มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า วันนี้อยากเม้าเรื่องนี้ค่ะ ดั๊นมานึกๆ ว่าช่วงนี้ “หุ้นโรงไฟฟ้า” ฮอตดีแล้วมีหุ้น “โรง” อะไรอีกไหมในตลาด เลยสืบค้นอย่างสนุกสนาน จนหามาได้ 11 โรงค่ะ ลองไปดูกันนะคะว่ามี “โรง” อะไรกันบ้าง
1.หุ้นโรงไฟฟ้า…ฮอตฮิตเหลือเกิน ท่ามกลางความหวั่นวิตกของกูรูน้อยใหญ่ว่าแพงไปไหม ฟองสบู่หรือเปล่า วีธีเรียงคือหลบไปหาหุ้นโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก หรือโรงไฟฟ้าทดแทนอื่นๆ แทนค่ะ
- GULF (บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์) ราคาสิ้นปี 61 ปิดที่ 81.50 บาท ณ 13 ก.ย.62 ปิดที่ 149.00 บาท เพิ่มขึ้น 67.50 บาท หรือ 82.82%
- RATCH (บมจ.ราช กรุ๊ป) ราคาสิ้นปี 61 ปิดที่ 50.75บาท ณ 13ก.ย.62 ปิดที่ 72.50 บาท เพิ่มขึ้น 21.75บาท หรือ 42.85%
- BGRIM (บมจ.บี.กริม เพาเวอร์) ราคาสิ้นปี 61 ปิดที่ 26.50 บาท ณ 13ก.ย.62 ปิดที่ 40.50 บาท เพิ่มขึ้น 14.00 บาท หรือ 52.83%
2.หุ้นโรงกลั่้น…ถ้าน้ำมันตลาดโลกขยับ กลุ่มนี้เขยื้อนตามตัวเด็ดๆ กลุ่มนี้ เช่น
- TOP (บมจ.ไทยออยล์) สิ้นปี 61 ปิดที่ 66.25 บาท ณ 13 ก.ย. 62 ปิดที่ 70.75 บาท ปรับเพิ่ม 4.50 บาท หรือ 6.79%
- SPRC (บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง) สิ้นปี 61 ปิดที่ 9.60 บาท ณ 13 ก.ย. 62 ปิดที่ 9.80 บาท ปรับเพิ่ม 0.20 บาท หรือ 2.08%
3.หุ้นโรงพยาบาล…ได้รับความนิยมสูงมาก บางคนบอกว่าเป็น “หลุมหลบภัย” ที่หลังๆ อาจโดนระเบิดบ่อยครั้ง จนหนีไปหาหลุมอื่นกันค่ะ
- BDMS (บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ) สิ้นปี 61 ปิดที่ 24.80 บาท ณ 13 ก.ย. 62 ปิดที่ 24.20 บาท ปรับลด 0.60 บาท หรือ -2.41%
- SVH (บมจ.สมิติเวช) ของหมอเสริฐ สิ้นปี 61 ปิดที่ 440.00 บาท ณ 13 ก.ย. 62 ปิดที่ 454.00 บาท ปรับขึ้น 14.00 บาท หรือ 3.18%
4.หุ้นโรงแรม…ส่วนใหญ่จะอิงกับฤดูกาล-การท่องเที่ยว เช่น หน้าหนาว ท่องเที่ยวคึกคักกลุ่มนี้ก็ดีดเด้ง รวมไปถึงสัมพันธ์กับมาตราการกระตุ้นของรัฐบาลด้วย แต่ก็เป็นกลุ่มที่อ่อนไหวง่ายต่อข่าวคราวที่มากระทบตัวดังๆ คือ
- MINT (บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล) สิ้นปี 61 ปิดที่ 34.00 บาท ณ 13 ก.ย. 62 ปิดที่ 38.25 บาท ปรับ 4.25 บาท หรือ 12.50%
- ERW (บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป) สิ้นปี 61 ปิดที่ 6.30 บาท ณ 13 ก.ย. 62 ปิดที่ 5.90 บาท ปรับ 0.40 บาท หรือ -6.34%
- CENTEL (บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา) สิ้นปี 61 ปิดที่ 40.00 บาท ณ 13 ก.ย. 62 ปิดที่ 33.50 บาท ปรับลด 6.50 บาท หรือ -16.25%
5.หุ้นโรงเรือน (อสังหา)… ปีนี้อาจหนักหน่วงจากมาตรการกำหนดอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV-Loan to Value) ที่บังคับใช้เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีการผ่อนปรนบ้างแล้วก็ตาม
- LH (บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์) สิ้นปี 61 ปิดที่ 9.90 บาท ณ 13 ก.ย. 62 ปิดที่ 10.40 บาท ปรับเพิ่ม 0.50 บาท หรือ 5.05%
- SPALI (บมจ.ศุภาลัย) สิ้นปี 61 ปิดที่ 18.20 บาท ณ 13 ก.ย. 62 ปิดที่ 18.60 บาท ปรับ 0.40 บาท หรือ 2.19%
- ORI (บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้) สิ้นปี 61 ปิดที่ 6.60 บาท ณ 13 ก.ย. 62 ปิดที่ 8.30 บาท ปรับเพิ่ม 1.70 บาท หรือ 25.75%
6.หุ้นโรงงาน (นิคมอุตสาหกรรม)…กลุ่มนี้ได้ปัจจัยบวกจาก อนาคตจะมีการลงทุนในพื้นที่ EEC มากขึ้น ตัวเด่นคือ
- AMATA (บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน) สิ้นปี 61 ปิดที่ 20.60 บาท ณ 13 ก.ย.62 ปิดที่ 26.00 บาท ปรับเพิ่ม 5.40 บาท หรือ 26.21%
- WHA (บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น) สิ้นปี 61 ปิดที่ 4.28 บาท ณ 13 ก.ย. 62 ปิดที่ 4.78 บาท ปรับเพิ่ม 0.50 บาท หรือ 11.68%
ทั้ง 6 กลุ่ม จะเป็นที่นิยมของนักลงทุน ส่วนอีก 5 กลุ่ม “โรง ” จะเฉพาะด้าน ไม่ค่อยได้รับความสนใจมากนักค่ะ
7.หุ้นโรงเรียน SISB (บมจ.เอสไอเอสบี) ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งใช้หลักสูตรการศึกษาของประเทศสิงคโปร์เป็นหลักสูตรพื้นฐาน
สิ้นปี 61 ปิดที่ 4.28 บาท ณ 13 ก.ย.62 ปิดที่ 8.85 บาท ปรับขึ้น 4.57 บาท หรือ 106.77%
8.หุ้นโรงพิมพ์…มี 2 ตัว EPCO (บมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก) ธุรกิจโรงพิมพ์ครบวงจร ตั้งแต่วางแผนการผลิตจนกระทั่งเข้าเล่มเป็นสิ่งพิมพ์สำเร็จรูปสิ้นปี 61 ปิดที่ 2.64 บาท ณ 13 ก.ย.62 ปิดที่ 4.04 บาท ปรับ 1.40 บาท หรือ 53.03%
และ TKS (บมจ.ที.เค.เอส. เทคโนโลยี) ผลิตและจำหน่ายแบบพิมพ์ธุรกิจ แบบพิมพ์ซีเคียวริตี้ บริการพิมพ์ระบบดิจิตอลกระดาษพิมพ์ต่อเนื่องสำหรับคอมพิวเตอร์ และบริการคลังสินค้าแบบพิมพ์ สิ้นปี 61 ปิดที่ 8.00 บาท ณ 13 ก.ย.62 ปิดที่ 7.80 บาท ปรับลง 0.20 บาท หรือ -2.5%
9.หุ้นโรงทอผ้า…TTI (บมจ.โรงงานผ้าไทย) ธุรกิจผลิตนำเข้า และจำหน่ายฝ้ายดิบ ด้ายฝ้าย ด้ายใยผสม ด้ายใยสังเคราะห์ ผ้าผืน ได้แก่ ผ้าขาว ผ้าย้อมสี ผ้าทอลวดลาย และเสื้อผ้าสำเร็จรูปสิ้นปี 61 ปิดที่ 26.50 บาท ณ 13 ก.ย.62 ปิดที่ 20.00 บาท ปรับลง 6.50 บาท หรือ -24.52%
10.หุ้นโรงมหรสพ (โรงหนัง)…น่าจะมีตัวเดียวในตลาดฯค่ะ MAJOR (บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป) นอกจากธุรกิจโรงภาพยนตร์ ยังมี โบว์ลิ่ง คาราโอเกะ ลานสเก็ตน้ำแข็ง และสื่อโฆษณา สิ้นปี 61 ปิดที่ 20.60 บาท ณ 13 ก.ย.62 ปิดที่ 25.00 บาท ปรับ 4.40 บาท หรือ 21.35 %
11.หุ้นโรงสีข้าว…PRG (บมจ.ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี) เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวสารในประเทศ และเพื่อการส่งออกผลิตภัณฑ์ของบริษัท สิ้นปี 61 ปิดที่ 13.40 บาท ณ 13 ก.ย. 62 ปิดที่ 12.90 บาท ปรับลด 0.50 บาท หรือ -3.73%
และขอปิดท้ายด้วย หุ้นโลงศพ !! ค่ะ คือหุ้นดาวร่วงทั้งหลายที่เคยฮอตปรอทแตก สุดท้ายโป๊ะแตก พาติดดอยบานเบอะ หุ้นพวกนี้ระวังให้ดีนะคะอิอิ วันนี้ไปล่ะค่ะ บ๊ายย
