พีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์

บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “FIRM” ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ “FTREIT” เปิดเผยว่า FTREIT ได้รับคัดเลือกเข้าดัชนี FTSE Global Equity Index Series (FTSE GEIS) จัดทำโดย FTSE Russell ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดทำดัชนีหลักทรัพย์ในระดับสากล โดย ณ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา FTSE Russell ได้ประกาศให้ FTREIT เข้ารวมคำนวณในดัชนีดังกล่าว และจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2563

ดัชนี FTSE GEIS เป็นดัชนีที่คัดเลือกหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีศักยภาพจากทั่วโลก มากกว่า 17,000 หลักทรัพย์ ใน 49 ประเทศ การได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมในดัชนีนี้จะมีส่วนสำคัญที่จะสนับสนุนในการให้น้ำหนักการลงทุนของนักลงทุนประเภทสถาบัน กองทุน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เนื่องด้วยดัชนีดังกล่าวคำนวณด้วยมาตรฐานและความโปร่งใสในการคำนวณดัชนีระดับสากล

นายพีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ FTREIT เปิดเผยว่า “ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ FTREIT รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ FTREIT ได้รับคัดเลือกเข้าดัชนี FTSE GEIS ซึ่งนับเป็นความสำเร็จก้าวสำคัญที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของดัชนีชั้นนำระดับโลก และถือเป็นโอกาสที่สำคัญที่จะทำให้ FTREIT สามารถเข้าถึงกลุ่มนักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่ทั้งในประเทศ และต่างประเทศได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น บริษัทขอขอบคุณผู้ถือหน่วยทรัสต์ และนักลงทุน รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดที่ให้การสนับสนุน และเชื่อมั่นในศักยภาพของผู้จัดการกองทรัสต์ และ FTREIT เสมอมา”

อิป้าหามาเล่าปัจจุบันทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการของกองทรัสต์ FTREIT ประกอบด้วย อาคารโรงงานและคลังสินค้ารวม 578 ยูนิต บนพื้นที่ให้เช่ารวม 1.76 ล้านตารางเมตร โดยทุกโครงการตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ของไทย อาทิ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สมุทรปราการ และจังหวัดในพื้นที่อีอีซี และนับเป็นกองทรัสต์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า 39,182 ล้านบาท

แบงก์ชาติสิงคโปร์อนุมัติให้ RF Fund Management เป็นบริษัทจัดการกองทุนจดทะเบียน

หลังจากที่ได้รับการรับรองจากธนาคารกลางสิงคโปร์ ( MAS) แล้ว กองทุนไพรเวทอิควิตี้ของ RF Fund Management ประกาศสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อกระตุ้นนวัตกรรมการลงทุนในระดับโลก

RF Fund Management ของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือ RF International Holdings เปิดเผยว่า ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ได้อนุมัติคำขอการเริ่มต้นธุรกิจของบริษัท ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนจดทะเบียน เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวปูทางให้ RF Fund Management สามารถเริ่มบริหารกองทุนไพรเวทอิควิตี้มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยการมุ่งเน้นไปที่เศรษฐกิจดิจิทัล กองทุนดังกล่าวจะสนับสนุนการยกระดับบทบาทของสิงคโปร์ในฐานะศูนย์กลางการจัดการกองทุนระดับสากล ภายใต้กรอบการดำเนินงาน Variable Capital Companies (VCC) ที่ธนาคารกลางสิงคโปร์เพิ่งเปิดตัว

Eric Neo Say Wei ประธานบริหารกลุ่มธุรกิจ RF International Holdings และกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหารของ RF Fund Management กล่าวว่า “เรามีวิสัยทัศน์ในการสร้างโอกาสและความมั่งคั่งข้ามพรมแดนที่ยั่งยืนให้กับทุกคน ด้วยกองทุนไพรเวทอิควิตี้นี้ เราจะใช้กลยุทธ์โครงสร้างนวัตกรรมซึ่งจะเน้นเร่งการเพิ่มมูลค่าของเงินทุนในระดับสูง เพื่อเฟ้นหา บ่มเพาะ และลงทุนในธุรกิจ SME และสตาร์ทอัพ พร้อมช่วยให้นักลงทุนของเราและธุรกิจเหล่านี้เดินหน้าได้เต็มศักยภาพ และสอดคล้องกับงบประมาณของสิงคโปร์ปี 2563”

กระทรวงการคลังสิงคโปร์ (MoF) ได้จัดสรรงบประมาณถึง 8.3 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในช่วง 3 ปีข้างหน้า เพื่อปูทางสู่การเปลี่ยนผ่านและเร่งการเติบโตของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ทางกระทรวงยังได้จัดสรรเงินอีก 300 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพในภาคเทคโนโลยีขั้นสูงโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย Startup SG Equity ของรัฐบาล

Eric กล่าวว่า “สิ่งที่เราเห็นจากกระทรวงการคลังสิงคโปร์คือการมุ่งเน้นไปที่อนาคต ด้วยนโยบาย ‘สร้างนิยามใหม่แห่งโลกอนาคต’ รวมถึงความมุ่งมั่นของเราเพื่อใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการดำเนินการด้านการบริหารจัดการกองทุน อาทิ Distributed Ledger Technology และ Smart Contract เราหวังที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมการเงินในสิงคโปร์”

สิงคโปร์มีบริษัทสตาร์ทอัพเทคโนโลยีประมาณ 3,800 แห่งทั่วประเทศ แต่คุณ Eric เสริมว่า “อย่างไรก็ตาม สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีหลาย ๆ แห่งยังต้องเผชิญกับความยากลำบากในการหานักลงทุนเชิงกลยุทธ์ เพราะคนกลุ่มนี้จะช่วยผลักดันการเติบโตของสตาร์ทอัพ อย่างไรก็ดี การดำเนินการจะต้องเชื่อถือได้ มีความยืดหยุ่น และยั่งยืน”

RF International Holdings ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ RF Fund Management ได้สนับสนุนระบบนิเวศสตาร์ทอัพดิจิทัลของสิงคโปร์มากกว่าแค่การสนับสนุนเงินหรือทุน RF International Holdings เป็นนักลงทุนระยะแรกของ iSTOX ซึ่งก่อตั้งและบริหารโดย ICHX Tech และกำกับดูแลโดยธนาคารกลางสิงคโปร์ โดยทาง RF International Holdings ได้ลงทุนเชิงกลยุทธ์มูลค่า 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2562 ส่งผลให้กลายเป็นผู้ถือหุ้นภายนอกอันดับที่ 3 ของ ICHX หรือเป็นรองเพียงตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ และ Heliconia Capital ซึ่งเป็นธุรกิจของเทมาเส็ก

คุณ Eric กล่าวว่า “เราอยู่ในทุกช่วงของการเติบโต ตั้งแต่การเข้าครอบครองกิจการใหม่และกลยุทธ์การเจาะตลาด ไม่ว่าจะเป็นจีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ หรือชาติอื่น ๆ ในอาเซียน ไปจนถึงการสนับสนุนและผลักดันราคาให้สูงขึ้น ระบบนิเวศของเราเปิดทางให้ SME และสตาร์ทอัพต่าง ๆ สามารถนำไอเดียไปต่อยอดได้ผ่านการลงทุน การให้คำแนะนำ และการใช้ประโยชน์จากเศรษฐกิจดิจิทัล เราขอเชิญให้นักลงทุนที่มีแนวคิดเหมือนกันกับเรา ให้เข้ามาร่วมสร้างการเติบโตให้กับ SME และสตาร์ทอัพเหล่านี้ไปด้วยกัน”

เกี่ยวกับ RF Fund Management

RF Fund Management ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือ RF International Holdings เป็นบริษัทจัดการกองทุนที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารกลางสิงคโปร์ ซึ่งถูกต้องตามหลักมโนธรรมและมีหน้าที่สนับสนุนคนรุ่นปัจจุบันและคนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ ทางบริษัทให้ความสำคัญกับสถาบันมากกว่าตัวบุคคล พร้อมเน้นย้ำถึงความยั่งยืน และพาพนักงานและนักลงทุนไปสู่โลกการเงินหรือความสนใจของชุมชนตามวัฎจักรเศรษฐกิจต่าง ๆ

ด้วยทีมผู้นำการลงทุนที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมรวมกันกว่า 60 ปี เราหวังที่จะได้ ‘สร้างนิยามใหม่แห่งอนาคต’ ให้กับเศรษฐกิจดิจิทัลในอุตสาหกรรมการจัดการสินทรัพย์

Facebook Comments