สนธิรัตน์

มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า วันนี้จะขอเลี้ยวเข้าไปส่องเศรษฐกิจในภาพรวมกันหน่อยนะคะ แวะไปแถวสนามบินน้ำกันดีกว่าค่ะ ช่วงนี้บิ๊กกระทรวงพาณิชย์ กำลังถูกโฟกัสอย่างมากถึงช่วงโค้งสุดท้ายของการทำงาน เพราะกระทรวงนี้เขารับผิดชอบเรื่องการค้าการขาย เรื่องปากท้องชาวบ้านที่ต้องให้ความสนใจมากๆ ค้าาา รวมไปถึงอาจจะส่งผลทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องดีดเด้งไปด้วยน่ะสิคะ

เจ้ากระทรวงพาณิชย์อย่าง “นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” หนุ่มใหญ่วัย 58 ปี นั้นสั่งเจ้าหน้าที่ทุกกรมกองเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก มุ่งเน้นเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ประชาชน และธุรกิจในระดับท้องถิ่น แต่ต้องย้ำเป็นพิเศษนะคะคือ การมุ่งสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ด้วยการทั้งผลักทั้งดันให้ราคาสินค้าเกษตรมีราคาสูงขึ้น ทั้งข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และปาล์มน้ำมัน

แน่นอนว่า หากรัฐบาล (กระทรวงพาณิชย์) ผลักดันในสินค้าเกษตรมีราคาสูงขึ้น หุ้นในกลุ่มสินค้าเกษตรและกลุ่มใกล้เคียงจะได้รับอานิสงส์ไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอาหาร CPF (เจริญโภคภัณฑ์อาหาร) ,TU (ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป) , TVO (น้ำมันพืชไทย) , TIPCO (ทิปโก้ฟูดส์) ,TKN (เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง)

รวมไปถึงกลุ่มน้ำตาล KSL (น้ำตาลขอนแก่น) , KTIS (เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น) , BRR (น้ำตาลบุรีรัมย์) , KBS (น้ำตาลครบุรี) ฯลฯ กลุ่มน้ำมันปาล์ม เช่น UVAN (ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม) , LST (ล่ำสูง (ประเทศไทย)) ฯลฯ และ กลุ่มเกษตรอุตสาหกรรม เช่น GFPT(จีเอฟพีที) , STA (ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี) , BR (บางกอกแร้นช์) ฯลฯ

ไม่เท่านั้น “เฮียสน-สนธิรัตน์ “จะเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรด้วยการผลักดันให้นำสินค้าเกษตรเข้าไปจำหน่ายในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ รวมถึงสินค้าที่ผลิตในชุมชน ส่วนร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ จะยกระดับให้เป็นโชห่วยไฮบริด มีการนำระบบอีคอมเมิร์ซมาใช้ในการซื้อขายสินค้า และทำให้เข้มแข็งแข่งขันกับร้านค้าปลีกสมัยใหม่ได้อีกด้วยค่ะ

นอกจากนี้ ตามนโยบายของ เฮียกวง-นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี “เฮียสน” ลุยเร่งขับเคลื่อนธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว โดยจะทำการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวให้เข้าไปยังแหล่งเพาะปลูก แหล่งผลิตสินค้าเกษตร สินค้าชุมชน ขยายไปถึงที่พัก โรงแรม โฮมสเตย์ ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก ของที่ระลึก สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนได้อีกเพียบค่ะ

ซึ่งจะมีการเชื่อมโยงกันหมดทั้งระบบ และยังได้ตั้งเป้าผลักดันให้เกิดกรมธุรกิจบริการ เข้ามาดูแลภาคบริการทั้งระบบ โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสรุปและดำเนินการจัดตั้ง…ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าการท่องเที่ยวบูมมากเท่าไร หุ้นที่เชื่อมโยงกับการขนส่ง สนามบิน ที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร และการบริการ ต่างๆ ก็พลอยแฮปปี้ไปด้วยละค้าาา

ขณะเดียวกันนั้นจะมีการต่อยอด จากกรณีที่กระทรวงพาณิชย์ออกกฎกระทรวงให้สามารถนำไม้ยืนต้นมาใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจได้นั้น แต่ขณะนี้การรับรู้ยังไม่เปรี้ยงปร้างนัก ฉะนั้นแล้วต้องลุยโปรโมทกันหนักๆ ค่ะคุณขา เพื่อให้ชาวบ้านชาวช่องหันมาปลูกไม้ยืนต้นในที่ดินของตัวเอง เพราะไม่เพียงแต่ช่วยสร้างทุนครอบครัวให้มีเงินทุนนำไปใช้จากการนำไม้ไปค้ำประกัน แต่ยังเป็นการปลูกป่าให้กับประเทศอีกด้วย

และในอนาคต จะสามารถตัดไม้ไปใช้ประโยชน์และส่งออกได้ เนื่องจากขณะนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ปรับแก้กฎหมายให้สอดรับกันแล้วค่ะ

สำหรับประเด็นเรื่องการส่งออกต่างประเทศนั้น (เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ขับเคลื่อนทิศทางของเศรษฐกิจ) แน่นอนว่า เรื่องสงครามการค้าที่ยืดเยื้อมากว่า 5 เดือนแล้ว ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมพร้อมรับมือเต็มที่ ทางกระทรวงพาณิชย์นั้นได้เตรียมมาตรการรับมือมาอย่างต่อเนื่อง

พร้อมกันนั้น จะเดินหน้าผลักดันการส่งออกอย่างเต็มที่ มีแผนที่จะเดินทางไปขยายตลาดให้กับสินค้าไทยอย่างต่อเนื่องและจะมีการประเมินทิศทางการส่งออกที่เหลือของปีนี้ รวมถึงการจัดทำเป้าหมายการส่งออกของปี 2562 และในวันที่ 15 ตุลาคม 2561 นี้ จะเรียกถกเข้มมอบนโยบายการทำงานให้กับทูตพาณิชย์ลุยส่งออกเต็มสูบอีกด้วยล่ะค่ะ

และเมื่อการส่งออกของเรารุ่ง หุ้นกลุ่มส่งออกตีปีกแน่ค่ะ ทั้งกลุ่มส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มของอาหารส่งออก ตัวที่น่าจับตา เช่น HANA (ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส) , SAPPE (เซ็ปเป้) , MINT (ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล) , SVI (เอสวีไอ) ,DELTA (เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย)) และอีกหลายตัวค่ะ

อย่างไรก็ตาม ตามสถิติในช่วงไตรมาส 4 นั้น SET ในภาพรวมจะขยับขึ้นค่ะ และปีนี้ถ้าได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจในประเทศด้วยแล้ว หุ้นต่างๆ น่าจะยิ้มกันได้ค้าาา…ไปละบ๊าย

Facebook Comments