หุ้นพิมพ์นิยม

 

หนังสืออิป้าหามาเล่ามาแล้วค่ะ ช่วงนี้การลงทุนยังคงมีความผันผวนจากหลาย ๆ ปัจจัยทั้งข่าวในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ตลาดหุ้นแกว่งไปมา แต่ก็ยังตจะมีหุ้นบางตัวที่มีพื้นฐานอันแข็งแกร่ง ไม่ค่อยได้รับผลกระทบอะไรสักเท่าไหร่ และส่วนใหญ่เป็นตัวที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ ๆ อย่างกระทรวงการคลังและประกันสังคมนั้นถือเป็นอันดับต้น ๆ ด้วย ซึ่งมีหุ้นตัวไหนบ้างที่ 2 องค์กรยักษ์ใหญ่ของเมืองไทยถือเหมือนกัน เรามาตรวจแถวพร้อมกันเลยค่ะ (ข้อมูล ณ วันที่ 14 พ.ค.64)

1.AOT (บมจ.ท่าอากาศยานไทย) ณ วันที่ 14 พ.ค.64 ปิดที่ 59.75 บาท ส่วน YTD -4.02%

กระทรวงการคลัง ถือหุ้นเป็นอันดับ 1 จำนวน 10,000,000,000 หุ้น หรือ 70.00% รวมมูลค่าอยู่ที่ 597,500,000,000 บาท (5.97 แสนล้านบาท)

ประกันสังคม ถือหุ้นเป็นอันดับ 4 จำนวน 269,902,300 หุ้น หรือ 1.89% รวมมูลค่าอยู่ที่ 16,126,662,425 บาท (1.61 หมื่นล้านบาท)

AOT หรือ ทอท.ประกอบธุรกิจท่าอากาศยานของประเทศไทย โดยธุรกิจหลักประกอบด้วย การจัดการ การดำเนินงาน และการพัฒนาท่าอากาศยาน โดยมีท่าอากาศยานในความรับผิดชอบ 6 แห่ง คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ซึ่งท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งนี้ ให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยมีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศ

2.BCP (บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น) ณ วันที่ 14 พ.ค.64 ปิดที่ 24.50 บาท ส่วน YTD 18.93%

กระทรวงการคลัง ถือหุ้นเป็นอันดับ 4 จำนวน 65,543,767 หุ้น หรือ 4.76% รวมมูลค่าอยู่ที่ 1,605,822,291.50 บาท (1.60 พันล้านบาท)

ประกันสังคม ถือหุ้นเป็นอันดับ 1 จำนวน 198,307,697 หุ้น หรือ 14.40% รวมมูลค่าอยู่ที่ 4,858,538,576.50 บาท (4.85 พันล้านบาท)

BCP ประกอบธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและการค้าน้ำมัน และธุรกิจการตลาด รวมถึงลงทุนในธุรกิจพลังงานไฟฟ้าสีเขียว ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและพัฒนาธุรกิจใหม่

3.OR (บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก) ณ วันที่ 14 พ.ค.64 ปิดที่ 28.50 บาท ส่วน YTD N/A%

กระทรวงการคลัง ถือหุ้นเป็นอันดับ 5 จำนวน 153,349,808 หุ้น หรือ 1.28% รวมมูลค่าอยู่ที่ 4,370,469,528 บาท (4.37 พันล้านบาท)

ประกันสังคม ถือหุ้นเป็นอันดับ 6 จำนวน 68,257,211 หุ้น หรือ 0.57% รวมมูลค่าอยู่ที่ 1,945,330,513.50 บาท (1.94 พันล้านบาท)

OR บริษัทประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่นๆ (Non-Oil) ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในตลาดค้าปลีกและตลาดพาณิชย์ ธุรกิจกาแฟ ร้านอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ ร้านสะดวกซื้อ และการบริหารจัดการพื้นที่

4.PTT (บมจ.ปตท.) ณ วันที่ 14 พ.ค.64 ปิดที่ 40.25 บาท ส่วน YTD -5.29%

กระทรวงการคลัง ถือหุ้นเป็นอันดับ 1 จำนวน 14,598,855,750 หุ้น หรือ 51.11% รวมมูลค่าอยู่ที่ 587,603,943,937.50 บาท (5.87 แสนล้านบาท)

ประกันสังคม ถือหุ้นเป็นอันดับ 5 จำนวน 574,827,700 หุ้น หรือ 2.01% รวมมูลค่าอยู่ที่ 23,136,814,925 บาท (2.31 หมื่นล้านบาท)

PTT ธุรกิจปิโตรเลียมและปิโตรเคมีครบวงจร โดยผ่านธุรกิจที่ดำเนินงานเองและธุรกิจที่ลงทุนผ่านบริษัทในกลุ่ม ได้แก่ การสำรวจและผลิต จัดหาและจัดจำหน่าย ขนส่ง และแยกก๊าซธรรมชาติ ดำเนินกิจการค้าระหว่างประเทศสำหรับผลิตภัณฑ์น้ำมันและปิโตรเคมี และมีการลงทุนในธุรกิจการกลั่นและปิโตรเคมีในประเทศ และดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ

5.TFFIF (กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย) ณ วันที่ 14 พ.ค.64 ปิดที่ 8.50 บาท ส่วน YTD -12.37%

กระทรวงการคลัง ถือหุ้นเป็นอันดับ 1 จำนวน 457,000,000 หุ้น หรือ 10.00% รวมมูลค่าอยู่ที่ 3,884,500,000 บาท (3.88 พันล้านบาท)

ประกันสังคม ถือหุ้นเป็นอันดับ 8 จำนวน 82,527,300 หุ้น หรือ 1.81% รวมมูลค่าอยู่ที่ 701,482,050 บาท (7.01 ร้อยล้านบาท)

TFFIF ลงทุนในสิทธิที่จะได้รับรายได้ร้อยละ 45 ของรายได้ค่าผ่านทางรวมสุทธิที่จัดเก็บได้จากเส้นทางในปัจจุบันของทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษบูรพาวิถี เป็นระยะเวลา 30 ปี นับจากวันที่ 29 ตุลาคม 2561 (วันโอนสิทธิตามสัญญาโอนและรับโอนสิทธิในรายได้)

อย่างไรก็ตาม เราจะเห็นได้ว่า ตัวที่กระทรวงการคลังและประกันสังคมนั้นถือเหมือนกันอยู่ด้วยกัน 5 ตัว ล้วนแล้วแต่เป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดี ซึ่งเป็นหุ้นพิมพ์นิยมของใครหลาย ๆ คนด้วยใช่มั้ยล่ะค่ะ…วันนี้ไปล่ะค่ะ…บ๊ายยยย

Facebook Comments