เศรษฐกิจครึ่งปีหลัง

มาแล้วค่ะ ปีนี้ อิป้า ฉีกปฎิทินไปแล้ว เกือบ 200 วัน แล้วค่ะ ผ่านไปไวเหมือนโกหก  เศรษฐกิจครึ่งปีหลัง บ้านเรายังสบายดีอยู่ไหม ? เสียงคำรามกึกก้องจากคนมีอำนาจ หยอดคำหวาน ตัวเลขทุกตัวดีดเด้งราวลูกชิ้นนายใบ้เลยละค้า แต่เสียงแหบโหยอ่อนระทวยจากมุมมืด ร้องจ๊ากทุกครั้งที่หย่อนมือลงไปกระเป๋ากางเกง…ไปดูความจริง 2ด้านกันค่ะ

เรีมจาก “เฮียกวง”-สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กระชุ่นว่า เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง ทั้งส่งออก การขับเคลื่อนงบประมาณ การลงทุน ความมั่นใจของนักลงทุนมากขึ้น ท่องเที่ยวที่ดีขึ้นต่อเนื่อง จึงเชื่อมั่นว่าในปีนี้เฉลี่ยแล้วเศรษฐกิจโตเกิน 4% แน่นอน ส่วนจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับภายในประเทศเอง อนาคตประเทศไทยค่อนข้างสดใส

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ขุนคลัง เปิดเผยว่า คาดจีดีพี ปีนี้จะขยายตัว 4.5% แนวโน้มการขยายตัวเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง 2561 น่าจะยังต่อเนื่องโดยขณะนี้เศรษฐกิจภายในมีความเข้มแข็งเพียงพอ การส่งออกปัจจุบันยังดีต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีปัจจัยเสี่ยงจากสงครามการค้าที่เกิดขึ้นปัจจุบันยังไม่มีผลกระทบต่อการส่งออกไทย ซึ่งไทยอาจจะใช้โอกาสนี้ในการส่งออกเพิ่มมากขึ้นได้

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุ พื้นฐานประเทศไทยเข้มแข็ง หนี้ต่างประเทศต่ำ ทุนสำรองระหว่างประเทศสูง ไม่หวั่นผลกระทบจากประเทศใหญ่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน-สงครามการค้าโลก ไม่ห่วงบาทผันผวน การันตีเปลี่ยนแปลงสอดคล้องภูมิภาค และน้อยกว่าประเทศอื่น

“ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ” ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย บอกว่า ปัจจุบัน ปัจจัยลบของเศรษฐกิจโลกเริ่มคลายตัวลง ปัญหาเกาหลีเหนือ-สหรัฐฯ และรัสเซีย-สหรัฐฯ คลายตัวลง สงครามการค้าโลกไม่รุนแรง ราคาน้ำมันโลกไม่สูงนัก การส่งออกของไทยน่าจะขยายตัวได้สูง การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของงภาครัฐ และ EEC น่าจะชัดมากขึ้น

นายปรีดี ดาวฉาย ประธานประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผย ว่า กกร.ได้ปรับเพิ่มประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 61 เป็น 4.3-4.8% จากเดิม 4.0-4.5% และปรับกรอบอัตราเงินเฟ้อ เป็น 0.9-1.5% จากเดิม 0.7-1.2% เพื่อให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจ จากมุมมองที่บวกขึ้นของการส่งออก การท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง

นาย ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหุ้น ให้ความเห็นว่า หุ้นไทยช่วงนี้ที่มีความผันผวนมาก รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก เงินทุนต่างชาติไหลออก ทั้งกังวลสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ การลดสภาพคล่องของตลาดเงินทั่วโลก การขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ แต่เชื่อว่าพื้นฐานเศรษฐกิจที่มีความแข็งแกร่งจะทำให้ต่างชาติกลับเข้ามาลงทุนในหุ้นไทยได้อีกครั้ง

เหล่านี้เป็นบรรดาบิ๊กบอส หน่วยงานความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ ของบ้านเรา ล้วนแต่แสดงทัศนะ อ้อล้อ ฉ้อเลาะ ร้องเพลงคีย์เดียวกันเลยค่ะ แต่ความจริงเป็นเช่นไรเหรอค่ะ?

อิป้า พาไปส่อง นิด้าโพล เค้าระบุว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 56.64 ไม่มีความเชื่อมั่นการบริหารงานรัฐบาล(เศรษฐกิจ) เพราะ นโยบายไม่ได้ช่วยประชาชนทุกระดับอย่างแท้จริง รัฐบาลแก้ปัญหาไม่ตรงจุด เป็นโครงการที่ไม่ต่อเนื่อง และระยะสั้น ส่วน ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา) คน ส่วนใหญ่ ร้อยละ 54.88 ชี้ชัดว่า ภาพรวมเศรษฐกิจแย่ลง พืชผลเกษตรตกต่ำ รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย และราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้น

นั้นเป็นเสียงสะท้อนคนรากหญ้าตอกย้ำ“รวยกระจุก-จนกระจาย” เม็ดเงินส่วนใหญ่หมุนไปอาบชโลมกลุ่มธุรกิจใหญ่ๆ เอื้อพวกพ้อง มากกว่าชาวบ้าน กำลังซื้อภาคครัวเรือนอ่อนแอ การใช้จ่ายในประเทศไม่เข้มแข็ง สินค้าเกษตรดิ่งเหว(สัปปะรด-มะนาว) ทางกนง.(คณะกรรมการนโยบายการเงิน)พยายามตรึงดอกเบี้ยไม่ขยับ ทำให้เงินเฟ้อเขยื้อนไม่ออกเหมือนกันค่ะ

สิ่งที่ต้องแลกกับการตรึงดอกเบี้ยของพี่ไทย -บวกกับเฟดฟ้าฟาด พี่หรั่ง เทจนเมื่อยมือ ปาไป1.8 แสนล้านบาทแล้วค่ะ คำถามคือจะทะลุ 2แสนล้านบาทหรือไม่ คนเกี่ยวข้องดูอึนๆ ไม่กล้าบอกโต้งๆ กลัวตลาดอ่อนไหว แมงเม่าอ่อนแอ และไหนจะสงครามการค้าสุมไฟกันไปเรื่อยๆ ตลาดหุ้นที่ร่วงไป1600 การเมืองที่ยังสวิงไปมา ฯลฯ

สรุป คือชนชั้นถูกปกครอง ยังคงต้องดิ้นรนกันต่อไปนะค่ะ อดออมและอดทน /พอเพียงและพอดี น่าจะเป็นยันต์ฝ่าถ้ำเศรษฐกิจที่มืดมิดออกไปได้ค่ะ…ไปละบ๊ายย

—————————–

ติดตามที่ :

#หุ้น #กองทุนรวม #fund #set #Mutualfund #epahamalao #อิป้าหามาเล่า #ตลาดหุ้น #ตลาดหุ้นไทย #mai #ลงทุน #ออมเงิน

Facebook Comments