ทวีฉัตร จุฬางกูร

หนังสืออิป้าหามาเล่ามาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า วันนี้จะพาไปเลาะตะเข็บแง้มพอร์ตหุ้นของคุณพี่ “ทวีฉัตร จุฬางกูร” ผู้ชายนักลงทุนที่กระจายการลงทนในหุ้น(เกิน 0.5%)มากที่สุดในประเทศ (43 หลักทรัพย์) รวมแล้ว 10,737,644,707 บาท โดยจะลงรายละเอียด 10 ตัวแรกนะคะ ส่วนอีก 33 ตัว จะบอกแค่ว่า มีหุ้นอะไร และเงินลงทุนมูลค่าเท่าไรนะคะ

ก่อนอื่นชวนอ่านประวัติย่อก่อน ทวีฉัตรเป็นลูกคนที่ 2 ของคุณพ่อสรรเสริญ จุฬางกูร และคุณแม่หทัยรัตน์ มีบุตรชาย 6 คน (อภิชาติ-ทวีฉัตร-ณัฐพล-กรกฤช-วุฒิภูมิ-อัครพงษ์)

โดยคุณพ่อสรรเสริญ มีน้องชายคนที่ 2 ชื่อ “พัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ” (ถึงแก่กรรม) แต่งงานกับ “สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ” และมีลูกชายคนดังชื่อ ธนาธร พ่อของฟ้า นั่นเอง

น้องชายของทวีฉัตรคนที่ 3 ชื่อณัฐพล จุฬางกูร เป็นหนึ่งในนักลงทุนเช่นกันมีพอร์ตหุ้น 3.82 พันล้านบาท ส่วนคุณแม่หทัยรัตน์ มีพอร์ตหุ้น 2.12 พันล้านบาท ขณะที่คุณพ่อสรรเสริญ มีพอร์ตหุ้น 914 ล้านบาท และน้องคนที่ 5 มีพอร์ตหุ้น 245 ล้านบาท และถ้ารวมในครอบครัวของ “ทวีฉัตร จุฬางกูร” พอร์ตหุ้นมูลค่า 1.78 หมื่นล้านบาท

ไปดู 43 หุ้นในสังกัด “ทวีฉัตร จุฬางกูร” กันเลยค่ะ

1.BEC (บมจ.บีอีซี เวิลด์) ตลาด SET มูลค่าเงินลงทุน 2.22 พันล้านบาท (ถืออันดับ 1 หรือ 14.24%)

ผลตอบแทนด้านราคา ม.ค.ปี 64 คือ -1.86% , ปี 63 คือ +36.44% , ปี 62 คือ +22.41%

2.AIRA (บมจ.ไอร่า แคปปิตอล) ตลาด mai มูลค่าเงินลงทุน 1.41 พันล้านบาท (ถืออันดับ 2 หรือ 21.96%)

ผลตอบแทนด้านราคา ม.ค.ปี 64คือ -0.97% ,ปี 63 คือ -13.45% , ปี 62 คือ -29.17%

3.GRAMMY (บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่) ตลาด SET มูลค่าเงินลงทุน 1.21 พันล้านบาท (ถืออันดับ 2 หรือ 16.32%)

ผลตอบแทนด้านราคา ม.ค.ปี64 คือ 0.00% ,ปี 63 คือ -11.65% , ปี 62 คือ 71.67%

4.NNCL (บมจ.นวนคร) ตลาด SET มูลค่าเงินลงทุน 1.20 พันล้านบาท (ถืออันดับ 1 หรือ 24.70%)

ผลตอบแทนด้านราคา ม.ค.ปี 64 คือ +8.18% ,ปี 63 คือ +0.92% , ปี 62 คือ +33.74%

5.NOK (บมจ.สายการบินนกแอร์) ตลาด SET มูลค่าเงินลงทุน 940 ล้านบาท (ถืออันดับ 3 หรือ 22.51%)

ผลตอบแทนด้านราคา ม.ค.ปี64 คือ -1.77 % ,ปี 63 คือ -43.50% ,ปี 62 คือ -17.36%

6.OISHI (บมจ.โออิชิ กรุ๊ป) ตลาด SET มูลค่าเงินลงทุน 639 ล้านบาท (ถืออันดับ 4 หรือ 4.21%)

ผลตอบแทนด้านราคา ม.ค.ปี 64 คือ +2.50% ,ปี 63 คือ -20.79% ,ปี 62 คือ +33.77%

7.LANNA (บมจ.ลานนารีซอร์สเซส) ตลาด SET มูลค่าเงินลงทุน 536 ล้านบาท (ถืออันดับ 2 หรือ 14.01%)

ผลตอบแทนด้านราคา ม.ค.ปี 64 คือ -3.90% ,ปี 63 คือ 0.00% ,ปี 62 คือ -34.19%

8.TSC (บมจ.ไทยสตีลเคเบิล) ตลาด SET มูลค่าเงินลงทุน 234 ล้านบาท (ถืออันดับ 3 หรือ 8.20%)

ผลตอบแทนด้านราคา ม.ค.ปี 64 คือ -8.55% ,ปี 63 คือ -4.10% ,ปี 62 คือ -8.27%

9.SAMART (บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น) ตลาด SET มูลค่าเงินลงทุน 231 ล้านบาท (ถืออันดับ 6 หรือ 3.41%)

ผลตอบแทนด้านราคา ม.ค.ปี 64 คือ +18.35% ,ปี 63 คือ -19.85% ,ปี 62 คือ +7.09%

10.CI (บมจ.ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์) ตลาด SET มูลค่าเงินลงทุน 182 ล้านบาท (ถืออันดับ 2 หรือ 23.49%)

ผลตอบแทนด้านราคา ม.ค.ปี64 คือ -1.32% ,ปี 63 คือ -13.64% ,ปี 62 คือ -27.87%

11.ASAP (บมจ.ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์) SET มูลค่า 158 ล้านบาท
12.MODERN (บมจ.โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป) SET มูลค่า 151 ล้านบาท
13.SE-ED (บมจ.ซีเอ็ดยูเคชั่น) SET มูลค่า 145 ล้านบาท
14.SUSCO (บมจ.ซัสโก้) SET มูลค่า 125 ล้านบาท
15.AMATAV(บมจ.อมตะ วีเอ็น) SET มูลค่า 124 ล้านบาท
16.MM (บมจ.มัดแมน) mai มูลค่า 122 ล้านบาท
17.SST(บมจ.ทรัพย์ศรีไทย ) SET มูลค่า105 ล้านบาท
18.FN (บมจ.เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท) SETมูลค่า97ล้านบาท
19.APURE (บมจ.อกริเพียว โฮลดิ้งส์ ) SET มูลค่า 84 ล้านบาท
20.WORK (บมจ.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์) SET มูลค่ามูลค่า 83 ล้านบาท
21.SDC (บมจ.สามารถ ดิจิตอล) SET มูลค่า 66 ล้านบาท
22.MALEE(บมจ.มาลีกรุ๊ป) SET มูลค่า 64 ล้านบาท
23.ITD (บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์) SET มูลค่า 63 ล้านบาท
24.TIPCO(บมจ.ทิปโก้ฟูดส์) SET มูลค่า 55 ล้านบาท
25.ERW (บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป) SET มูลค่า 53 ล้านบาท
26.GSTEEL (บมจ.จี สตีล) SET มูลค่า 38 ล้านบาท
27.LOXLEY (บมจ.ล็อกซเล่ย์) SET มูลค่ามูลค่า 37 ล้านบาท
28.UKEM (บมจ.ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล) mai มูลค่า 34 ล้านบาท
29.TNR (บมจ.ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้) SET มูลค่า 33 ล้านบาท
30.KOOL (บมจ.มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล) mai มูลค่า 31 ล้านบาท
31.AF (บมจ.ไอร่า แฟคตอริ่ง) mai มูลค่า 27 ล้านบาท
32.KASET (บมจ.ไทยฮา) mai มูลค่า 25 ล้านบาท
33.TVT (บมจ.ทีวี ธันเดอร์) mai มูลค่า 24 ล้านบาท
34.ZMICO (บมจ.หลักทรัพย์ ซีมิโก้) SET มูลค่า23ล้านบาท
35.IFEC (บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น) SET มูลค่า 22 ล้านบาท
36.JCKH (บมจ.เจซีเค ฮอสพิทอลลิตี้) mai มูลค่า 21 ล้านบาท
37.KKC (บมจ.กุลธรเคอร์บี้) SET มูลค่า 20 ล้านบาท
38.PROSPECT (ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล) SET มูลค่า 16 ล้านบาท
39.GCAP (บมจ.จี แคปปิตอล) mai มูลค่า 15 ล้านบาท
40.WAVE (บมจ. เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์) SET มูลค่า 11 ล้านบาท
41.MPG (บมจ.เอ็มพีจี คอร์ปอเรชั่น) mai มูลค่า 10 ล้านบาท
42.IFS (บมจ.ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย)) SET มูลค่า 7 ล้านบาท
43.PE (บมจ.พรีเมียร์เอ็นเตอร์ไพรซ์) SET มูลค่า 5.8 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า “ทวีฉัตร ” จะไม่ค่อยลงทุนในหุ้นตัวใหญ่ๆ หรือตัวดังๆ และยังไปลงทุนในตลาด mai ถึง 9 ตัวอีกด้วย วันนี้่ไปล่ะค่ะ บ๊ายยย

Facebook Comments