มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า วันนี้จะชวนไปเบิ่งตาแล หุ้นโรงไฟฟ้าที่ปี 62 โดดเด่นเด้งดึ้งเต่งตึงมาก ๆ ค่ะ และในปี 63 นี้ ก็ยังถูกคาดหวังว่าจะเป็นพระเอกอีก 1 ปี เพราะแม้ในช่วงต้นปีนี้ต้องเผชิญกับผู้ร้ายหลายตัว ทั้งเศรษฐกิจโลก – สงครามการค้า – ความตึงเครียดตะวันออกกลาง แต่หุ้นโรงไฟฟ้า ยังเฉิดฉาย ราคาขยับไม่สนเพื่อนเลยละคะ
ประเด็นสำคัญที่หุ้นโรงไฟฟ้าแข็งแกร่งด้วยผลประกอบการ หรือรายได้หลักมาจากสัญญาการซื้อขายไฟ ไม่ได้แอบอิงกับเศรษฐกิจ สักเท่าไรนัก อีกทั้ง ดั๊นแอบได้ยินมาว่า บรรดาหุ้นบิ๊ก ๆ กลุ่มนี้เขาสนิทสนมกับคนใหญ่คนโตศูนย์กลางอำนาจในขณะนี้เลยล่ะค่ะ อิอิ ไป ๆ เราพาไปส่อง 6 หุ้นโรงไฟฟ้าที่หลังปีใหม่ ยังแน่นปึก (เรียงตาม % ของราคาที่เพิ่มขึ้นนะคะ)
1.BGRIM (บมจ.บี.กริม เพาเวอร์) มาร์เกตแคป 150,548.48 ล้านบาท (มาร์เกตแคป สิ้นปี 60 อยู่ที่ 74,948.38 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 75,600.10 ล้านบาท ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 52.50 บาท ล่าสุด (10 ม.ค.63) ปิดที่ 57.75 บาท เพิ่มขึ้น 5.25 บาท หรือ 10.00% (โดยราคาของ BGRIM โดดเด้งดึง ๆ มาตั้งแต่ปี 62 แล้วค่ะ ใครซื้อตอนต้นปีราคา 26.50 บาท พอมาสิ้นปีราคาพุ่งไป 52.50 บาท กำไรกันกว่า 100% กันเลยค่ะ พอมาปี 63 ช่วงแรก ๆ บวกบ้างลบบ้าง พอมาเจอเหตุหนัก 8 ม.ค. 63 ย่อลงเกือบ 3% พอเหตุคลายเด้งทันทีจาก 52.25 บาท พุ่งไกระฉูดไป 57.75 บาท เลยละคะ)
2.GPSC (บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่) มาร์เกตแคป 264,349.63 ล้านบาท (มาร์เกตแคป สิ้นปี 60 อยู่ที่ 107,877.66 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 156,471.97 ล้านบาท ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 85.75 บาท ล่าสุด (10 ม.ค. 63) ปิดที่ 93.75 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท หรือ 9.32% (โดยปี 62 ราคาของ GPSC ทำผลงานไว้ได้แจ่มเลยค้า จากต้นปี 58.50 บาท จนจบสิ้นปี 85.75 บาท กำไรเนื้อ ๆ พอขึ้นปี 63 ก็เกาะกลุ่มขึ้นลงตามเพื่อนมาขยับแรงช่วง 9-10 ม.ค. 63 ดีดขึ้นไปจาก 88.25 บาท ไป 93.75 บาท บวกไป 6% กว่าเลยค่ะ)
3.GULF (บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์) มาร์เกตแคป 377,594.10 ล้านบาท (มาร์เกตแคป สิ้นปี 60 อยู่ที่ 138,664.50 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 238,929.60 ล้านบาท ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 166.00 บาท ล่าสุด (10 ม.ค.63) ปิดที่ 177.00 บาท เพิ่มขึ้น 11.00 บาท หรือ 6.62% (โดยปี 62 ราคาของ GULFโดดเด่นมากค่ะจาก 81.50 บาท แล้วจบปีที่่ 166.00 บาท พาเจ้าของเสี่ยกลาง ขึ้นแท่นเศรษฐีหุ้นปี 62 อย่างทิ้งคู่แข่งกระจุยเลยคะ พอขึ้นปี 63 ยังแรงวิ่งต่อเนื่อง มาสะดุด วันที่ 8 ม.ค.63 ที่ลบไป 5.00 บาท พอวันรุ่งขึ้นดีดกลับ 2 วันติด กลับมาปิดที่ 177.00 บาท พร้อมเป้าหมาย 180.00 บาท ในวีคนี้??)
4.BCPG (บมจ.บีซีพีจี) มาร์เกตแคป 33,981.16 ล้านบาท (มาร์เกตแคป สิ้นปี 60 อยู่ที่ 47,416.84 ล้านบาท) ลดลง 13,435.68 ล้านบาท ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 16.20 บาท ล่าสุด (10 ม.ค.63) ปิดที่ 17.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท หรือ 4.93% (โดยปี 62 ราคาของ BCPG ขยับน้อย ๆ คอยจนเมื่อยค่ะ จาก 15.20 บาท สู่ 16.20 บาท บวกมาบาทเดียวไม่มีเสียวเลย อิอิ ส่วนปี 63 ราคาค่อย ๆ ขยับไม่หวือหวามากนะคะพุ่งไปแตะ 17.00 บาทในวันที่ 3 ม.ค. จากนั้นย่อลงมาเล็ก ๆ หลัง 8 ม.ค. 63กลับมา 2 วันติดตามเพื่อนมาปิดที่ 17.00 บาท)
5.RATCH (บมจ.ราช กรุ๊ป) มาร์เกตแคป 103,675.00 ล้านบาท (มาร์เกตแคป สิ้นปี 60 อยู่ที่ 78,662.50 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 25,012.50 ล้านบาท ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 68.75 บาท ล่าสุด (10 ม.ค.63) ปิดที่ 71.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท หรือ 4.00% (โดยปี 62 ราคาของ RATCH สร้างความสุขให้เม่าได้ไม่น้อยเลยค่ะจาก 50.75 บาท มาสู่ 68.75 บาท ฟันกำไรไป 18 บาท พอปี 63 สลับบวกย่อตามสถานการณ์โลก มาแรงดีตอนปลายสัปดาห์ วันที่ 10 ม.ค. ดีดไป 3.00 บาทกลับมาผงาดที่ 71.50 บาท)
6.EGCO (บมจ.ผลิตไฟฟ้า) มาร์เกตแคป 175,312.84 ล้านบาท (มาร์เกตแคป สิ้นปี 60 อยู่ที่ 113,716.44 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 61,596.40 ล้านบาท ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 328.00 บาท ล่าสุด (10 ม.ค. 63) ปิดที่ 333.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท หรือ 1.52% (โดยปี 62 ราคาของ EGCO ทำให้นักลงทุนยิ้มปลื้มจาก 248.00 บาท มาปิดที่ 328.00 บาท ฟันกำไรเพลินเลยค่ะ พอปี 63 เปิดหัวมายังเครื่องไม่ร้อนย่อเล็ก ๆ พอพ้นวันที่ 6 ม.ค. 63 สับขาไวจี๋พุุ่งจาก 326 บาท ไปสู่ 333 บาท เลยล่ะค่ะ)
ในขณะเดียวกัน GUNKUL (บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง) EA (บมจ.พลังงานบริสุทธิ์) CKP (บมจ.ซีเค พาวเวอร์) WHAUP (บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์) ราคาย่อลงมาจากช่วงปีใหม่ค่ะ แต่ทั้ง 4 ตัวนี้ในปี 62 สร้างผลงานไว้ได้ค่อนข้างดีค่ะ อาจจะกลับมาวิ่งได้ในอนาคต วันนี้ไปล่ะค่ะ บ๊ายย
