5 กลุ่มหุ้น ยิ้มร่า 5 รายจ่ายหลักคนไทย

August 5, 2018

305

มาแล้วคะ อิป้าหามาเล่า วันก่อนไปอ่านเจอข้อมูล “สำนักงานสถิติแห่งชาติ “เค้าทำรีพอร์ต” สำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน 2560″ มีมุมที่น่าสนใจ คือเขาสำรวจครัวเรือนทั่วประเทศ ภาพรวมมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย เดือนละ 21,437 บาท โดยมี 5 รายจ่ายหลัก ที่เชื่อมโยงกับธุรกิจ และ หุ้น ในกลุ่มนั้นๆ เด่วดั๊นจะเม้าท์ให้ฟังนะคะ

อันดับ 1 .ค่าใช้จ่ายมากที่สุด คือ ค่าอาหาร-เครื่องดื่ม ….หุ้นในหมวดนี้เบอร์ต้น ๆที่ถูกกล่าวถึงคือ MINT( ไมเนอร์ )ธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม สินค้าแฟชั่น โดยตั้งแต่ 01 มิ.ย.61 ราคา 31.75 บาท/หุ้น ราคาปรับพุ่งไปถึง 38.50(ต้นเดือนส.ค.61) และถ้าเอาเฉพาะก.ค.เดือนเดียวราคาปรับขึ้นมา11%กว่าๆแล้วคะ ในขณะที่ราคาสูงสุด/ต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ คือ 45.25/31.25 คะ

ระยะนี้ MINT กลับมาฮอต จาก คาดกำไรไตรมาส 2/61จะสูงขึ้น รวมไปถึงกรณี ทุ่มเงินกว่า 5000 พันล้านบาท ซื้อหุ้น “NH Hotel” Group ซึงต้องดูกันระยะยาวว่าจะเวิรค์หรือไม่?

ส่วนตัวอื่นๆในหมวดนี้ เช่น PB (เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ )ผลิตและจำหน่ายขนมปัง และเบเกอรี่ ภายใต้แบรนด์ ฟาร์มเฮ้าส์ 2 เดือนที่ผ่านมา(มิ.ย-ก.ค.) ราคาป้วนเปี้ยนแถว 61.25-61.75 ขณะที่ SNP ( เอส แอนด์ พี ซินดิเคท ) TIPCO ( ทิปโก้ฟูดส์ ) และ TFMAMA (ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ ) ยังถูกนักวิคราะห์ ให้ราคาอยู่พอสมควร คะ

อันดับที่ 2 ค่าที่อยู่อาศัย-เครื่องใช้ภายในบ้าน…ในมุมที่อยู่อาศัยหุ้นกลุ่มอสังหาฯ ยังเด่น ส่วนกลุ่มเครื่องแต่งบ้าน เบอร์แรงสุดๆตอนนี้ต้อง HMPRO (โฮม โปรดักส์ ) มีแบ็คหนาปึกอย่าง LH (แลนด์แอนด์เฮ้าส์) โดยโฮมโปร เพิ่งโชว์กำไรครึ่งปีโต 17.62 % กำไรสุทธิ 2,561.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 383.61 ล้านบาท กวาดรายได้รวม 32,365.05 ล้านบาท ขณะที่ 2เดือนที่ผ่านมา(มิ.ย-ก.ค.) ราคาหุ้นจาก 14.60 ขึ้นมา14.70 คะ

ด้านคู่แข่งตัวจี๊ด อย่าง GLOBAL (สยามโกลบอลเฮ้าส์ ) ที่มีเอสซีจี ดิสทริบิวชั่น ถือหุ้นใหญ่ ล่าสุดได้เปิดเกมรุก จับมือ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส เปิดจุดให้บริการส่งพัสดุในประเทศที่ร้านโกลบอลเฮ้าส์ทุกสาขา รับการขยายตัวของธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ ทั้งนี้ราคา GLOBAL 2เดือนที่ผ่านมา(มิ.ย-ก.ค.) ราคาหุ้นจาก 16.60 ขึ้นมา17.60 คะ

อันดับที่3 ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับยานพาหนะและการเดินทาง-ท่องเที่ยว…ในข้อนี้หลายธุรกิจได้ประโยชน์ ทั้งค่าเดินทาง ที่เกี่ยวโยงไปถึงค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา ค่าซ่อม ยานพาหนะ หรือจะเป็นค่าใช้จ่ายในระบบขนส่งสาธารณะ รถไฟใต้ดิน-บนดิน -เรือ โดย BTS (บีทีเอส) และ BEM( ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ) ยังแกร่งคะ

ส่วนท่องเที่ยว หุ้นหลายตัวได้ประโยชน์ ทั้งสายการบิน สนามบิน โรงแรม ที่พัก ทัวร์ แต่ถ้าจะถือยาวๆเน้นผูกขาด อย่าง AOT (ท่าอากาศยานไทย )ยังมีอนาคตคะ

อันดับที่ 4 ค่าใช้จ่ายของใช้ส่วนบุคคล/เครื่องนุ่งห่ม/รองเท้า…อันนี้น่าจะหมายรวมคือเครื่องอุปโภคต่างๆ ตัวดังเพียบ ROBINS (ห้างโรบินสัน) CPN (ห้างเซ็นทรัล), SF (ห้างเมกะบางนา), MBK (ห้างมาบุญครอง), PLAT (ห้างแพลทินัม) BIGC (บิ๊กซีมาร์เก๊ต),BIGC (บิ๊กซี), MAKRO (แมคโคร) CPALL (เซเว่นอีเลเฟ่น) และอีกหลายตัวคะ

ซึ่งตามปกติหมวดสินค้าอุปโภค-บริโภค จะโกยแหลกช่วงปลายปี แต่ทว่าปี61นี่้กำไรอาจหดลงไปนิ๊ด เหตุจากรัฐบาลประกาศแล้ว ปีนี้ไม่มี “ช๊อปช่วยชาติ”นั้นเองคะ

อันดับที่5 ค่าใช้จ่าย ในการสื่อสาร …หุ้นกลุ่มบริษัทสื่อสาร-ค้าปลีกมือถือ ซึ่งกลุ่มสื่อสารฯ TRUE,ADVANC และ DTAC ยังกินได้อีกนาน แต่กำไรจะถูกหั่นไปให้กับพวกแซต ต่างๆ(คุยโทรศัพท์น้อยลง-แซตมากขึ้น)ส่วนกลุ่มผู้ประกอบการในค้าปลีกมือถือ-อุปกรณ์ฮเทค ต่างๆ เช่น COM7 (คอมเซเว่น),JMART (เจ มาร์ท) ,SYNEX (ซินเน็ค ประเทศไทย),ITไอที ซิตี้ ),SPVI (เอส พี วี ไอ) มีแนวโน้วเติบโตได้คะ

นั้นเป็น 5อันดับ รายจ่ายที่คนไทยควักเงินจากกระเป๋าไปเทให้กับผู้ประกอบการธุรกิจคะ…ดังนั้นในพอร์ต น่าจะมีหุ้นกลุ่มเหล่านี้ไว้บ้างนะคะ…ไปละบ๊าย
———————————-

ติดตามที่ :