epahamalao

เทียบฟอร์ม OSP-SAWAD เตรียมผงาดเข้า SET50

มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า วันนี้มาเม้าหุ้นดังที่มีแนวโน้มจะขยับฐานะเข้าสู่ SET50 ซึ่งหลายสำนักออกมาระบุตรงกันว่า ถ้าดักทางเข้าซื้อ ก่อนประกาศ โอกาสจะทำกำไรมีสูงค่ะ โดย 2 ตัวนี้คือ OSP (บมจ.โอสถสภา) มาร์เกตแคป 105,882.19 ล้านบาท และ SAWAD (บมจ.ศรีสวัสดิ์) มาร์เกตแคป 51,649.72 ล้านบาท

มาดูที่ตัวแรกค่ะ OSP (บมจ.โอสถสภา) องค์กร 128 ปี (ก่อตั้งพ.ศ. 2434 โดยแป๊ะ แซ่ลิ้ม) ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมีเรือธงคือ เอ็ม-150 ลิโพ (กลุ่มเครื่องดื่มบำรุงกำลัง) เครื่องดื่มเกลือแร่ และกาแฟพร้อมดื่ม และกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลภายใต้ตราสินค้าเบบี้มายด์ และทเวลฟ์พลัส รวมทั้งธุรกิจให้บริการผลิตสินค้า บรรจุภัณฑ์ และจัดจำหน่ายสินค้ามากมาย

โครงสร้างผู้ถือหุ้น มี ORIZON LIMITED ถือใหญ่สุด (537,148,600 หุ้น หรือ 17.88%) อันดับ 2 คือ นักลงทุนในตำนานนายนิติ โอสถานุเคราะห์ (ถือ489,081,300 หุ้น หรือ 16.28%) โดยใน OSP นั้นมี “โอสถานุเคราะห์” ถือหุ้นใหญ่ (เกิน 0.5%) อยู่ 13 คน คือนายนิติ , นายรัตน์ , นายเพชร , ร้อยตรีเสรี , นายธัชรินทร์ , นายภาสุรี , น.ส.เกสรา , นางศรีสุมา , นายภูรี , นายภูรัตน์ , นายนาฑี , นายคฑา และน.ส. สุธิตา

โครงสร้างผู้บริหาร มีนายสุรินทร์ โอสถานุเคราะห์ เป็นประธานกรรมการ ขณะที่รองประธานกรรมการอีก 2 คน ล้วนเป็นจอมเก๋าในยุทธจักรคือ นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ (อดีตบอสธนาคารไทยพาณิชย์ และปลุกปั้นยูนิลีเวอร์มา 30 กว่าปี) และนายสมประสงค์ บุญยะชัย (ผ่านงานหลายแห่งทั้งไอบีเอ็ม (ประเทศไทย) – ปูนซิเมนต์ไทย – แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส – อินทัช) และมีนาย เพชร โอสถานุเคราะห์ เป็นประธานคณะกรรมการบริหาร

มาดูตัวเลขสำคัญ P/E 34.04 เท่า (P/Eของกลุ่ม22.54เท่า) , P/BV 5.86เท่า , D/E (อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น) 0.28 เท่า , ROE (อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น) 28.06% , ROA (อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์) 19.68% ,Yield (อัตราเงินปันผลตอบแทน)1.96% ส่วนผลงาน ไตรมาส 1/62 นั้นมีรายได้รวม 6,573.83 ล้านบาท กำไรสุทธิ 888.26 ล้านบาท EPS (กำไรต่อหุ้น) 0.30บาท , NPM (อัตรากำไรสุทธิ) 11.94%

ขณะที่ราคาสิ้นปี 61 ปิดที่ 24.50 บาท ล่าสุด (7 มิ.ย.62) ปิดที่ 34.75 บาท ราคาปิดต่ำสุดอยู่ที่ 23.30 บาท (21 ม.ค.62) สูงสุดที่ 35.50 บาท (5มิ.ย.62) ความเคลื่อนไหวทั้งหมด สูงสุด 36.75 บาท ต่ำสุด 23.30 บาท ค่าเฉลี่ย 28.16 บาท เปลี่ยน 41.84%

ด้านราคาปี 61 ตั้งแต่ 18 ต.ค.61 ราคาปิดที่ 25.50 บาท และสิ้นปี 28 ธ.ค.61 ราคาปิดที่ 24.50 บาท โดยราคาปิดต่ำสุดอยู่ที่ 23.00 บาท (24 ต.ค.61) สูงสุด ที่ 25.75 บาท (31 ต.ค.61) ความเคลื่อนไหวทั้งหมดในปี 61 สูงสุด 27.00 บาท ต่ำสุด 22.80 บาท ค่าเฉลี่ย 24.57 บาท เปลี่ยน -10.09%

ซึ่ง OSP นั้น เคาะราคา IPO ที่ 25.00 บาท/หุ้น และล่าสุด (7 มิ.ย. 62) ปิดที่ 34.75 บาท เท่ากับปรับขึ้น 9.75 บาท หรือคิดเป็น 39% มาดู SAWAD (บมจ.ศรีสวัสดิ์) กันบ้างค่ะ ทำธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายย่อย “ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ” ก่อตั้งเมื่อปี 51 เข้าตลาดฯปี 57 โดยการปลูกปั้นของนายฉัตรชัย แก้วบุตตา อดีตตัวแทนจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ Honda ขยายกิจการสู่การเช่าซื้อ และปล่อยกู้โดยมีรถยนต์ หรือจักรยานยนต์เป็นหลักประกันมีทรัพย์สิน 1 พันล้านเหรียญฯ หรือ 3.19 หมื่นล้านบาท (อ้างอิง forbesthailand)

โครงสร้างผู้ถือหุ้น มีน.ส.ธิดา แก้วบุตตา ถือหุ้นใหญ่สุด (242,144,612 หุ้น หรือ 20.10%) และมีบริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือเป็นลำดับที่ 2 (ถือ122,951,200 หุ้น หรือ 10.21%) มีคนในตระกูล “แก้วบุตตา” ถืออยู่รวม 3 คนคือน.ส.ธิดา, น.ส.ดวงใจ และนางจริยา

โครงสร้างผู้บริหารมีนายสุคนธ์ กาญจนหัตถกิจ เป็นประธานคณะกรรมการ (ตั้งแต่ 21 ก.ค.58) และนายฉัตรชัย แก้วบุตตา เป็น ประธานกรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มาดูตัวเลขสำคัญ P/E 22.94 เท่า (P/E Sector20.30 เท่า) P/BV 4.58 เท่า , EPS 0.65 บาท , NPM 47.74% , D/E 2.16 , ROE 26.01% , ROA 10.26% ,Yield 0.02% ส่วนผลงานไตรมาส 1/62 นั้นมีรายได้รวม 2,148.69 ล้านบาท กำไรสุทธิ 843.05 ล้านบาท

ขณะที่ราคา 2 ม.ค.62 ปิดที่ 44.75บาท ล่าสุด (7 มิ.ย.62) ปิดที่ 52.75 บาท ราคาปิดต่ำสุดอยู่ที่ 44.50 บาท (18 ม.ค.62) สูงสุดที่ 52.75 บาท (7 มิ.ย.62) ความเคลื่อนไหวทั้งหมด สูงสุด 56.75 บาท ต่ำสุด 44.00 บาท ค่าเฉลี่ย 50.29 บาท เปลี่ยน 17.22%

ด้านราคาปี 61 ตั้งแต่ 3 ม.ค.61 ราคาปิดที่ 63.47 และสิ้นปี 28 ธ.ค.61 ราคาปิดที่ 45.00 บาท โดยราคาปิดต่ำสุดอยู่ที่ 29.50 บาท (29 มิ.ย.62) สูงสุดที่ 65.37 บาท (4ม.ค.62) ความเคลื่อนไหวทั้งหมดในปี 61 สูงสุด 65.37 บาท ต่ำสุด 28.50 บาท ค่าเฉลี่ย 46.69 บาท เปลี่ยน -27.21%

ซึ่ง SAWAD วันที่เริ่มต้นซื้อขาย คือ 8 พ.ค.57 เคาะขาย IPO ราคา 6.90 บาทต่อหุ้น วันที่ 9 พ.ค. 57 ปิด 9.76บาท และทำราคาไล่ไปถึง 23.82 บาท เมื่อจบสิ้นปี 57 ทั้งนี้เมื่อเทียบราคาปัจจุบัน ล่าสุด (7 มิ.ย. 62) ปิดที่ 52.75 บาท เท่ากับตั้งแต่วันเริ่มเข้าตลาด ราคาดีดขึ้นมา 45.85 บาท หรือ 664.49%

อย่างไรก็ตาม ข้อมูล เหล่านี้เป็นเพียง 1 ในข้อมูลเชิงสถิติ ที่ไว้ใช้ในการประกอบการพิจารณานะคะ …วันนี้ไปล่ะค่ะ บ๊ายย

Facebook Comments
Skip to toolbar