ปฏิวัติ

มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า คันปากยิบๆ ขอเลี้ยวไปการเมืองแว๊บนะคะ ก็ขุ่นพี่อย่าง “พล.อ.อภิรัชต์” นายใหญ่บิ๊กทหารผู้มีลูกน้องกว่า 3 แสนนาย ดันไม่การันตรีว่าจะไม่มี “ปฎิวัติ” อีก ทำให้เกิดกระแสฮือฮาพร้อมคำถาม “จะมีอีกเหรอ?”… อิป้าเลยพาไปย้อนดูว่าการปฎิวัติ 2 ครั้งล่าสุดนั้น มีราคาที่ตลาดหุ้นและเศรษฐกิจต้องจ่ายอย่างไรบ้างค่

เริ่มที่ปี 2549 -วันที่ 19 ก.ย. “บิ๊กบัง-พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน” แซะ ทักษิณ ชินวัตร หล่นเก้าอี้อำนาจ โดยในวันที่ 19 ก.ย. 49 ตลาดหุ้นไทยเปิด มาที่ 708.31จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.42 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 702.56 จุด (อ้างอิงข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ) จากนั้นในขณะวันที่ 20 ก.ย. 49 ตลาดปิดทำการ พอเปิดมาวันที่ 21 ก.ย. 49 ไม่รุนแรงอย่างที่ถูกคาดการณ์

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ออกบทวิเคราะห์ “การทำรัฐประหาร…ผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย” (ก.ย.49)โดยระบุว่า “ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตลาดหุ้นไทยหลังจากที่เปิดให้มีการซื้อขายในวันแรกนั้นกลับน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยหลังจากเปิดตลาดในวันที่ 21 ก.ย. 2549 ดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ 702.05 จุด ก่อนที่จะร่วงลงมากที่สุดถึง 29.56 จุด ไปแตะที่ 673.03 จุด หลังเปิดตลาดไม่นาน จากแรงขายนำในหุ้นขนาดใหญ่

“แต่สามารถที่จะฟื้นตัวได้และปิดตลาดที่ 692.57 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นที่สุดในรอบ 8 เดือนที่ 43,084.01 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติยังคงเป็นกลุ่มที่มีการซื้อสุทธิถึง 7,391.98 ล้านบาท” พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่า การทำรัฐประหาร 49 นั้นเป็นไปโดยสงบ ซึ่งหากไม่มีเหตุรุนแรง น่าจะเป็นการช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนมากขึ้น (อ้างอิง https://positioningmag.com/30772 วันที่ 27 ก.ย. 49)

จากนั้นในวันต่อมา 22 ก.ย. 49 ตลาดหุ้นเปิดที่ 692.91 จุด ปิดตลาดที่ 681.71 จุด ลดลง 10.86 จุด จนในวันที่ 25 ก.ย. 49 เปิดที่ 679.37 จุด ปิดตลาดที่ 686.74 จุด เพิ่มขึ้น 5.03 จุด จากนั้นก็ปิดบวกเพิ่มมาเรื่อยๆ จนในวันที่ 12 ต.ค. 49 ตลาดปิดที่ 709.67 จุด (อ้างอิงข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ) ใกล้เคียงกับช่วงก่อนที่จะเกิดรัฐประหาร

กล่าวโดยสรุป ตั้งแต่ 19 ก.ย. 49 ตลาดปิด 702.56 จุด จนถึง12 ต.ค. 49 ตลาดปิด 709.67 จุด…ตลาดหุ้นใช้เวลา 23 วันกลับมาปกติค่ะ!

มาดูครั้งล่าสุดกัน 22 พ.ค. 57 (รัฐประหารครั้งที่ 13) นำโดย “บิ๊กตู่- พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา” โดยวันรัฐประหาร (22 พ.ค.57) นั้นตลาดเปิดมาดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.58 จุด จากวันก่อนหน้านี้ (21 พ.ค. 57)อยู่ ที่ระดับ 1,411.50 จุด ต่อมา ปิดตลาดหุ้นภาคเช้า ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.40 จุด อยู่ที่ 1,410.32 จุด ….(อ้างอิงข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ)

จากนั้นวันต่อมา 23 พ.ค.57 ตลาดเปิด ดัชนีปรับตัวลดลง 28.54 จุด แตะที่ระดับ 1,376.61 จุด และเมื่อถึงตอนปิดตลาด ตัวเลขอยู่ที่ 1,396.84 จุด ปิดลบ 20.75 จุด มูลค่าการซื้อขาย 29,902.27 ล้านบาท โดยหลักทรัพย์ 5 อันดับแรก ที่มีการซื้อขายสูงสุด คือ KBANK , ADVANC , SCB , AOT , BBL (อ้างอิงเว็บไทยรัฐ 23พ.ค.61)

วันต่อมา 24-25 พ.ค.57 ติดเสาร์-อาทิตย์ พอเปิดมาเช้าวันจันทร์ที่ 26 พ.ค. 57 ตลาดปรับตัวลดลง 1.98 จุด อยู่ที่ 1,394.86 จุด และไปปิดตลาดที่ 1,388.29 จุด ลดลง 8.55 จุด

ต่อมา วันที่ 27 พ.ค. 57 เปิดมาเพิ่มไปที่ 4.44 จุด แตะที่ระดับ 1,392.73 จุด แล้วไปปิดที่ 1391.15 จุด เพิ่มขึ้น 2.86 จุด วันต่อมา 28 พ.ค.57 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.32 จุดอยู่ที่ 1,405.05 จุด และปิดที่ 1,402.79 จุด เพิ่มขึ้น 10.06 จุด

ต่อมา 29-30 พ.ค. 57 ก็ยังปรับเพิ่ม โดยปิดตลาดที่ 1,415.73 จุด…กล่าวโดยสรุปแล้วตั้งแต่วันรัฐประหาร (22พ.ค.57) ตลาดหุ้นใช้เวลา 7 วัน กลับมาสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้นักวิชาการบอกว่า ตามสถิติย้อนหลังพบว่า เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ตลาดหุ้นไทยจะปรับลดลงจากแรงเทขายของนักลงทุน แต่จากนั้น 1 สัปดาห์ ดัชนีจะค่อยๆ ฟื้นตัว หากไร้ความรุนแรง และไม่มีการใช้อาวุธ (เว็บไทยรัฐ 23 พ.ค.57)

นอกจากนี้งานวิจัยของผศ.ดร.พงศ์ศักดิ์ เหลืองอร่าม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และรศ.ดร.ยุทธนา เศรษฐปราโมทย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เรื่อง “ผลกระทบทางเศรษฐกิจของความไม่แน่นอนทางการเมืองไทย” นั้นระบุว่า ตลาดทุน หรือ หุ้น ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เกิดจากความขัดแย้ง การชุมนุม กฎอัยการศึก การปฏิวัติ จะมีผลให้ตลาดหุ้นผันผวนเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้มีผลเชิงลบต่อดัชนีและผลตอบแทนจากการลงทุนของนักลงทุน (อ้างอิงเวปไซด์ voicetv 28 ส.ค. 61)

อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดการรัฐประหาร หุ้นหลายกลุ่มได้รับผลกระทบมากน้อยแตกต่างกันไปนะคะ อย่างเช่น กลุ่มท่องเที่่ยว-สายการบิน-สนามบิน ที่อาจชะงักงันเล็กๆ หรือจะเป็นกลุ่มส่งออก (บางประเทศมองว่าไม่เป็นประชาธิปไตย) หรือเหมือนอย่างที่บล.เอเซีย พลัส เคยระบุว่า กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ได้รับผลกระทบโดยตรงเนื่องจากนักธุรกิจอาจหยุดเดินทาง และเจรจาการค้า…(อ้างอิงเว็บไทยรัฐ 23 พ.ค.57)

ผ่านมา 13 ครั้งแล้ว จะมีครั้งที่ 14 หรือไม่? ใครจะตอบได้ล่ะค้าาา นอกจากขุนทหารเท่านั้น ..อิป้าได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้เกิดอีกเลยคะ..ไปละบ๊ายย

———————————-

ติดตามที่ :

#หุ้น #กองทุนรวม #fund #set #Mutualfund #epahamalao #อิป้าหามาเล่า #ตลาดหุ้น #ตลาดหุ้นไทย #mai #ลงทุน #ออมเงิน

Facebook Comments