป็น 2.49%

19.RPH (บมจ.โรงพยาบาลราชพฤกษ์) มาร์เก็ตแคปที่ 2,921.10 ล้านบาท

สิ้นปี 63 ปิดที่ 5.55 บาท ล่าสุด 15 ม.ค.64 ปิดที่ 5.35 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ -3.60% ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคา 5 วัน -2.73% ขณะที่ 20 วันอยู่ที่ -6.14% และ 60 วันอยู่ที่ 1.90% ส่วนค่า P/E อยู่ที่ 38.49 เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 2.22 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก ณ วันที่ 25 ส.ค.2563 ได้แก่ 1.นายธีระวัฒน์ ศรีนัครินทร์ จำนวน 63,671,900 หุ้น หรือคิดเป็น 11.66% 2.บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำนวน 38,216,510 หุ้น หรือคิดเป็น 7.00% 3.นายวัลลภ เหล่าไพบูลย์ จำนวน 24,577,360 หุ้น หรือคิดเป็น 4.50% 4.กระทรวงการคลัง จำนวน 14,700,000 หุ้น หรือคิดเป็น 2.69% 5.นายวราฤทธิ์ ศิริธนชัย จำนวน 13,167,200 หุ้น หรือคิดเป็น 2.41%

20.AHC (บมจ.โรงพยาบาลเอกชล) มาร์เก็ตแคปที่ 2,128.71 ล้านบาท

สิ้นปี 63 ปิดที่ 14.10 บาท ล่าสุด 15 ม.ค.64 ปิดที่ 14.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.70% ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคา 5 วัน -0.70% ขณะที่ 20 วันอยู่ที่ 2.90% และ 60 วันอยู่ที่ 15.45% ส่วนค่า P/E อยู่ที่ 28.90 เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 1.35 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก ณ วันที่ 5 พ.ค.2563 ได้แก่ 1.นายอภิรักษ์ วานิช จำนวน 16,327,392 หุ้น หรือคิดเป็น 10.89% 2.บริษัท เจียรวานิช จำกัด จำนวน 12,612,000 หุ้น หรือคิดเป็น 8.41% 3.นางเตือนจิตต์ กิตติวุฒ จำนวน 9,994,140 หุ้น หรือคิดเป็น 6.67% 4.(บมจ.โรงพยาบาลรามคำแหง) จำนวน 7,200,200 หุ้น หรือคิดเป็น 4.80% 5.น.ส.รจนา วานิช จำนวน 6,026,940 หุ้น หรือคิดเป็น 4.02%

21.KDH (บมจ.ธนบุรี เมดิเคิล เซ็นเตอร์) มาร์เก็ตแคปที่ 1,647.66 ล้านบาท

สิ้นปี 63 ปิดที่ 85.00 บาท ล่าสุด 15 ม.ค.64 ปิดที่ 85.00 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคา 5 วัน -% ขณะที่ 20 วันอยู่ที่ -4.49% และ 60 วันอยู่ที่ -3.41% ส่วนค่า P/E อยู่ที่ N/A เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 3.56 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก ณ วันที่ 7 ก.ค. 2563 ได้แก่ 1.บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ จำนวน 6,787,043 หุ้น หรือคิดเป็น 35.01% 2.บริษัท รอยัลบางกอก เฮ็ลธ์แคร์ จำกัด จำนวน 5,626,288 หุ้น หรือคิดเป็น 29.03% 3.นางวัลลีย์ สังข์ศิริ จำนวน 968,900 หุ้น หรือคิดเป็น 5.00% 4.นายขันธ์เพชร สารสาส จำนวน 400,000 หุ้น หรือคิดเป็น 2.06% 5.นายกระเษียร ตันติผลาชีวะ จำนวน 343,700 หุ้น หรือคิดเป็น 1.77%

22.WPH (บมจ.โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง) มาร์เก็ตแคปที่ 1,074.00 ล้านบาท

สิ้นปี 63 ปิดที่ 1.74 บาท ล่าสุด 15 ม.ค.64 ปิดที่ 1.79 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ 2.87% ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคา 5 วัน 2.87% ขณะที่ 20 วันอยู่ที่ 3.47% และ 60 วันอยู่ที่ 17.76% ส่วนค่า P/E อยู่ที่ N/A เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 1.38 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก ณ วันที่ 26มิ.ย. 2563 ได้แก่ 1.นางชิลาภรณ์ เหล่าสุนทร จำนวน 128,363,100 หุ้น หรือคิดเป็น 21.39% 2.นางชิดาภา บุญสันติสุข จำนวน 68,363,100 หุ้น หรือคิดเป็น 11.39% 3.นางอมรา ลีละวัฒน์ จำนวน 67,402,500 หุ้น หรือคิดเป็น 11.23% 4.นายวัฒน์ ลีละวัฒน์ จำนวน 54,738,822 หุ้น หรือคิดเป็น 9.12% 5.นายวิชย์ ลีละวัฒน์ จำนวน37,068,800 หุ้น หรือคิดเป็น 6.18%

23.NEW (บมจ.วัฒนาการแพทย์) มาร์เก็ตแคปที่ 492.50 ล้านบาท

สิ้นปี 63 ปิดที่ 60.00 บาท ล่าสุด 15 ม.ค.64 ปิดที่ 49.25 บาท ลดลง 10.75 บาท หรือ -17.91% ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคา 5 วัน -12.05% ขณะที่ 20 วันอยู่ที่ 6.49% และ 60 วันอยู่ที่ 2.60% ส่วนค่า P/E อยู่ที่ 81.89 เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 1.40 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก ณ วันที่ 13 พ.ค. 2563 ได้แก่ 1.น.ส.ณัฐธิรา ตั้งสืบกุล จำนวน 2,434,542 หุ้น หรือคิดเป็น 24.35% 2.นางศุภวรรณ ตั้งสืบกุล จำนวน 1,587,250 หุ้น หรือคิดเป็น 15.87% 3.นางวัลลีย์ สังข์ศิริ จำนวน 1,082,700 หุ้น หรือคิดเป็น 10.83% 4.น.ส.พัลลภา วิทยากร จำนวน 1,017,000 หุ้น หรือคิดเป็น 10.17% 5.นายพิพัฒน์ ตั้งสืบกุล จำนวน 807,282 หุ้น หรือคิดเป็น 8.07%

อย่างไรก็ตาม บล.เอเซีย พลัส ได้วิเคราะห์ไว้ว่า แม้ผู้ติดเชื้อทั่วโลก และไทยยังเป็นประเด็นที่มีน้ำหนัก แต่ข่าวดีจากความคืบหน้าวัคซีน Covid-19 ถือเป็น Sentiment บวกต่อตลาดหุ้น เนื่องจากอย. ไทยจะอนุมัติขึ้นทะเบียนในวันที่ 14 ก.พ.64 นี้และจะเริ่มฉีดให้กับกลุ่มที่มีความเสี่ยงก่อน เช่น แพทย์ ผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยรัฐบาลตั้งเป้าสิ้นปีนี้ จะมีผู้ได้รับวัคซีนเกินครึ่งประเทศหรือ 50% ของประชากร โดยรวมกับวัคซีนที่จะมีอย่างต่อเนื่องจากนี้ แม้ว่าจะมีแนวโน้มเป็นในทิศทางที่ดีต่อกลุ่มนี้ อิป้าแอบหวังลึก ๆ ว่าหุ้นกลุ่มนี้จะเวิร์คม๊าก มาก อย่างที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้เช่นกันค่ะ วันนี้ไปล่ะคะ บ๊ายยย

Facebook Comments