ลงทุนหุ้น

มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า วันก่อนค่ะคุณขา ซิสนางหนึ่งแอบเม้าท์ว่า หล่อนรู้ปะ ตอนนี้นะ มีหุ้นบางตัวมาเงียบ ๆ แต่ฟาดเรียบนะคะ วิ่งหน้าตั้งสวนตลาดฯ มาเลยค่ะ ผลตอบแทนมากกว่าช่วงปู่ SET พีค ๆ แถว 1,600 จุดอีกนะเธอร์

อิป้าเลยหูผึ่งค่ะ ดอดไปค้นข้อมูลมาพบว่าปี 63 นี้ 17 ม.ค.63 เป็นวันที่ SET ปิดสูงสุด คือ 1,600.48 จุด ขณะนี้ล่าสุด (23 เม.ย.63) ปิดที่ 1,272.53 จุด (+10.72จุด) ห่างกัน 327.95 จุด

และถ้าเทียบใน 2 ช่วงเวลาแล้วใน SET 100 ส่วนใหญ่จะลบบางตัวเกือบ 50% เลยค่ะ แต่ทว่า มี 7 ตัวแกร่ง บวกสวนซะงั้นค่ะ (บางตัวเท่ากัน)

1.STA (บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี) วันที่ 17 ม.ค.2563 (SET 1,600.48 จุด) ปิดที่ 10.50 บาท ส่วนวันที่ 23 เม.ย.2563 (SET 1,272.53 จุด) ปิดที่ 12.80 บาท เพิ่มขึ้น 2.30 บาท หรือ 21.90%

ขุ่นพี่ STA ทำมาหารับประทานกับทำและขายยางธรรมชาติแบบครบวงจรในหลากหลายประเทศค่ะ ทั้งยางธรรมชาติ ยางแท่ง ยางแผ่นรมควัน และน้ำยางข้น แต่ที่POPสุดคือ ถุงมือยาง ค่ะ

และแน่นอนช่วงโควิดขวิดเยี่ยงนี้ ถุงมือยางโลกกำลังขาดสต๊อกบวกกับ พี่มาเลย์ LOCK DOWN ยาว ยอดออร์เดอร์เลยกระฉูดซิคะ

นอกจากนี้ มีการคาดว่า แนวโน้มกำไรสุทธิปี 2563 จะฟื้นตัวโดดเด่นอยู่ที่ 813 ล้านบาท พลิกจากที่ขาดทุนสุทธิ 149 ล้านบาทในปี 2562

2.TQM (บมจ.ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น) วันที่ 17 ม.ค.2563 (SET 1,600.48 จุด) ปิดที่ 73.00 บาท ส่วนวันที่ 23 เม.ย.2563 (SET 1,272.53 จุด) ปิดที่ 77.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00บาท หรือ 5.47%

ตัวนี้แรงบวกมาจากการคาดผลงานไตรมาส 1 /63 ที่น่าจะแจ่มแจ๋วค่ะ จากยอดขายประกันโควิด-19 พุ่งกระฉูด 2 เดือนแรกปีนี้ทะลุ 1 ล้านรายไปแล้ว (80% ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์)

ล่าสุด TQM ยังเล่นกับความกลัวโรคภัยต่อเนื่อง ออกโปรดักส์พิเศษ ประกันไข้หวัดใหญ่ และโรคที่เกิดจากยุง เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ โรคไข้เลือดออกและโรคไข้หวัดใหญ่

TQM ยังโดนใจกองทุนใน-ต่างประเทศ ทั้งบริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด สัดส่วน 5.69% , วิริยะประกันภัย สัดส่วน 4% , อาคเนย์ประกันชีวิต สัดส่วน 3.25% , กรุงเทพประกันภัย สัดส่วน 3.25%

ถ้าเทียบกับช่วงต่ำสุดปิด 42.75 บาท (13 มี.ค.2563) และล่าสุด 23 เม.ย.2563 ปิดที่ 77.00 บาท รีบาวด์ขึ้นมา 34.25 บาท หรือ 80.11%

หนังสืออิป้าหามาเล่า
3.PRM (บมจ.พริมา มารีน) วันที่ 17ม.ค.2563 (SET 1,600.48 จุด) ปิดที่ 6.45บาท ส่วนวันที่ 23 เม.ย.2563 (SET 1,272.53 จุด) ปิดที่ 6.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 3.87%

กินนิ่มจากน้ำมันขาลง ยิ่งล้นกำไรยิ่งพุ่ง จุดต่ำสุดของรอบนี้(19 มี.ค.2563) ที่ 2.98 บาท พุ่งขึ้นมาต่อเนื่องกว่า 2 เดือน และถ้าเทียบกับปัจจุบัน ปิด 6.70 บาท เพิ่มขึ้นมา 3.72 บาท หรือ 124.83%

คาดกำไรหลักไตรมาส 1/63 ที่ 313 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 11% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และ 34% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดว่าในไตรมาส 2 กำไรหลักจะโตต่อจากไตรมาส1 ที่ 346 ล้านเหรียญ

PRM เป็นผู้ให้บริการจัดเก็บน้ำมันดิบ เรือเก็บน้ำมันดิบมีอัตราการใช้เรือ 8 ลำเต็มตลอดทั้งไตรมาส นอกจากนี้จำนวน 3 ลำ เพิ่งปรับขึ้นค่าเช่าอีก 20% ในเดือน มี.ค.2563

4.THAI (บมจ. การบินไทย) วันที่ 17ม.ค.2563 (SET 1,600.48 จุด) ปิดที่ 6.75 บาท วนวันที่ 23 เม.ย.2563 (SET 1,272.53 จุด) ปิดที่ 7.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 3.70%

ปั่นจนลิ่งไป 5 วันติด ยังขยับได้เรื่อย ๆ ตามลมใต้ปีก แต่คหสต.ไม่น่าเข้าไปยุ่งเท่าไรค่ะ

5.GUNKUL (บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง) วันที่ 17 ม.ค.2563 (SET 1,600.48 จุด) ปิดที่ 2.76 บาท ส่วนวันที่ 23 เม.ย.2563 (SET 1,272.53 จุด) ปิดที่ 2.78 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท หรือ 0.72%

ปันผล 0.136 บาทต่อหุ้น เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 28 เมษายนนี้ กำหนดรับทรัพย์วันที่ 15 พฤษภาคมนี้

GUNKUL เขาเก่งเรื่องธุรกิจพลังงานทดแทนทั้งโซลาร์ฟาร์ม-ลม มั่นใจรายได้รวมปี 63 โตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 25% รายได้แตะ 9 พันล้านบาท และที่สำคัญได้รับผลกระทบจากโควิดน้อยมากค่ะ

-ปัจจุบันมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) รวม 650 เมกะวัตต์ จำหน่ายไฟฟ้าได้แล้ว 437 เมกะวัตต์ และจ่อร่วมประมูลโครงการต่างๆ ของกฟภ. กฟผ. กฟน .รวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท

6.GULF (บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี) วันที่ 17 ม.ค.2563 (SET 1,600.48 จุด) ปิดที่ 195.00 บาท (หรือพาร์ใหม่คือ 39.00 บาท) ส่วนวันที่ 23 เม.ย.2563 (SET 1,272.53 จุด) ปิดที่ 39.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.64%

หักตำราพอควรเลยค่ะ เพราะตามสถิติหุ้นแตกพาร์ จะทรง ๆ ทรุด ๆ ในวีคแรก แต่เสี่ยกลาง แรงดีสุด ๆ GULF วิ่งต่อเนื่องเลยค่ะ

GULF เป็น 1ใน หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาครัฐ ขณะเดียวกันยังมีต้นทุนที่ลดลงจากก๊าซธรรมชาติ

คาดไตรมาส 1/2563 ของ GULF อยู่ที่ 4,680 ล้านบาท เติบโต 33% จากปีก่อน จากการรับรู้รายได้เต็มปีของโรงไฟฟ้า SPP 4 โรงและโครงการโซลาร์เวียดนาม 2 โรง

7.BJC (บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์) วันที่ 17 ม.ค.2563 (SET 1,600.48 จุด) ปิดที่ 42.25บาท ส่วนวันที่ 23 เม.ย.2563 (SET 1,272.53 จุด) ปิดที่ 42.25 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

BJC ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน มีฐานการผลิตทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน

เป็น 1 ในสองหุ้นค้าปลีกที่ได้ประโยชน์จากมาตรการช่วยเหลือประชาชนของภาครัฐ และการเตรียมผ่อนคลายให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ

ถ้าเทียบกับช่วงต่ำสุดปิด 30.25 บาท (12 มี.ค.2563) และล่าสุด 23 เม.ย.2563 ปิดที่ 42.25 บาท รีบาวด์ขึ้นมา 12.00 บาท หรือ 39.66%

8.TOA (บมจ.ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย)) วันที่ 17ม.ค.2563 (SET 1,600.48 จุด) ปิดที่ 37.25 บาท ส่วนวันที่ 23 เม.ย.2563 (SET 1,272.53 จุด) ปิดที่ 37.25 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ตัวนี้ ได้รับอานิสงส์รับน้ำมันขาลง ซึ่งน้ำมันลดลงจะกดดันให้เม็ดพลาสติกถูกลง ต้นทุนก็ถูกลง กำไรเพิ่มขึ้นคะ

และถ้าเทียบกับ ช่วงต่ำสุด ปิด 30.00 บาท(23 มี.ค.2563) ล่าสุด 23 เม.ย.2563 ปิดที่ 37.25 บาท รีบาวด์ขึ้นมา 7.25 บาท หรือ 24.16%

อย่างไรก็ตาม หุ้นเหล่านี้บางตัวพื้นฐานแน่น เหมาะวางยาว แต่บางตัว เล่นเก็งกำไรได้ ศึกษาเพิ่มเติมกันนะคะ วันนี้ไปล่ะค่ะ บ๊ายย

Facebook Comments