set 50

มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า เมื่อวานจัด “11 หุ้นมหากาฬ สุดแกร่งแม้ SETดิ่ง -81จุด!” ไปแล้ว วันนี้ดั๊นเลย ต้องมากางแผนที่ปักหมุด 10 หุ้น ร้อน แต่พาเม่าไปหนาวที่ดอย ติดลบกันอุตลุด เท้าก่ายหน้ากันเป็นทิวแถว โดยดั้นคัดมาจาก SET 50 ใช้ราคาเปรียบเทียบต้นเดือน – สิ้นเดือน ม.ค.63 พบ 39 ตัวติดลบ แต่เลือกมา 10 อันดับที่ลบมากสุดนะคะ

1.TOP (บมจ.ไทยออยล์) มาร์เกตแคป 106,081 ล้านบาท ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 69.75 บาท สิ้นเดือนม.ค.63 ปิดที่ 52.00 บาท เท่ากับ -17.75 บาท หรือ -25.44%

หนึ่งในหุ้นกลุ่มโรงกลั่นที่เป็นเหยื่อราคาน้ำมันลดลงแรงในม.ค. 63 ส่งผลคาดเจ๊งจากสต็อกน้ำมันQ 1/63 แต่บางสำนักยังคาดว่า ราคาหุ้นจะทยอยฟื้นตัว จากน้ำมันดีเซลและเบนซินที่จะดีขึ้นในเดือนก.พ. – มี.ค.นี้

2.IRPC (บมจ.ไออาร์พีซี) มาร์เกตแคป 58,851 ล้านบาท ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 3.68 บาท สิ้นเดือนม.ค.63 ปิดที่ 2.88 บาท เท่ากับ -0.80 บาท หรือ -21.73%

ร่วงตามผู้นำอย่าง TOP (บมจ.ไทยออยล์) ด้วย ค่าการกลั่นของสิงคโปร์ในช่วงเดือนม.ค.63 ติดลบอยู่ที่ระดับ -0.08 เหรียญ/บาร์เรล

3.SCB (บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์) มาร์เกตแคป 332,768 ล้านบาท ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 122.00 บาท สิ้นเดือนม.ค.63 ปิดที่ 98.00 บาท เท่ากับ -24.00 บาท หรือ-19.67%

ผลงานปี 62 แม้กำไรสุทธิทั้งปีให้เป็นบวกเล็กน้อย 0.9% ทำได้ 4.06 หมื่นล้านบาท แต่ Q4/62 กำไรสุทธิลดลงถึง 22% และ NPL ที่พุ่งขึ้นจากราว 3% มาเป็น 3.41% ทำให้เป็นอย่างที่่เห็นค่ะ

4.IVL (บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส) มาร์เกตแคป 158,611 ล้านบาท ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 35.00 บาท สิ้นเดือนม.ค.63 ปิดที่ 28.25 บาท เท่ากับ -6.75 บาท หรือ -19.28%

เดือนม .ค. ต้องเจอความตึงเครียดสหรัฐฯ และอิหร่าน ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น กดดันทำให้ต้นทุนสูงขึ้น และคาด Q4/62 ไม่แจ่มเท่าไรนัก

5.TRUE (บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น) มาร์เกตแคป 125,464 ล้านบาท ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 4.60 บาท สิ้นเดือนม.ค.63 ปิดที่ 3.76 บาท เท่ากับ -0.84 บาท หรือ -18.26%

มุมมองของบล.กสิกร ในปี 63 ยังคงให้เพิ่มน้ำหนักลงทุนในหุ้นสื่อสารไทยทุกตัว ยกเว้น THCOM โดยในเดือน ก.พ. 63 หลังการประมูล 5G เสร็จสิ้นน่าจะขยับ

6.DTAC (บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น) มาร์เกตแคป 105,368 ล้านบาท ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 53.25บาท สิ้นเดือนม.ค.63 ปิดที่ 44.50 บาท เท่ากับ -8.75 บาท หรือ -16.43%

ดิ่งรับหญิงแกร่ง “อเล็กซานดรา ไรช์” ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มีผล 1 ก.พ.63 ที่ผ่านมานี้

7.BPP (บมจ.บ้านปู เพาเวอร์) มาร์เกตแคป 45,155 ล้านบาท ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 17.70 บาท สิ้นเดือนม.ค.63 ปิดที่ 14.80 บาท เท่ากับ -2.90 บาท หรือ -16.38%

ตัวนี้ถูกปูนหมายหัว คาดว่าอาจหลุดจาก SET 50 ในอนาคต

8.TMB (บมจ.ธนาคารทหารไทย) มาร์เกตแคป 135,867 ล้านบาท ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 1.68 บาท สิ้นเดือนม.ค.63 ปิดที่ 1.41 บาท เท่ากับ -0.27 บาท หรือ -16.07%

ปี 62 กำไรรสุทธิ 7,222.48 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.1485 บาท ลดลง 37.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 11,601.24 ล้านบาท ทำให้ราคาหุ้นวูบไปกว่า 10% เช่นกัน

9.BANPU (บมจ. บ้านปู) มาร์เกตแคป 52,135 ล้านบาท ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 11.90 บาท สิ้นเดือนม.ค.63 ปิดที่ 10.10 บาท เท่ากับ -1.80 บาท หรือ -15.12 %

ตอนแรกแรงดีจากการเพิ่มพอร์ตลงทุนธุรกิจก๊าซธรรมชาติ แต่ภาพรวมธุรกิจถ่านหินที่ราคาถ่านหินที่ลดลง และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น

10.MINT (บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล) มาร์เกตแคป 142,034 ล้านบาท ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 36.00 บาท สิ้นเดือนม.ค.63 ปิดที่ 30.75 บาท เท่ากับ -5.25 บาท หรือ -14.58%

ทั้งนี้บล.กรุงศรี ชี้ช่องลงทุนหุ้น “MINT” อานิสงส์ตลาดคลายกังวลไวรัสโคโรน่าชั่วคราว แต่ความเห็นส่วนตัวอิป้านะคะ น่าจะรออีกสักระยะค่ะ เพราะไวรัสยังไม่ถึงจุดสูงสุดของการระบาด ทำให้ยังไม่นิ่งค่ะ

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายตัว ที่น่าสนใจ เช่น PTTGC (บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล) -14.03% , KTC (บมจ.บัตรกรุงไทย) -13.29% , GLOBAL (บมจ.สยามโกลบอลเฮ้าส์) -12.34% , BBL (บมจ.ธนาคารกรุงเทพ) 160.00 – 10.00% , BH (บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์) -9.18% , AWC (บมจ. แอสเสท เวิรด์ คอร์ป) -8.54% , EGCO (บมจ. ผลิตไฟฟ้า) -7.31%

ส่วนหุ้นพิมพ์นิยมของมวลมหาประชาชนอย่าง AOT (บมจ.ท่าอากาศยานไทย) นั้น -5.05% ซึ่งตัวนี้ถ้ามองระยะยาวยังน่าลงทุนค่ะ วันนี้ไปล่ะค่ะ บ๊ายย

Facebook Comments