หนังสืออิป้าหามาเล่ามาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า วันก่อนได้แอบสำรวจดูว่า แต่ละเซกเตอร์ในหมวดหมู่นั้น มีหุ้นตัวไหนบ้างที่เป็นผู้นำ แกร่งสูงสุดของกลุ่ม วันนี้เลยถือโอกาสคัด 5 เซกเตอร์จอมพลัง ที่ 3 อันดับแรก โดยมาร์เก็ตแคปมานำเสนอกันค่ะ จาก 28 เซกเตอร์ที่มีอิทธิพลต่อการขึ้นลงในตลาดหุ้นไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 19 มี.ค.64) มีหุ้นตัวไหนน่าสนใจบ้าง เริ่มกันที่เซกเตอร์แรก

1.กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค (ENERG) มาเก็ตแคปรวมทั้งสิ้น 4,055,091 ล้านบาท โดย 3 อันดับแรกที่ใหญ่สุดในกลุ่มคือ

อันดับ 1 PTT (บมจ.ปตท.)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 42.50 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 19 มี.ค.64 ปิดที่ 40.50 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือลบ -4.70% เหลืออัพไซด์ 21.60% (ราคาเป้าหมาย 49.25 บาท) ขณะที่ P/E 30.63 เท่า , P/BV 1.31 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 1,213,927.34 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 19 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 1,156,801.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57,125.99 ล้านบาท

อันดับ 2 PTTEP (บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 98.25 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 19 มี.ค.64 ปิดที่ 115.00 บาท เพิ่มขึ้น 16.75 บาท หรือเพิ่มขึ้น +17.04% เหลืออัพไซด์ 5.65% (ราคาเป้าหมาย 121.50 บาท) ขณะที่ P/E 20.14 เท่า , P/BV 1.29 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 390,051.07 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 19 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 456,548.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66,497.25 ล้านบาท

อันดับ 3 GULF (บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 34.25 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 19 มี.ค.64 ปิดที่ 33.50 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือลดลง -2.18% เหลืออัพไซด์ 20.53% (ราคาเป้าหมาย 40.38 บาท) ขณะที่ P/E 91.79 เท่า , P/BV 6.14 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 401,860.39 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 19 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 393,060.52 ล้านบาท ลดลง 8,799.87 ล้านบาท

2.กลุ่มธนาคาร (BANK) มาเก็ตแคปรวมทั้งสิ้น 1,749,003 ล้านบาท โดย 3 อันดับแรกที่ใหญ่สุดในกลุ่มคือ

อันดับ 1 SCB (บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 87.50 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 19 มี.ค.64 ปิดที่ 111.00 บาท เพิ่มขึ้น 23.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น +26.85% ดาวอัพไซด์ 5.40% (ราคาเป้าหมาย 105.00 บาท) ขณะที่ P/E 13.86 เท่า , P/BV 0.92 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 297,114.18 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 19 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 376,910.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79,796.49 ล้านบาท

อันดับ 2 KBANK (บมจ.ธนาคารกสิกรไทย)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 113.00 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 19 มี.ค.64 ปิดที่ 147.50 บาท เพิ่มขึ้น 34.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น +30.53% เหลืออัพไซด์ 8.81% (ราคาเป้าหมาย 160.50 บาท) ขณะที่ P/E 11.85 เท่า , P/BV 0.79 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 267,734.02 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 19 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 349,475.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81,741.80 ล้านบาท

อันดับ 3 BAY (บมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 31.25 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 19 มี.ค.64 ปิดที่ 37.75 บาท เพิ่มขึ้น 6.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น +20.80% ดาวน์ไซด์ไปแล้วที่ 10.94% (ราคาเป้าหมาย 33.62 บาท) ขณะที่ P/E 12.05 เท่า , P/BV 0.97 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 229,867.56 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 19 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 277,680.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47,812.45 ล้านบาท

3.กลุ่มพาณิชย์ (COMM) มาเก็ตแคปรวมทั้งสิ้น 1,723,604 ล้านบาท โดย 3 อันดับแรกที่ใหญ่สุดในกลุ่มคือ

อันดับ 1 CPALL (บมจ.ซีพี ออลล์)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 58.25 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 19 มี.ค.64 ปิดที่ 66.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.75 บาท หรือเพิ่มขึ้น +13.30% เหลืออัพไซด์ 11.36% (ราคาเป้าหมาย 73.50 บาท) ขณะที่ P/E 36.82 เท่า , P/BV 6.13 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 523,265.65 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 19 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 592,884.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69,619.04 ล้านบาท

อันดับ 2 CRC (บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 30.75 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 19 มี.ค.64 ปิดที่ 36.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.25 บาท หรือเพิ่มขึ้น +17.07% เหลืออัพไซด์ 4.50% (ราคาเป้าหมาย 37.62 บาท) ขณะที่ P/E 37.31 เท่า , P/BV 4.07 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 185,453.25 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 19 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 217,116.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31,662.75 ล้านบาท

อันดับ 3 HMPRO (บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 13.70 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 19 มี.ค.64 ปิดที่ 14.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือเพิ่มขึ้น +5.10% เหลืออัพไซด์ 11.11% (ราคาเป้าหมาย 16.00 บาท) ขณะที่ P/E 36.74 เท่า , P/BV 8.78 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 180,171.41 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 19 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 189,377.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,205.84 ล้านบาท

4.กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ (TRANS) มาเก็ตแคปรวมทั้งสิ้น 1,543,074 ล้านบาท โดย 3 อันดับแรกที่ใหญ่สุดในกลุ่มคือ

อันดับ 1 AOT (บมจ.ท่าอากาศยานไทย)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 62.25 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 19 มี.ค.64 ปิดที่ 67.25 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท หรือเพิ่มขึ้น +8.03% ดาวน์ไซด์ไปแล้วที่ 3.34% (ราคาเป้าหมาย 65.00 บาท) ขณะที่ P/E N/A , P/BV 7.51 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 889,284.82 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 19 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 960,713.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71,428.50 ล้านบาท

อันดับ 2 BEM (บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 8.30 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 19 มี.ค.64 ปิดที่ 8.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือเพิ่มขึ้น +2.40% เหลืออัพไซด์ 21.1% (ราคาเป้าหมาย 10.30 บาท) ขณะที่ P/E 63.34 เท่า , P/BV 3.42 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 126,865.50 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 19 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 129,922.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,057 ล้านบาท

อันดับ 3 BTS (บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 9.30 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 19 มี.ค.64 ปิดที่ 9.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือเพิ่มขึ้น +1.07% เหลืออัพไซด์ 34.57% (ราคาเป้าหมาย 12.65 บาท) ขณะที่ P/E 19.26 เท่า , P/BV 2.13 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 122,397.20 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 19 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 123,714.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,317.43 ล้านบาท

5.กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) มาเก็ตแคปรวมทั้งสิ้น 1,247,921 ล้านบาท โดย 3 อันดับแรกที่ใหญ่สุดในกลุ่มคือ

อันดับ 1 ADVANC (บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 176.00 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 19 มี.ค.64 ปิดที่ 172.50 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือลดลง -1.98% เหลืออัพไซด์ 27.53% (ราคาเป้าหมาย 220.00 บาท) ขณะที่ P/E 18.70 เท่า , P/BV 6.79 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 523,345.56 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 19 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 512,938.12 ล้านบาท ลดลง 10,407.44 ล้านบาท

อันดับ 2 INTUCH (บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 56.25 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 19 มี.ค.64 ปิดที่ 56.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง เหลืออัพไซด์ 18.22% (ราคาเป้าหมาย 66.50 บาท) ขณะที่ P/E 16.33 เท่า , P/BV 4.74 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 180,366.16 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 19 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 180,366.16 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง

อันดับ 3 DIF (กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล)

ราคาสิ้นปี 63 ปิดที่ 12.90 บาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 19 มี.ค.64 ปิดที่ 12.10 บาท ลดลง 0.80 บาท หรือลดลง -6.20% เหลืออัพไซด์ 32.72% (ราคาเป้าหมาย 16.06 บาท) ขณะที่ P/E – เท่า , P/BV 0.74 เท่า

สิ้นปี 63 มาร์เกตแคป 137,148.33 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 19 มี.ค. 64 มาร์เกตแคป 128,643.01 ล้านบาท ลดลง 8,505.32 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี จะเห็นได้ว่า หุ้นใน 3 อันดับแต่ละเซกเตอร์มีบางตัวที่ราคานั้นได้เกินอัพไซด์ไปแล้ว และมีบางตัวที่ยังพอมีอัพไซด์อยู่บ้างนะคะ วันนี้ไปล่ะค่ะ…บ๊ายยย

Facebook Comments