SETWB

มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า เริ่มไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 62 สำหรับดัชนีน้องใหม่ของ SET นั่นคือ ดัชนี SET Well-being (SETWB) คัดตัวเจ๋งๆ จาก 7 หมวดธุรกิจที่มีศักยภาพในการแข่งขันและเป็นธุรกิจที่ผู้ลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ ซึ่งวันนี้จะพาไปดูในหมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มกันนะคะ

1.MINT (บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล) มาร์เกตแคป 174,364.01ล้านบาท ตัวนี้ขวัญใจแม่ยกเหมือนกันค่ะ แม้กำไรไตรมาสแรกของปีอาจจะไม่เด้งดึ๊งนัก แต่คาดไตรมาส 2/62 จะกลับมาวิ่งได้ฉลุยคะ ขณะที่ราคาเปรียบเทียบ 28 ธ.ค.61 ปิดที่ 34.00 บาท และล่าสุด ปิดที่ 38.00 บาท เท่ากับราคาขยับขึ้นมา 4 บาทหรือขึ้นมา 11% ส่วนวันที่เริ่มใช้ดัชนี 1 เม.ย. 62 ราคา 39.25 บาท ล่าสุดปิดที่ 38.00 บาทเท่ากับราคาลดลง 1.25บาท หรือลด 3.2%

2.CBG (บมจ.คาราบาวกรุ๊ป) มาร์เกตแคป 52,250.00 ล้านบาท ย้อนความจำนิ๊สนุงค่ะ เดือน มี.ค.62 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุ CBG เป็นหุ้นที่มีผลตอบแทนการลงทุนสูงสุดในบรรดาหุ้นเครื่องดื่มทั่วโลก!! และเดือน เม.ย. 62 หลายโบรกยังแนะนำ CBG ติดกระเป๋า เก็งกำไรดักงบ Q1/62 กันค่ะ

ขณะที่ราคาเปรียบเทียบ 28 ธ.ค.61 ปิดที่ 30.75 บาท และล่าสุด ปิดที่ 52.25 บาท เคยวิ่งไปถึง 60 บาทมาแล้ว ณ12 มี.ค.62 เท่ากับราคาขยับขึ้นมา 21.5 บาทหรือขึ้นมา 69.91% ส่วนวันที่เริ่มใช้ดัชนี 1 เม.ย. 62 ราคา 54.25 บาท ล่าสุดปิดที่ 52.25 บาท เท่ากับราคาลดลง 2 บาท หรือลด 3.8%

3.CPF (บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร) มาร์เกตแคป 221,739.49 ล้านบาท ตัวนี้ล่าสุดเพิ่งทุ่ม 55 ล้านบาท ซื้อหุ้นธุรกิจร้านอาหารเกาหลีล็อตแรก 41% ขณะดียวดันติด 1 ในหุ้นที่โบรกเชียร์เล่นเก็งกำไรก่อนสงกรานต์ค่ะ

ขณะที่ราคาเปรียบเทียบ 28 ธ.ค.61 ปิดที่ 24.60 บาท และล่าสุดปิดที่ 26.00 บาท เท่ากับราคาขยับขึ้นมา 1.40 บาทหรือขึ้นมา 5.6% ส่วนวันที่เริ่มใช้ดัชนี 1 เม.ย. 62 ราคา 25.50 บาท ล่าสุดปิดที่ 26.00 บาท เท่ากับราคาบวกขึ้น 0.50 บาท หรือบวก 1.9%

4.KSL (บมจ.น้ำตาลขอนแก่น) มาร์เกตแคป 13,230.70 ล้านบาท ตัวนี้โดนมรสุมจากราคาน้ำตาลในตลาดโลกลดลง ทำยอดขายหด ฉุดกำไรไตรมาส 1/62

ขณะที่ราคาเปรียบเทียบ 28 ธ.ค.61 ปิดที่ 2.98 บาท และล่าสุดปิดที่ 3.00 บาท เท่ากับราคาขยับขึ้นมา 0.02 บาทหรือขึ้น 0.6%
วันที่เริ่มใช้ดัชนี 1 เม.ย. 62 ราคา 3.04 บาท ล่าสุดปิดที่ 3.00 บาท เท่ากับราคาลดลง 0.04 หรือลด 1.3%

5.M (บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป) มาร์เกตแคป 66,303.22 ล้านบาท ตัวนี้มีรายได้จากธุรกิจอาหารในไทยสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่ม และถ้าคนใช่จ่ายคล่องตัวนี้รับเนื้อๆคะ

ขณะที่ราคาเปรียบเทียบ 28 ธ.ค.61 ปิดที่ 74.75 บาท และล่าสุดปิดที่ 72.00 บาท เท่ากับราคาลดลงมา 2.75 บาท หรือลงมา 3.8%
วันที่เริ่มใช้ดัชนี 1 เม.ย. 62 ราคา 72.25 บาท ล่าสุด ปิดที่ 72.00 บาทเท่ากับราคาลดลง 0.25หรือลด 0.3%

6.TKN (บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง) มาร์เกตแคป 12,903.00ล้านบาท ตัวนี้กำไร Q4/61 ไม่ค่อยดีนัก แต่ Q1/62 น่าจะขยับฟื้นได้ต่อเนื่อง Q2/62

ขณะที่ราคาเปรียบเทียบ 28 ธ.ค.61 ปิดที่ 8.05 บาท และล่าสุดปิดที่ 9.35 บาท เท่ากับราคาขยับขึ้นมา 1.3 บาท หรือขึ้นมา 16.14%
วันที่เริ่มใช้ดัชนี 1 เม.ย. 62 ราคา 9.30 บาท ล่าสุดปิดที่ 9.35 บาท เท่ากับราคาปรับขึ้น 0.35 หรือ 3.76%

7.TU (บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป) มาร์เกตแคป 88,278.59 ล้านบาท ตัวนี้จ่อส่งลูกในไส้ “ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์” เข้า SET คะ ส่วนสถานการณ์ แม้ต้นทุนทูน่าลด แต่เจอพิษเงินบาท คาดกำไร Q1/62 ไม่แจ่มนัก

ขณะที่ราคาเปรียบเทียบ 28 ธ.ค.61 ปิดที่ 16.20 บาท และล่าสุด ปิดที่ 18.50 บาท เท่ากับราคาขยับขึ้นมา 2.30 บาท หรือขึ้นมา 14.19%
วันที่เริ่มใช้ดัชนี 1 เม.ย. 62 ราคา 19.20 บาท ล่าสุดปิดที่ 18.50 บาทเท่ากับราคาลดลง 0.7 บาท หรือ 3.7 %

8.TVO (บมจ.น้ำมันพืชไทย) มาร์เกตแคป 21,630.34 ล้านบาท ตัวนี้กำไรปี 61โต 40% ส่งผล Q1/62 น่าฉลุยค่ะ

ขณะที่ราคาเปรียบเทียบ 28 ธ.ค.61 ปิดที่ 26.50 บาท และล่าสุดปิดที่ 26.75 บาท เท่ากับราคาขยับขึ้นมา 0.25 บาทหรือขึ้นมา0.9%
วันที่เริ่มใช้ดัชนี 1 เม.ย. 62 ราคา 26.75 บาท ล่าสุดปิดที่ 26.75 บาท เท่ากับราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลง

กล่าวโดยสรุป ราคาตั้งแต่ปีใหม่ วิ่งแรงสุดคือ CBG ส่วนราคาตั้งแต่ใช้ดัชนี SETWB วิ่งแรงสุด คือ TKN และ TU ค่ะ ส่วนวิ่งต่อเนื่องทั้งตั้งแต่ต้นปีและเริ่มใช้ดัชนีคือ CPF และ TKN ค่ะ

ทั้งนี้ ดัชนี SETWB คัดจากหลักทรัพย์ใน 7 หมวดธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วย หมวดธุรกิจการเกษตร ,หมวดธุรกิจพาณิชย์, หมวดธุรกิจแฟชั่น , หมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ,หมวดธุรกิจการแพทย์, หมวดธุรกิจการท่องเที่ยวและสันทนาการ และหมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ โดยพิจารณาองค์ประกอบต่อไปนี้

-มีกำไรอย่างน้อย 2 จาก 3 ปีล่าสุด เมื่อพิจารณาจากงบการเงินรวม

-มีสัดส่วนผู้ถือหลักทรัพย์รายย่อย (Free-float) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของทุนชำระแล้ว

-จำนวนหุ้นซื้อขายไม่น้อยกว่าร้อยละ 0.5 ของจำนวนหุ้นจดทะเบียนของบริษัท เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 9 ใน 12 เดือน

-มูลค่าตามราคาตลาดสูงสุด 30 อันดับแรก

เอาละคะ เม้ากันไปแล้ว 8ตัว เดี่ยววันหน้าจะเม้ากลุ่มอื่นๆในดัชนี SETWB กันต่อนะคะ…วันนี้ไปละคะ บ๊ายย

Facebook Comments