มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า…ช่วงนี้ตลาด หุ้น ค่อนข้างผันผวนเดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงจนอิป้าปวดเศียรเวียนเกล้าไปหมดแล้วค้าาา และยิ่งจะสิ้นปีแบบนี้แล้วก็ต้องมีการวางแผนเรื่องการลงทุนให้ดี ๆ เผื่อจะนำไปลดหย่อนภาษีกับเขาได้บ้าง
“อิป้าจับเข่าคุย” ได้นำประสบการณ์การลงทุนของสาวคนนี้ “มุ้ม – ดรรชนี นวลเขียว” ที่มีการวางแผนด้านการลงทุน หน้าที่การงาน และเรื่องเรียนอย่างเป็นระบบระเบียบ ทำให้เธอประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะด้านการลงทุนต้องบอกว่าไม่ธรรมดาจริงๆ ค่ะ
“มุ้ม” จบการศึกษาปริญญาตรีคณะเศรษฐศาสตร์ การเงินธนาคาร จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และปริญญาโทด้านการจัดการภาครัฐและเอกชน จากสถาบันบัณฑิต พัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ซึ่งการเล่นหุ้นครั้งแรกของเธอนั้น เริ่มต้นเมื่อตอนที่ยังเรียนปริญญาตรี ด้วยการเทรดพอร์ตจำลอง โดยอาจารย์ให้เงินลมมา 2 ล้านบาท และได้กำไรเพิ่มเป็น 5 ล้านบาท มันจุดประกายความอยากลงทุนหุ้นมาตั้งแต่ตอนนั้น
โดยเธอเริ่มเข้าสู่สนามการลงทุนหุ้นมาตั้งแต่หุ้น 300 จุด ยุคนั้นเป็นยุคที่ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ ชื่อ “เสี่ยโต้ง-กิตติรัตน์ ณ ระนอง” ตลาดหุ้นขึ้นไป 100% เธอก็หน้าชื่นตาบานกับเค้าไปด้วย แต่หลังจากตลาดขึ้นไปร้อยเปอร์เซ็นต์พอร์ตเธอก็ตกฮวบ เรียกว่าขาดทุนยับก็ผ่านมาแล้ว
แต่ทุกครั้งมันคือการเรียนรู้ เวลาที่ลงทุนเธอมักจะถูกจริตกับ “หุ้นใหญ่ๆ” เธอเล่าว่า พวกพื้นฐานดีทั้งหลายเวลาตกแล้วไม่เจ็บหนัก สมัยก่อนเคยถือหุ้นกสิกร (KBANK) แถวๆ 60 บาท คิดดูซิว่า วันนี้ถ้ายังถืออยู่จะได้กำไรขนาดไหน แต่ไม่ใช่ล่ะ ด้วยความที่เข้าๆ ออกๆ หุ้น พอร์ตเธอก็ไม่ได้โตมาก แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เงินงอกเงยขึ้นมาได้บ้าง
สำหรับพอร์ตลงทุนหุ้นในปัจจุบัน “มุ้ม” บอกว่า ด้วยความที่ทำงานไม่ค่อยมีเวลาเฝ้าหน้าจอ ส่วนตัวก็จะใช้แอพพลิเคชันดูหุ้น เพื่อเลือกหุ้นพื้นฐานดีและซื้อในจังหวะที่ใช่ หุ้นที่ชอบเช่น BDMS ลงทุนมาจนรู้พฤติกรรมราคาหุ้น บางจังหวะมีขายออกเพื่อทำกำไรไปบ้าง แล้วซื้อกลับเข้ามาใหม่ในต้นทุนที่ต่ำกว่า และในระยะยาว BDMS ก็เป็นหุ้นที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่มโรงพยาบาล
ตัวต่อมา KTC ตั้งแต่แตกพาร์ ราคาก็น่าสนใจ ประกอบกับธุรกิจสินเชื่อรายย่อย ยังคงขยายตัว ด้วย performance ของธุรกิจเองก็ออกมาดี และ WHA เป็นหุ้นอีกตัวที่มี story การเติบโตตลอดเวลา ธุรกิจน่าจับตามอง โดยเฉพาะการที่ภาครัฐสนับสนุนการขยายตัวของเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เชื่อว่า WHA ได้รับอานิสงส์อีกมาก หุ้นเหล่านี้เป็นหุ้นใหญ่พื้นฐานดี ถือระยะยาวแล้วสบายใจ
เธอไม่ได้ใส่เงินลงทุนไปในหุ้นเพียงอย่าเดียว แต่เธอยังกระจายการลงทุนไปยัง…กองทุนรวม โดยเลือกกองทุนที่มีการบริหารผลตอบแทนย้อนหลังดีๆ เธอซื้อ LTF และ RMF หลักๆ ของเธอจะดูช่วงเวลาที่หุ้นตกหนักๆ ก็จะเอาเงินเข้าไปซื้อกองทุนไว้ โดยเฉพาะกองทุน RMF ซึ่งจะต้องถือยาวจนเกษียณ
เธอบอกว่าก็ลองดูกองที่ให้ผลตอบแทนย้อนหลังดีๆ บางทีเราอาจจะได้ผลตอบแทนที่มากกว่าตลาด 20-30% ก็มี ทุกวันนี้เธอจึงตัดแบ่งเงินในแต่ละปีมาซื้อกองทุนสม่ำเสมอ และตังปณิธานกับตัวเองว่า ต้องทำให้ได้ และเงินก้อนนี้ล่ะที่จะเอาไว้ใช้ในวัยเกษียณ
นอกจากนี้เธอยังกระจายการลงทุนมายังอสังหาริมทรัพย์ ด้วยความที่เป็นนักลงทุน เมื่อมีเงินมาระดับหนึ่งเธอจึงคิดว่า จะต้องหาซื้อบ้านหลังแรกไว้เป็นของตัวเอง เธอบอกว่า อสังหาชิ้นแรกของเธอซื้อมาเมื่อสิบกว่าปีก่อน ก่อนปล่อยออกไปได้กำไรเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา แต่การจะซื้ออสังหาชิ้นแรกได้นั้นเธอใช้เวลาหาของนานถึงสองปีเชียวค่ะ
หลังจากขายบ้านหลังแรกได้กำไร เธอเริ่มเห็นความหอมหวนของผลตอบแทนในการลงทุนในอสังหา ใช่! อสังหาฯ รอเวลานานหน่อยแต่มันได้เป็นกอบเป็นกำ หลังจากนั้นมาจึงมีหลังที่ 2 และ 3 ตามมา ทุกวันนี้นอกจากบ้านที่อยู่เธอยังลงทุนซื้อคอนโดมาปล่อยเช่า เธอมองว่า “ทำเล” สำคัญที่สุดในการทำห้องให้เช่า
และด้วยความที่มีลูกค้าอสังหามาก เธอจึงมีโอกาสได้ไปดูทำเล ดูสินค้า ดูราคา และตัดสินใจได้เองจากข้อมูลที่มีอยู่ในมือ เธอบอกว่าขี้หมูขี้หมาอย่างน้อยการปล่อยเช่าก็มีคนมาผ่อนให้เรา และได้ Capital Gain ด้วยหากขายออก และตอนนี้ห้องเธอก็ทำเลดี รถไฟฟ้ามาจ่อถึงหน้าโครงการ ราคาห้องขึ้นไปแล้วถึง 30% เธอบอกว่า รอรถไฟฟ้าเสร็จค่อยขาย อดทนรอราคาดีๆ กว่านี้อีกนิดนึง
ขณะเดียกวันก็ได้ให้ความสำคัญกับประกันชีวิต เธอบอกว่าชีวิตทุกคนมีความเสี่ยง หายใจทุกวันนี้ก็มีความเสี่ยงแล้ว อยู่นิ่งๆไม่ทำอะไร ไม่ลงทุนอะไรก็มีความเสี่ยงไปหมด เธอเองให้ความสำคัญกับการทำประกันชีวิตมาตั้งแต่อายุยังน้อย เรียกว่าเป็นเด็กน้อยก็ซื้อประกันก่อนเลย เป็นการซื้อประกันความเสี่ยงให้ชีวิตเธอเอง และคนที่อยู่ข้างหลังจะได้ไม่ลำบาก
แม้เธอรู้ว่าผลตอบแทนในการซื้อประกันจะต่ำมาก แต่เราต้องรู้จักวัตถุประสงค์ของมัน และเธอเองก็ซื้อประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ให้ทั้งพนักงานและพ่อแม่ เธอคิดว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่จะตอบแทนพวกเค้าในวันที่เราเองก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เช่นอุบัติเหตุ ไม่รู้จะเกิดตอนไหน ซื้อไว้เพื่อความสบายใจ เงินเราหาเมื่อไหร่ก็ได้ เธอบอกแบบนั้น
และเธอบอกอีกว่า การเดินทางและท่องเที่ยวก็คือการลงทุนแบบหนึ่ง ทำมันให้ได้ รู้จักการวางแผนไปสู่เป้าหมาย การได้เห็นโลก เห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่บ้านเมืองเราไม่มีมันช่างตื่นตาตื่นใจ และเก็บกลับมาใช้ในการทำงาน การดำเนินชีวิตได้เสมอ เธอบอกว่าการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าสำคัญที่สุดในการเดินทางและการทำงานก็เช่นกัน
ในแต่ละปีเธอจึงตั้งเป้าเดินทางไปที่ใหม่ๆ ปีละหนึ่งครั้ง เพื่อ Refresh ชีวิตตัวเอง แม้ทุกวันนี้มันเกินกว่าหนึ่งครั้งต่อปีไปแล้ว แต่เธอก็บอกว่ายังมีอีกหลายที่บนโลกใบนี้รอให้เธอปักหมุด โลกมันกว้างใหญ่และเราก็ตัวเล็กเหลือเกิน การเดินทางมันทำให้เราลดอีโก้ หรืออัตตาในตัวเราลงได้มาก ทุกครั้งที่ได้ออกเดินทางมันคือ ความสุข
“มุ้ม” ได้บอกเพิ่มเติมอีกว่า โชคดีมากที่หลังจากเรียนจบปริญญาตรีได้เริ่มทำงานในหนังสือพิมพ์ธุรกิจชื่อดังแห่งหนึ่ง ในตำแหน่งผู้สื่อข่าวสายตลาดทุน ทำให้เข้าใจการลงทุนเป็นอย่างดี หลังจากนั้นเธอก็ปรับเปลี่ยนบทบาทไปหาประสบการณ์ พีอาร์เอเจนซี่ ที่มีชื่อเสียงทั้งแบรนด์ไทยและแบรนด์อินเตอร์ ทำให้เธอมีประสบการณ์ในด้านสื่อสารมวลชน สื่อสารการตลาด และที่สำคัญเธอเข้าใจในการวางกลยุทธ์ขององค์กร ซึ่งต้องสอดคล้องกับแบรนด์
ปัจจุบันเธอมีบริษัท เมคอะเว็ลท์ คอนซัลติ้ง จำกัด ไว้รับเป็นที่ปรึกษาทางด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ การทำแบรนด์ดิ้ง และด้วยความเป็นคนชอบอสังหาริมทรัพย์ ทุกวันนี้เธอจึงปลุกปั้น มีเดียออนไลน์ด้านอสังหาที่ใช้ชื่อในเฟสบุ๊คว่า PropDNA หรือ www.propdna.net
สุดท้ายเธอบอกว่า ทั้งหมดที่ทำมาในชีวิต ถ้าเธอคิดแล้วต้องลงมือทำ ถ้าไม่ลงมือทำก็จะไม่มีวันนี้ เวลามันผ่านไปเหมือนสายน้ำที่ไม่มีวันไหลกลับ ดังนั้นเราต้องรู้จักตั้งเป้าหมาย และลงมือทำเพื่อให้ความฝัน หรือเป้าหมายนั้นเป็นจริง
แหมทั้งสวยและรวยความสามารถขนาดนี้ ขาดอยู่อย่างเดียวลงทุนคู่ชีวิตไม่เห็นพูดถึง…หรืออาจจะมีลิสดีๆ อยู่ในมือแล้วเป็นแน่แท้ ว่าจะถามอิป้าก็เกรงใจ ไปล่ะบ๊ายยย
———————————-
ติดตามที่ :
Website : www.epahamalao.com
Facebook : www.facebook.com/epahamalao
Instagram : www.instagram.com/epahamalao
Twitter : www.twitter.com/epahamalao#หุ้น #กองทุนรวม #fund #set #Mutualfund #epahamalao #อิป้าหามาเล่า #ตลาดหุ้น #ตลาดหุ้นไทย #mai #ลงทุน #ออมเงิน
