โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ

หุ้นมาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ชื่อ โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ต่างเต็มหน้าฟีดข่าวอยู่ไม่น้อย หลังจากที่ทิดสมปอง มีประเด็นดราม่ากับเจ้าแม่สื่อวงการบันเทิง และจนกระทั่งขุดขุ้ยลามมาถึงเจ้าสัวปริศนาผู้ใจดีใช้หนี้ให้กับทิดสมปองถึง 10 ล้านบาท ว่าเป็นเจ้าสัวโกมลที่เป็นผู้ล้างหนี้ให้นั่นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังไม่มีข้อมูลที่ออกมาแน่ชัดแต่อย่างใด แต่วันนี้อิป้าขอไปดูพอร์ตหุ้นสักหน่อยว่า มีการลงทุนในตัวไหนอย่างไรกันบ้าง

ทั้งนี้ในเข้าไปเสิร์ดชื่อหาเพื่อหาข้อมูลที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ พบว่า เจ้าสัวโกมล ณ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เจ้าสัวโกมล เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อยู่ด้วยกัน 6 ตัว มีดังนี้

1.บมจ.ไอร่า แคปปิตอล หรือ AIRA ถือเป็นลำดับที่ 5 จำนวนมูลค่า 304,169,101 หุ้น หรือ 4.82% ส่วนลำดับที่ 1 เป็น บริษัท เจ อาร์ เค โฮลดิ้งส์ จำกัด จำนวน 2,316,497,280 หุ้น หรือ 36.68% ลำดับที่ 2 นายทวีฉัตร จุฬางกูร จำนวน 1,394,976,798 หุ้น หรือ 22.09% 3.นางนลินี งามเศรษฐมาศ จำนวนมูลค่า 331,698,230 หุ้น หรือ 5.25% และ 4 นายณัฐพล จุฬางกูร จำนวน 304,949,900 หุ้น หรือ 4.83%

AIRA ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 มีมูลค่า 13,766.44 ล้านบาท ราคาปิดที่ 2.18 บาท เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 ปิดที่ 2.08 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือคิดเป็น 4.80% ค่า P/E 226.40 เท่า P/BV 3.80 เท่า

2.บมจ.อกริเพียว โฮลดิ้งส์ หรือ APURE ถือเป็นลำดับที่ 2 จำนวน 302,085,930 หุ้น หรือ 31.52% ส่วนลำดับที่ 1 นายสุเรศพล จึงรุ่งเรืองกิจ จำนวน 338,882,082 หุ้น หรือ 35.36% ลำดับที่ 3 บริษัทซัมมิท ไพน์เฮิร์สท กอล์ฟ คลับ จำกัด จำนวน 40,353,000 หุ้น หรือ 4.21% 4.นายทวีฉัตร จุฬางกูร จำนวน 36,899,880 หุ้น หรือ 3.85% และ 5 นายเชษฐ เหมือนส้ม จำนวน 14,291,900 หุ้น หรือ 1.49%

APURE ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 มีมูลค่า 6,085.06 ล้านบาท ราคาปิดที่ 6.35 บาท เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 ปิดที่ 7.25 บาท ลดลงขึ้น -0.90 บาท หรือคิดเป็น -14.17% ค่า P/E 17.16 เท่า P/BV 3.04 เท่า

3.บมจ.เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน หรือ BWG ถือเป็นลำดับที่ 1 จำนวน 242,286,900 หุ้น หรือ 5.84% ส่วนลำดับที่ 2 นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ จำนวน 183,150,000 หุ้น หรือ 4.41% ลำดับที่ 3 น.ส.ปภัชญา อุ่นอนันต์ จำนวน 120,000,000 หุ้น หรือ 2.89% 4.CREDIT SUISSE AG, SINGAPORE BRANCH จำนวน 88,000,000 หุ้น หรือ 2.12% และ 5 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวน 74,344,500 หุ้น หรือ 1.79%

BWG ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 มีมูลค่า 4,596.63 ล้านบาท ราคาปิดที่ 1.01 บาท เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 ปิดที่ 0.93 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท หรือคิดเป็น 7.92% ค่า P/E N/A เท่า P/BV 1.21 เท่า

4.บมจ.เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ หรือ ETC ถือเป็นลำดับที่ 9 จำนวน 12,801,400 หุ้น หรือ 0.57% ส่วนลำดับที่ 1 บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด(มหาชน) จำนวน 984,000,000 หุ้น หรือ 43.93% ลำดับที่ 2 นายภัคพล งามลักษณ์ จำนวน 337,467,600 หุ้น หรือ 15.07% 3.บริษัท อัคคีปราการ จำกัด(มหาชน) จำนวน 159,935,200 หุ้น หรือ 7.14% ลำดับที่ 4 น.ส.ปภัชญา อุ่นอนันต์ จำนวน 33,500,000หุ้น หรือ 1.50% และ 5 เสี่ยยักษ์ นายวิชัย วชิรพงศ์ จำนวน 32,477,400 หุ้น หรือ 1.45%

ETC ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 มีมูลค่า 6,406.40 ล้านบาท ราคาปิดที่ 2.86 บาท เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 ปิดที่ 2.96 บาท ลดลง -0.10 บาท หรือคิดเป็น 3.49% ค่า P/E 28.47 เท่า P/BV 2.36 เท่า

5.บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ หรือ GRAMMY ถือเป็นลำดับที่ 6 จำนวน 22,720,000 หุ้น หรือ 2.77% ส่วนลำดับที่ 1 นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม จำนวน 392,834,599 หุ้น หรือ 47.91% ลำดับที่ 2 นายทวีฉัตร จุฬางกูร จำนวน 134,635,723 หุ้น หรือ 16.42% 3.นายณัฐพล จุฬางกูร จำนวน 81,122,700 หุ้น หรือ 9.89% ลำดับที่ 4 กองทุนเปิด บัวหลวงหุ้นระยะยาว จำนวน 24,437,800 หุ้น หรือ 2.98% และ 5 UOB KAY HIAN (HONG KONG) LIMITED – Client Account จำนวน 22,932,520 หุ้น หรือ 2.80%

GRAMMY ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 มีมูลค่า 9,839.40 ล้านบาท ราคาปิดที่ 12.00 บาท เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 ปิดที่ 13.30 บาท ลดลง -8.50 บาท หรือคิดเป็น 70.86% ค่า P/E 72.29 เท่า P/BV 8.05 เท่า

6.บมจ.ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ U ถือเป็นลำดับที่ 5 จำนวน 99,569,427 หุ้น หรือ 1.77% ส่วนลำดับที่ 1 บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 2,033,425,452 หุ้น หรือ 36.22% ลำดับที่ 2 PHILLIP SECURITIES (HONG KONG) LIMITED จำนวน 605,228,108 หุ้น หรือ 10.78% 3.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวน 174,769,923 หุ้น หรือ 3.11% และลำดับที่ 4 SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED จำนวน 102,979,524 หุ้น หรือ1.83%

ทั้งนี้นายโกมลมีบุตรชาย คือนายพงศกวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ และมีศักดิ์เป็นอาของนายธนาธร ในด้านหน้าที่การงานถือว่าเป็นผู้ทำธุรกิจหลากหลายทั้งสนามกอล์ฟ พลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน สินค้าทางการเกษตร หอพักให้เช่า และบ้านจัดสรร ถือหุ้นในบริษัทต่าง ๆ รวมแล้ว 100 กว่าบริษัท

นอกจากนี้ยังทำธุรกิจด้วยกัน 3 แห่ง คือ ซัมมิทไพน์เฮิร์สท กอล์ฟคลับ นิติบุคคลบริหารสนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สท กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ ซึ่งข้อมูลจากเว็บไซด์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ในปี 2563 มีรายได้รวม 398.772 ล้านบาท รายจ่ายรวม 334.650 ล้านบาท กำไรสุทธิ 64.119 ล้านบาท สำหรับบริษัทนี้มีทุนจดทะเบียน 1,500 ล้านบาท ก่อตั้งเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2527 มีกรรมการ 4 ราย คือ นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ
นางสาวเทียมใจ ศศิศาสตร์ นางสาวพลอยครินทร์ สัจจะเวทะ และนางกิตติมา อิ่มประเสริฐ รวมถึง บมจ.อกริเพียว โฮลดิ้ง และซัมมิทฟุตแวร์ เจ้าของแบรนด์รองเท้าแอโร่ซอฟท์ นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม 6 หุ้นที่เจ้าสัวโกมล ถืออยู่นั้น ส่วนใหญ่แล้วผู้ถือหุ้นรายใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่สนิทชิดเชื้อ หรือเป็นบุคคลในบรรดาเครือญาติด้วยกันทั้งสิ้น…วันนี้ไปล่ะค่ะ…บ๊ายยยย

Facebook Comments