หุ้นกลุ่มแบงก์

มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า แบงก์พาณิชย์ออกโชว์ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกกันแล้วนะคะ แม้ต้องเจอกับวิกฤตไวรัสโควิด-19 แต่ดูเหมือนทุกแบงก์ก็ฟันฝ่าอุปสรรคกันมาได้ แม้จะเหนื่อยหน่อย ซึ่งมี่ที่ไหนกันบ้าง ตามมาดูกันเลยคร้าาา

ธนาคารกรุงเทพ

ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยรายงานกำไรสุทธิครึ่งแรกของปี 2563 จำนวน 10,765 ล้านบาท ซึ่งได้รวมผลประกอบการของธนาคารเพอร์มาตาตั้งแต่วันที่ธนาคารเข้าถือหุ้น โดยกำไรสุทธิลดลงจากครึ่งแรกของปี 2562 เนื่องจากธนาคารมีการตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อกันเงินสำรองสำหรับความไม่แน่นอนที่อาจเพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจที่หดตัวจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งการคาดการณ์วิกฤตในครั้งนี้ยังยากที่จะคาดคะเนเพราะเป็นวิกฤตด้านสาธารณสุขที่ส่งผลกระทบกว้างไกลต่อระบบเศรษฐกิจโลกไม่ใช่วิกฤตเศรษฐกิจโดยตรงเหมือนที่ผ่านมาในอดีต

สำหรับรายได้ดอกเบี้ยสุทธิของธนาคารเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.6 หากไม่รวมธนาคารเพอร์มาตา รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 ตามการเติบโตของสินเชื่อ ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิของธนาคารอยู่ที่ร้อยละ 2.31 สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงส่วนใหญ่จากกำไรสุทธิจากเงินลงทุน และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิลดลง

สาเหตุหลักจากการเปลี่ยนแปลงการรับรู้รายได้ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับการให้สินเชื่อตาม TFRS 9 สำหรับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอยู่ในระดับใกล้เคียงกับครึ่งแรกของปี 2562 โดยมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ร้อยละ 45.0 โดยธนาคารยังคงดูแลค่าใช้จ่ายอย่างมีวินัย เน้นการใช้จ่ายที่ช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยด้านสาธารณสุข รวมถึงการดำเนินการปรับปรุงระบบงานให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น และชะลอการใช้จ่ายที่ยังไม่จำเป็นในช่วงภาวะซบเซา

หนังสืออิป้าหามาเล่าธนาคารกรุงศรีอยุธยา

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และบริษัทในเครือ รายงานผลการดำเนินงานสำหรับงวดครึ่งปีแรกของปี 2563 โดยมีกำไรสุทธิจำนวน 13.5 พันล้านบาท ลดลง 31.4% จากช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ซึ่งมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการขายหุ้นจำนวน 50% ของบริษัท เงินติดล้อ จำกัด ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

หากไม่รวมรายการพิเศษในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 กำไรสุทธิในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ลดลง 2.9% หรือจำนวน 0.4 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 2562 โดยปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าเผื่อการขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 4.3 พันล้านบาท ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 9 และนโยบายการตั้งสำรองด้วยความรอบคอบระมัดระวังในช่วงภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวรุนแรง

ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ (งบการเงินรวมก่อนตรวจสอบ) ในไตรมาส 2 ของปี 2563 จำนวน 8,360 ล้านบาท ลดลง 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการตั้งเงินสำรองที่สูงขึ้น ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2563 ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 17,611 ล้านบาท ลดลง 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรจากการดำเนินงานยังคงเติบโต 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ธนาคารกรุงไทย

ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ว่าธนาคารมีกำไรก่อนสำรองเท่ากับ 37,604 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินที่ดีและได้รับประโยชน์จากการลดเงินนำส่งธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงการขยายตัวของสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 9.4 ช่วยลดผลกระทบจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายถึง 5 ครั้ง และต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ NIM เท่ากับร้อยละ 3.15 ลดลงจากร้อยละ 3.54 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับรายได้อื่นยังคงขยายตัวดี รวมถึงค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานที่ลดลงถึงร้อยละ 13.2 โดยมี Cost to Income ratio เท่ากับร้อยละ 40.72 ลดลงจากร้อยละ 46.76 ในช่วงเดียวกันของปี 2562 หากไม่รวมรายการพิเศษสำรองด้อยค่าทรัพย์สินรอการขายและรายได้ดอกเบี้ยรับจากการขายทอดตลาด ทรัพย์สินหลักประกันจำนอง Cost to Income ratio ในครึ่งแรกของปี 2563 เท่ากับร้อยละ 43.11 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 41.77 ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ธนาคารกสิกรไทย

ผลการดำเนินงานสำหรับงวดครึ่งปีแรกปี 2563 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดครึ่งปีแรกปี 2562 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและภาษีเงินได้จำนวน 45,950 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 2,805 ล้านบาท หรือ 6.50% แต่ด้วยการคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบคอบจากความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวลงจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ประกอบกับมาตรการของทางการที่ให้สถาบันการเงินให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ ทำให้ยังคงต้องมีการติดตามดูแลคุณภาพหนี้อย่างใกล้ชิด

ธนาคารและบริษัทย่อยจึงใช้หลักความระมัดระวังอย่างต่อเนื่องในการพิจารณาสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 16,937 ล้านบาท หรือ 111.97% ทำให้กำไรสุทธิสำหรับงวดครึ่งปีแรกปี 2563 ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 10,423 ล้านบาท หรือ 52.18% แม้ว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 4,142 ล้านบาท หรือ 8.12% ส่วนใหญ่เกิดจากการเติบโตของสินเชื่อ รวมทั้งการรับรู้รายได้ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรับเกี่ยวกับการให้สินเชื่อด้วยวิธีดอกเบี้ยที่แท้จริง ซึ่งเป็นการปฏิบัติตาม TFRS 9 ประกอบกับการปรับลดอัตราเงินนำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินลง ทำให้อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ อยู่ที่ระดับ 3.34%

นอกจากนี้ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงจำนวน 1,812 ล้านบาท หรือ 7.00% ส่วนใหญ่เกิดจากค่าธรรมเนียมรับเกี่ยวกับการให้สินเชื่อลดลงจากการเปลี่ยนไปแสดงเป็นรายได้ดอกเบี้ย และรายได้สุทธิจากการรับประกันภัยลดลง สำหรับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ลดลงจำนวน 475 ล้านบาท หรือ 1.41% ส่วนใหญ่เกิดจากการลดลงของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน และค่าใช้จ่ายกิจกรรมทางการตลาด ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการจัดการหนี้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ อยู่ที่ระดับ 42.00%

ธนาคารทหารไทย

ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบี และบริษัทย่อย แจ้งผลประกอบการสิ้นสุดเดือนมิถุนายน ปี 2563 ในวันนี้ โดยสำหรับผลประกอบการ 6 เดือนแรกของปี ทีเอ็มบีมีรายได้เพิ่มขึ้นตามการรับรู้รายได้จากธนาคารธนชาตเข้ามาในงบการเงินรวม ขณะที่การบริหารค่าใช้จ่ายเพื่อการดำเนินงานและเพื่อการรวมกิจการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองฯ เพิ่มขึ้น 119.2% จากครึ่งแรกของปี 2562 มาอยู่ที่ 18,653 ล้านบาท

ทั้งนี้ ธนาคารตั้งสำรองฯ เป็นจำนวน 9,732 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีทั้งส่วนที่เป็นการตั้งสำรองฯ ตามเกณฑ์และส่วนที่ตั้งเพิ่มเติมเพื่อรองรับแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ด้านคุณภาพสินเชื่อเน้นการบริหารจัดการในเชิงรุก ทำให้สามารถลดอัตราส่วนหนี้เสียลงมาอยู่ในระดับต่ำที่ 2.34% ซึ่งหลังจากหักสำรองฯ และภาษี ธนาคารมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7,258 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 107.6% จากครึ่งแรกของปีก่อน

ครึ่งปีที่เหลือของปี 63 เราตามติดตามและรอลุ้นกันอีกทีนะคะว่า การบริหารงานของแบงก์พาณิชย์หลังจากนี้จะเป็นเช่นไรกันบ้าง…วันนี้ไปล่ะค่ะ…บ๊ายยย

Facebook Comments