ลงทุน

มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า บังเอิ๊ญ บังเอิญ เดิน ๆ ชอปปิ้งอยู่เพลิน ๆ เหลือบซ้ายแลขวาใครน้อหน้าตาคุ้น ๆ อ๋อ! “คุณป่าน – ธัญญะ ซื่อวาจา” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) นั่นเอง อิป้าไม่รอช้าค่ะ มุ่งสู่ประเด็นคำถามการวางแผน ลงทุน สำหรับคนรุ่นใหม่ต้องทำอย่างไร…

ทำไม?นัก ลงทุน รุ่นใหม่จึงควรวางแผนการลงทุน

การลงทุนในยุคปัจจุบันเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงด้านข่าวสารอย่างรวดเร็ว ดังนั้นนักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนรุ่นใหม่ควรที่จะต้องใส่ใจการติดตามข่าวสารต่างๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพราะหากเราลงทุนโดยไม่เข้าใจ หรือไม่มีการวางแผนที่ดีแล้วอาจจะทำให้เงินที่ลงทุนไปนั้นต้องมลายหายไปได้ ซึ่งในปัจจุบันนักลงทุนรุ่นใหม่มีเครื่องมือต่างๆมากมายที่สามารถศึกษาหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ทั้งผ่านเวปไซด์ แอปพลิเคชั่น และข้อมูลจากเพจต่างๆ

เทคนิคการวางแผนการลงทุนสำหรับคนรุ่นใหม่

สำหรับคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มลงทุน ผมมี 3 เทคนิคดีดีในการวางแผนการลงทุนเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นั่นก็คือ Check, Choose และ Share

1.“Check” การตรวจสอบตัวเอง สิ่งที่สำคัญที่สุดในการลงทุนก็คือการสำรวจตรวจสอบตัวของท่านเองว่ามีความพร้อมในการลงทุนมากน้อยเพียงใด โดยสิ่งที่สำคัญในการลงทุนก็คือการนำเงินออมมาใช้ในการลงทุน นักลงทุนรุ่นใหม่หลายๆคนอยากลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด แต่ไม่ได้ใช้เงินที่เกิดจากการออม แต่ใช้วิธีการกู้ยืมเงินมาเพื่อใช้ในการลงทุน

ซึ่งวิธีการดังกล่าวนี้จะไม่ช่วยทำให้ท่านได้ประโยชน์สูงสุดจากการลงทุน และนอกจากนั้นยังอาจทำให้ขาดทุนจากการทุนอีกด้วย เพราะการลงทุนที่ดี เราควรต้องพร้อม เพราะการลงทุนหลายๆอย่างต้องใช้เวลา หรือที่หลายๆคนพูดว่าควรใช้ “เงินเย็น” ในการลงทุน เพราะการลงทุนบางจังหวะต้องรอเวลา ซึ่งหากนักลงทุนที่ไม่สามารถรอจังหวะและโอกาสได้ ก็อาจจะต้องยอมขาดทุนเพื่อขายให้ได้เงินมาใช้กับเรื่องอื่นๆ ดังนั้นสิ่งแรกที่ควรทำก็คือต้องสำรวจความพร้อมของตัวท่านเองเสียก่อน

2.Choose (หาข้อมูลที่เกี่ยวข้องและเลือกลงทุนที่เหมาะสม)

อย่างที่ผมบอกไปตอนต้นว่าการลงทุนในยุคปัจจุบันเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงด้านข่าวสารอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจกระทบต่อการลงทุนได้ ดังนั้นการใส่ใจในการติดตามข่าวสารต่างๆ จึงมีความจำเป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้เราสามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างถูกต้อง ซึ่งปัจจุบันข้อมูลข่าวสารต่างๆเราสามารถหาได้โดยง่ายแค่ผ่านสมาร์ทโฟนที่เราใช้อยู่

โดยเมื่อเรามีความรู้และความเข้าใจดีแล้วก็ต้องมาเลือกลงทุนให้เหมาะตามความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้ ซึ่งการลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงก็จะมีความเสี่ยงสูงเป็นปกติ ดั้งนั้นท่านเองก็ต้องเลือกลงทุนที่เหมาะสมตามความรู้ ความเข้าใจ และความเสี่ยงที่ยอมรับได้อีกด้วย

3.Share (กระจายความเสี่ยง โดยเลือกลงทุนที่หลากหลาย)

โดยการวางแผนลงทุนนั้นไม่ควรกระจุกตัวอยู่ที่การลงทุนประเภทใดประเภทหนึ่งหรือที่ใดที่หนึ่งแต่เพียงอย่างเดียว ควรจะมีการกระจายการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงด้วย โดยนักลงรุ่นใหม่ควรต้องจัดพอร์ตการลงทุนของตัวท่านเองซึ่งอาจมีหลากหลาย ทั้งพอร์ตการลงทุนเชิงรุก ปานกลาง หรือแบบระมัดระวัง

ซึ่งหากท่านเป็นนักลงรุ่นใหม่ที่มีรายได้และค่าใช้จ่ายไม่สูงนัก และที่สำคัญยังมีระยะเวลาในการเก็บออมเงินและลงทุนเป็นระยะเวลานาน อาจจะจัดพอร์ตการลงทุนในเชิงรุกโดยสามารถที่จะลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงสูงได้มาก โดยอาจจะกระจายการลงทุนไปลงในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีได้

เช่น ลงในหุ้นอาจจะประมาณ 70 % ซึ่งจะทำให้ได้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง ส่วนที่เหลือนำไปลงทุนในกองทุนรวมผสมซึ่งจะนำเงินที่ระดมได้ไปลงทั้งตราสารหนี้และตราสารทุนซึ่งมีผลตอบแทนปานกลางและมีความเสี่ยงไม่สูงมากนัก ประมาณ 20 %, ส่วนอีก 10% ก็นำไปลงทุนในตราสารที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น เงินฝาก, พันธบัตรรัฐบาล, กองทุนรวมตราสารหนี้ หรือออมเงินผ่านการทำประกันชีวิตก็ได้

ทิศทางการลงทุนของนักลงทุนรุ่นใหม่

ปัจจุบันทิศทางการลงทุนของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากและหลากหลาย ซึ่งการลงทุนที่น่าสนใจของนักลงทุนรุ่นใหม่ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้เป็นอย่างดี เช่น

“การลงทุนทำธุรกิจของตัวเอง” เรียกได้ว่าเป็นเทรนสำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่หลายๆคนที่ชอบการเป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเอง ซึ่งนอกจากที่จะไม่ต้องเป็นลูกจ้างของใครแล้ว ยังอาจสร้างผลตอบแทนที่สูงอีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จในการลงทุนทำธุรกิจของตัวเอง เพราะหลายๆคนก็เจ็บตัวไม่น้อย ดังนั้นหากใครก็ตามที่คิดจะลงทุนทำธุรกิจด้วยตัวเองแล้วก็ต้องศึกษาหาข้อมูลให้ดีทั้งข้อมูลตลาด และข้อมูลในการทำธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจของท่านเติบโตไปได้อย่างยั่งยืนต่อไป

“การลงทุนหุ้น” คนรุ่นใหม่หลายๆ คนสนใจที่จะลงทุนหุ้นเพราะสามารถสร้างผลตอบแทนได้เป็นอย่างดี แต่ว่าการที่จะสร้างผลตอบแทนหรือขาดทุนมากน้อยแค่ไหน ก็แล้วแต่ว่าเลือกลงทุนในหุ้นถูกตัวหรือไม่นั่นเอง

ซึ่งการลงทุนหุ้นถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงมาก เนื่องจากผู้ลงทุนอาจจะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ หรืออาจจะขาดทุนถึงขั้นหมดตัวไปเลยก็ได้ แต่ด้วยผลตอบแทนที่สูงและใช้เวลาไม่นานนักก็เห็นผล จึงมักเป็นทางเลือกแรกๆสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนและหวังผลตอบแทน แต่ว่าก่อนที่จะลงทุนในหุ้นควรมีการศึกษาให้ดีก่อน

โดยผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน ไม่เช่นนั้นแล้วอาจขาดทุนจนถึงขั้นหมดตัวได้

“การลงทุนกองทุนรวม” การลงทุนประเภทนี้เหมาะกับผู้ที่มีเงินลงทุนไม่มาก แต่อยากลงทุนและอยากได้กำไร ซึ่งข้อดีของการลงทุนประเภทนี้คือ ไม่จำเป็นต้องมีความรู้หรือมีประสบการณ์ในการลงทุนมาก่อนก็สามารถลงทุนได้ ซึ่งจะแตกต่างจากการลงทุนหุ้นที่จะต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์พอสมควรไม่เช่นนั้นอาจจะขาดทุนได้

อีกทั้งกองทุนรวมนั้นจะมีมืออาชีพในด้านการลงทุนมาดูแลจัดการกองทุนให้ด้วยจึงช่วยลดความกังวลของผู้ลงทุนและความเสี่ยงที่จะขาดทุนนั่นเอง โดยกองทุนรวมในปัจจุบันมีมากมายหลายแบบ ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่สามารถรับได้

เช่น กองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ หรือพันธบัตร กองทุนประเภทนี้ความเสี่ยงต่ำ แต่ผลตอบแทนก็จะต่ำเช่นกัน หรือกองทุนทองคำ เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงกว่า เนื่องจากราคาทองคำนั้นมีการขึ้นลงอยู่เสมอและอาจจะมีความเสี่ยงเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแต่ผลตอบแทนก็จะสูงเช่นกัน

“การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์” นักลงทุนรุ่นใหม่หลายๆคนสนใจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ทั้งที่ดิน บ้าน หรือคอนโด ซึ่งการลงทุนในรูปแบบนี้อาจต้องใช้ทุนสูงซักหน่อย แต่ถือเป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนสูงพอสมควรเลยทีเดียว อย่างที่เรารู้ๆกันว่า โดยปกติแล้วอสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็น บ้านหรือที่ดิน ส่วนใหญ่ราคาจะขึ้นทั้งนั้นจึงเหมาะกับการซื้อเก็บหรือซื้อไว้เก็งกำไร

แต่ก็ไม่เสมอไปเพราะหากทำเลที่ซื้อไม่ดี นอกจากราคาไม่ขึ้นแล้วอาจจะขายไม่ได้อีกด้วย ดังนั้นนักลงทุนจึงควรมีความรู้เกี่ยวกับทำเลที่ตั้งหรือสภาพของอสังหาริมทรัพย์พอสมควร ยิ่งในปัจจุบันซึ่งอยู่ในอิ่มตัวของตลาดอสังหาริมรัพย์ ดังนั้นนักลงทุนจึงควรดูจังหวะในการลงทุนให้ดี ก็จะสามารถสร้างกำไรได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

“รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” ปรัชญาของซุนวูดังกล่าวยังใช้ได้เสมอ เพราะการลงทุนในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยากแต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ ดังนั้นหากคิดที่จะลงทุนแล้วประสบความสำเร็จก็ต้องรู้ทั้งเขาและเรา

โดย “รู้เขา” จากการหาข้อมูลและติดตามข้อมูลข่าวสารอยู่เสมอ รู้ให้ลึกและจริงเพื่อประกอบการตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้อง และนำไปสู่ทิศทางการลงทุนที่ใช่ “รู้เรา” โดยประเมินศักยภาพในการลงทุนและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของตนเองเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนที่เหมาะสม เมื่อรู้เขาและรู้เราแล้ว เชื่อว่าแน่การลงทุนครั้งใดก็ย่อมที่จะประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอนวันนี้ไปละค่ะ…บ๊ายยย

Facebook Comments