เลือกตั้ง

มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า ขอตีปี๊ปหน่อยค่ะ มีสิทธิ์แล้วต้องใช้ค่ะ แต่การ เลือกตั้ง ครั้งนี้ ต้องบอกว่า คนออกแบบรัฐธรรมนูญ “ป๋ามีชัย” นี้เหลือเกินค่ะ ลึกลับ ซับซ้อน ดังนั้นน่าจะมีเรื่องระทึกตามมาหลังเลือกตั้ง

1.จากสถิติการเลือกตั้ง 5 ครั้งหลังสุดหลังจากวันเลือกตั้ง (วันอาทิตย์) เปิดมาวันจันทร์ตลาด SET บวกทุกครั้ง…ย้ำว่าทุกครั้งค่ะ และหลังการเลือกตั้ง 1 เดือน ส่วนใหญ่จะเป็นบวก ยกเว้นปี 50 ที่ติดลบ แต่ระยะยาว 3 เดือน 6 เดือน ส่วนใหญ่จะวูบติดลบ

2. จากสถิติย้อนหลัง หลังเลือกตั้งแล้วหุ้นกลุ่มค้าปลีก-รับเหมา-นิคมอุตสหกรรม จะยืนระยะบวกรัวๆได้อีกราว 2-3% ภายหลังการเลือกตั้ง 1-3 เดือน..โดยนักวิเคราะห์ แย้มบอกมาหลายตัว ที่เด่นๆ เช่น CPALL (บมจ.ซีพี ออลล์) BJC (บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์) AMATA (บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน)

3.หลังเลือกตั้งสงบยาก…ในเชิงจิตวิทยาแล้ว หลังเลือกตั้งทั่วไปจบจนถึงการฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาลใหม่ (ในเวลาไม่นาน) ในช่วงนี้หุ้นจะขึ้น แต่เลือกตั้งครั้งนี้ ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา ใส่ไข่ 20 ฟอง ด้วยกลไกทางกฎหมายรัฐธรรมนูญ 2560 ที่สลับซับซ้อน ซ่อนเงื่อนทำให้หลังเลือกตั้งครั้งนี้ ยากที่จะสงบราบเรียบค่ะ (พรรคได้เสียงที่ 1 ไม่ได้จัดรัฐบาล อิอิ)

4.ไปดูไทม์ไลน์หลังเลือกตั้ง…หลัง 24 มี.ค.รู้ว่าใครมาที่1-2-3 ได้เสียงเท่าไร ช่วงนี้วิ่งกันขาขวิดต่อรองดีลอำนาจกันไป จน กกต. ประกาศผลการเลือกตั้งให้ทันภายใน 9 พ.ค. … จากนั้น11 พ.ค. ประกาศชื่อวุฒิสภา 250 คน ..ต่อมาเปิดประชุมสภาครั้งแรก เพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้องเกิดขึ้นไม่ช้ากว่าวันที่ 23 พ.ค. จากนั้นรอโปรดเกล้าชื่อประธานสภาลงมา และประธานสภานัดวันเลือกนายกฯ คาดจะเดือนถัดไป

5.จากไทม์ไลน์หลังเลือกตั้งนี้ สรุปง่ายๆ คือ ประเทศเราจะมีนายกคนใหม่ประมาณเดือน มิ.ย. 62 ซึ่งตรรกะนี้หมายถึงกรณีที่ พรรคพลังประชารัฐของลุงตู่ มาที่ 1 หรือที่ 2 และคะแนนไม่ขาดกันมาก แต่ถ้าแหกโผ เพื่อไทยแลนด์สไลด์ ถล่มทลาย หรือประชาธิปัตย์ มาที่ 2 พลังประชารัฐ หล่นเป็นที่ 3 อันนี้ น่าจะวุ่นวายหนัก …ช่วงพ.ค.-มิ.ย. ตลาดหุ้น น่าจะดิ่งเหวจากความไม่ชัดเจน

6.นอกจากนี้แล้ว อำนาจของนายกลุงตู่จะมีจนถึงมีการโปรดเกล้านายกฯคนใหม่ แต่ อะอะ อำนาจ หัวหน้าคสช. ยังไม่หมดนะคะ คณะรัฐมนตรีของลุงตู่ ก็ยังไม่หมด จะไปหมดลงต่อเมื่อครม.ชุดใหม่ถวายสัตย์ เข้าทำงาน นั้นแหละคะ (ปลายมิ.ย-ก.ค.) …และตรองดูหากนายกฯกับหัวหน้าคสช.เป็นคนละคนกัน มันจะตรึงขึ้งเครียดแค่ไหน

7. “จากการจับขั้วทางการเมือง มีความเป็นห่วงประเด็นเงื่อนเวลาการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ คือหลังเลือกตั้งจะเปิดสภาได้ในเดือนมิ.ย.หรือไม่ ทั้งนี้ ทำให้นักลงทุนเริ่มกังวลเพราะเหมือนว่าในไตรมาส 2 จะยังไม่เห็นภาพรัฐบาล จึงไม่ชัดเจนในเรื่องความต่อเนื่องของนโยบาย เกิดผลกระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุน”…(นายอมรเทพ จาวะลา ผู้บริหารงานวิจัย สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย www.posttoday.com)

8. “การเมืองหลังการเลือกตั้งจะเป็นเช่นไร เป็นรัฐบาลที่ต่อเนื่องจากรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ มีผลกับการขับเคลื่อนนโยบายของประเทศ รวมถึงการสานงานที่รัฐบาลชุดปัจจุบันดำเนินการอยู่ รวมถึงเสถียรภาพของรัฐบาลจะมั่นคงพอให้ภาคเอกชนกลับมาลงทุนอีกครั้งหรือไม่” ….(กิจพล ไพรไพศาลกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) https://voicetv.co.th )

9. “ฝรั่งถามตลอดว่า จะจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ จะมีการเดินขบวนไหม นักลงทุนไม่สนใจใครจะมาเป็นรัฐบาล ขอแค่ความมั่นคงและความมั่นใจทั้งในตลาดทุนและลงทุนโดยตรง”…”โอกาสหุ้นฟื้นหลังเลือกตั้งมีประการเดียวคือจัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งจะเป็นปีหรือสองปีก็ได้ แต่ขอให้คาดหวัง และพึ่งพาได้”…(นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย- เว็บกรุงเทพธุรกิจ11 มี.ค.62)

10.เลือกตั้งครั้งนี้้ มีคนขายฝันเยอะค่ะ…หนึ่้งในนั้น”หล่อโย่ง” ขุ่นพี่กรณ์ จาติกวณิช อดีตขุนคลังค่าย ประชาธิปัตย์ กระชุ่น ใน 4 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ 2,500 จุด สะท้อนถึงการประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจ, ตั้งเป้าบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่มีผลประกอบการที่มาจากการค้ากับต่างประเทศ มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 50%..(อ้างอิงเว็บกรุงเทพธุรกิจ 25 ม.ค.62 )

อย่างไรก็ตาม วงการการเมืองยังคงดำเนินต่อไป เสถียรภาพมาเร็วเท่าไร ความเชื่อมั่น ก็ตามมาคะ สมหวังในการลงทุนนะคะ…วันนี้ไปละคะ บ๊ายย

Facebook Comments