SET100

หนังสืออิป้าหามาเล่ามาแล้วค่ะ อิป้าหามามาเล่า วันนี้ยังอยู่ในอาณาจักร SET100 เมื่อวานนำเสนอ 14 หุ้นสุดแป๊กไปแล้ว เพื่อไม่ให้น้อยหน้าเลยจะพาไปดู TOP 10 หุ้นสุดปังปุริเย่ที่มีผลตอบแทนด้านราคามากที่สุด (คิดเป็น%) ทั้งนี้ไตรมาส 3 /2563 วันที่ 30 มิ.ย.63 SET 1,339.03 จุด และ ณ วันที่ 25 ก.ย.63 SET 1,244.94 จุด ซึ่งไตรมาส 3/2563 นั้น SET ย่อลงไป 94.09 จุด (ข้อมูล ณ 25 ก.ย.63)

1.HANA (บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส)

ผลงาน Q 3/63 วันที่ 30 มิ.ย. 63 ปิดที่ 27.75 บาท ณ วันที่ 25 ก.ย.63 ปิดที่ 44.50 บาท เพิ่มขึ้น 16.75 บาท หรือ 60.36%

หนึ่งในหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ที่่น่าจับตาผลประกอบการแจ่ม กำไรเติบโตจากภาคการผลิตทั่วโลกฟื้นตัว รวมทั้งตลาดรถยนต์ต่างประเทศฟื้น

2.JMT (บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส)

ผลงาน Q 3/63 วันที่30 มิ.ย.63 ปิดที่ 22.70 บาท ณ วันที่ 25 ก.ย.63 ปิดที่ 32.50 บาท เพิ่มขึ้น 9.80 บาท หรือ 43.17%

แม้ว่า JMT -JMART ราคาหุ้นจะดิ่งหนัก หลังประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียน แต่คาดเป็นช่วงสั้นๆ และน่าจะกลับมาได้

3.COM7 (บมจ.คอมเซเว่น)

ผลงาน Q 3/63 วันที่30 มิ.ย. 63ปิดที่ 28.25 บาท ณ วันที่ 25 ก.ย.63 ปิดที่ 40.25 บาท เพิ่มขึ้น 12.00 บาท หรือ 42.47%

โบรค ฯ แนะนำลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก iPhone 12 เตรียมขายในเดือน ต.ค.นี้ ได้แก่ COM7-SPVI-CPW-SYNEX-JMART เนื่องจากเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Apple

4.CKP (บมจ.ซีเค พาวเวอร์)

ผลงาน Q 3/63 วันที่ 30 มิ.ย.63 ปิดที่ 4.12 บาท ณ วันที่ 25 ก.ย.63 ปิดที่ 5.80 บาท เพิ่มขึ้น 1.68 บาท หรือ 40.77%

CKP บริษัทที่มีกำไรสุทธิเติบโตมากที่สุด ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิเติบโตมากที่สุดถึง 1,296.73% จัดเป็นหุ้นราคาต่ำกว่า 10 บาทที่น่าสนใจ

5.DOHOME (บมจ.ดูโฮม)

ผลงาน Q 3/63 วันที่ 30 มิ.ย.63 ปิดที่ 10.40 บาท ณ วันที่ 25 ก.ย.63 ปิดที่ 14.20 บาท เพิ่มขึ้น 3.80 บาท หรือ 36.53%

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) คาดว่าผลประกอบการจะแข็งแกร่งใน 3Q63 และมีแนวโน้มจะดีต่อเนื่องไปอีก 2-3 ไตรมาส มองว่ามีโอกาสให้เข้าเก็งกำไรได้

6.KCE (บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์)

ผลงาน Q 3/63 วันที่ 30 มิ.ย.63 ปิดที่ 22.80 บาท ณ วันที่ 25 ก.ย.63 ปิดที่ 31.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.20 บาท หรือ 35.96%

KCE เป็น 1 ใน 13 หุ้นเด่นที่โบรกฯ การันตีงบไตรมาส 3/2563 กำไรโตดีทั้งเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบไตรมาสก่อนหน้า

7.TVO (บมจ.น้ำมันพืชไทย)

ผลงาน Q 3/63 วันที่30 มิ.ย.63 ปิดที่ 26.25 บาท ณ วันที่ 25 ก.ย.63 ปิดที่ 34.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.75 บาท หรือ 29.52%

TVO 1 ในหุ้นมีอนาคตปันผลสูง หลังราคาถั่วเหลืองตลาดโลกที่ปรับตัวพุ่งขึ้น ส่งผลราคาขยับทำนิวไฮในรอบ 2 ปี 4 เดือน เมื่อ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา

8.RBF (บมจ.อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย)

ผลงาน Q 3/63 วันที่ 30 มิ.ย. 63ปิดที่ 8.35 บาท ณ วันที่ 25 ก.ย.63 ปิดที่ 10.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.65 บาท หรือ 19.76%

RBF กำไรสุทธิได้อย่างต่อเนื่อง เกจิหลายสำนักประเมินผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวแรง หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย

9.ORI (บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้)

ผลงาน Q 3/63 วันที่ 30 มิ.ย.63 ปิดที่ 5.45 บาท ณ วันที่ 25 ก.ย.63 ปิดที่ 6.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.95 บาท หรือ17.43 %
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุ ORI มูลค่าหุ้นถูก-ปันผลดีแนะซื้อราคาเป้าหมาย 7.40 บาท

10.GLOBAL (บมจ.สยามโกลบอลเฮ้าส์)

ผลงาน Q 3/63 วันที่30 มิ.ย.63 ปิดที่ 16.60 บาท ณ วันที่ 25 ก.ย.63 ปิดที่ 19.30 บาท เพิ่มขึ้น 2.70 บาท หรือ 16.26%

ถ้านับผลงานด้านราคา 9 เดือนในปี 63 GLOBAL เป็นหุ้น 1 ใน 3 (CBG, GLOBAL, CPF) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นชนะตลาดได้แบบแข็งแกร่ง

อย่างไรก็ตาม ทั้ง 10 หุ้น นี้ ส่วนใหญ่แล้วทรง ๆ มาตั้งแต่ต้นปี และยังเป็นหุ้นที่ไม่โดยกระทบจากโควิด-19 มากนัก…วันนี้ไปแล้วล่ะค่ะ บ๊ายย

 

Facebook Comments