ดาวนภา

มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า ช่วงก่อนนำเสนอ “10 อันดับ เศรษฐีนีรวยหุ้นที่สุดในไทย!” ไปแล้ว วันนี้จะพาไปลงรายละเอียด ดูปูมประวัติชีวิตของ สุดยอดนางพญาหุ้นเมืองไทยกันคะ “ดาวนภา เพชรอำไพ ” วัย 65 กะรัตเจ้าแม่ MTC ผู้อยู่เคียงข้างและปลุกปั้นธุรกิจมาพร้อมๆ กับคู่ชีวิต “เจ้าสัวชู-ชูชาติ เพ็ชรอำไพ”

“Fobes Thailand Magazine ” ให้นิยามกับสามีภรรยาคู่นี้ว่า “ชูชาติ เพ็ชรอำไพ และดาวนภา เพชรอำไพ สองสามีภรรยาทำงานเก็บเงินได้ 100 ล้าน ตั้งแต่อายุไม่ถึง 40 ทั้งคู่เดิมพันชีวิตสร้างธุรกิจด้วย “เงินต่อเงิน” ปล่อยเงินกู้ในนามเมืองไทย ลิสซิ่ง จนเป็นมหาเศรษฐีหมื่นล้าน” …(อ้างอิงเว็บFobes Thailand 18 พ.ย. 59)

โดย “ดาวนภา” นั่งอยู่ในตำแหน่งกรรมการบริหาร และมีชูชาติ อายุ 66 ปี นั่งเป็นประธานกรรมการบริหาร ซึ่งก่อนหน้านี้แล้ว “ดาวนภา” แทบจะไม่ปรากฏตัวผ่านสื่อใดมาก่อน เพราะต้องการเป็น “nobody” มากกว่า “somebody” เพื่อคงชีวิตที่เรียบง่าย ทั้งๆ ในความเป็นจริง เธอเป็นฟันเฟื่องสำคัญ ยืนเคียงข้างสามี ผลักดันให้ MTLS ยืนโดดเด่นอย่างสง่าในอุตสาหกรรมในทุกวันนี้ (อ้างอิงเว็บFobes Thailand 18 พ.ย. 59)

“ดาวนภา” เกิดที่สุโขทัยเป็นลูกสาวเจ้าของโรงสีในเมือง (อ้างอิงดอกเบี้ยรายเดือน พค. 60 ) เป็นเด็กเรียนหนังสือเก่งอยู่ในอันดับ 2-3 ของจังหวัด เป็นคนไม่ทะเยอทะยาน ความฝันสูงสุดในชีวิตคือ เข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเรียนต่อปริญญาโท ไม่เคยคิดว่าจะร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี เธอบอกว่า เป็นคนโชคดี ได้ทำในสิ่งที่รักมากกว่า ความร่ำรวยเกิดตามมาจากการมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่ (อ้างอิงเว็บFobes Thailand)

เมื่อเรียนจบได้งานที่ธนาคารกสิกรไทยสาขาอำเภอเมืองสุโขทัย และได้พบกับเนื้อคู่ “ชูชาติ” ในที่ทำงานจากนั้นทั้ง 2 คนเริ่มธุรกิจรับซื้อบัญชีลูกหนี้ (factoring) มาบริหารซึ่งเป็นลูกหนี้จากการผ่อนรถมอเตอร์ไซค์ (อ้างอิงเว็บFobes Thailand)

จากนั้นก็เปิดบริษัท ดี.เอส. ลิสซิ่ง จำกัด (Direct Sales Leasing แต่บางคนแซวว่า D คือ ดาวนภา S คือ ชูชาติ) ในปี 2535 ทำธุรกิจปล่อยสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์จากบริษัทเล็กๆ ด้วยเงินลงทุนเริ่มแรกเพียง 50,000 บาท เมื่อ 25 ปีก่อน …”ชูชาติ” เคยเล่าว่า นั่นคือจุดเริ่มต้น ที่ใช้เงินลงทุนต่อมาขอโอดีกับเตี่ยของแฟนประมาณ 1 แสน แล้วก็ค่อยๆ สะสม เพิ่มพูนมาเรื่อยๆ สร้างกันเองกับภรรยา …(อ้างอิงเว็บ ดอกเบี้ยรายเดือน พค. 60 )

ต่อมาปี 2544 ที่ชูชาติ-ดาวนภา เพ็ชรอำไพ ตัดสินใจยกเลิกการประกอบธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เริ่มให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถเพื่อการเกษตร และที่สำคัญคือ ตกลงตัดสินใจลาออกจากการเป็นพนักงานแบงก์ และมาทุ่มเททำกิจการตัวเองให้เต็มที่เพราะมันขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัทเมืองไทย ลิสซิ่ง (อ้างอิงเว็บ ดอกเบี้ยรายเดือน พค. 60)

ต่อมาเมื่อปี 2557 ตัดสินใจนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยหุ้น MTLS ได้รับอนุมัติให้ซื้อขายในกระดานหุ้นวันแรกเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2557 เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปหรือ IPO ที่ราคาหุ้นละ 5.50 บาทต่อหุ้น (อ้างอิงเว็บ ดอกเบี้ยรายเดือน พค. 60) จากนั้น MTLS -เมืองไทยลิสซิ่ง เปลี่ยนชื่อเป็น MTC – บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) เมื่อมี.ค.61(ราคาล่าสุด ของ MTC 49.25 บาท ณ 4 ธ.ค.61)

“ชูชาติ” ชม “ดาวนภา” ไว้อย่างน่าสนใจว่า “ภรรยามีสัญชาตญาน รู้ว่าใช่ ไม่ใช่ นี่ทำ นี่อย่าทำ” …Fobes Thailand ระบุว่า จุดเด่นของดาวนภา ที่ชูชาติไม่มีคือ “สัญชาตญาน” ในการทำธุรกิจและความคิดริเริ่มทำธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ อย่างเช่น ริเริ่มขยายสินเชื่อเข้าสู่สินเชื่อโฉนดที่ดิน หรือแม้แต่ช่วงจบใหม่ เขาคิดหาธุรกิจที่จะทำ โดยส่วนตัวที่เป็นผู้ชาย ชูชาติก็คิดว่าน่าจะทำธุรกิจก่อสร้าง (อ้างอิงเว็บFobes Thailand)

แต่ดาวนภาก็แย้งว่า เป็นธุรกิจที่ “ไม่ใช่” ตัวของเขา ตัวอย่างที่ชัดเจนอีกเรื่องก็คือ วันที่บริษัทเข้าซื้อขายหุ้นในวันแรกราคาหุ้นบริษัทดีดตัวขึ้นสูง จนทุกคนมีความสุขกัน ถ้วนหน้า แต่สำหรับดาวนภา ตั้งคำถามกลับว่า ท้ายสุดแล้ว ลูกค้าเราได้อะไร? ทุกคนงง เธอประกาศทันทีจากนั้นที่จะลดดอกเบี้ยและค่าบริการต่อเดือนให้ลูกค้าจาก 1.25% เหลือ 1.19% เป็นการตอบแทน (อ้างอิงเว็บFobes Thailand)

ดาวนภา ต่างจากชูชาติ เป็นคนที่อธิบายไม่เก่ง ไม่ชอบพบปะสังสรรค์ มีโลกส่วนตัวชอบชีวิตธรรมดา มุ่งมั่นทำงาน จึงรับบทเป็นสตรีหลังบ้าน ดูรายละเอียดงานและช่วยขับเคลื่อนบริษัท(อ้างอิงเว็บFobes Thailand)

“ดาวนภา” มีลูก 2 คน บูม-ปริทัศน์ เพ็ชรอำไพ บุตรคนเล็ก จูงมือ น้ำฝน วัฒนชัย หลานสาวคนสวย องคมนตรี ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย บุตรี อดีตรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พันธุ์ชัย-กรวรรณ วัฒนชัย เข้าประตูวิวาห์ไป เมื่้อ 23 มี.ค. 56 (อ้างอิงเว็บ แนวหน้า) ซึ่งหนุ่มบูม-ปริทัศน์ นั้นมีเพื่อนชี้ชื่อ “สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ” บิ๊กบริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ที่เคยร่วมพัฒนาอสังหาร่วมกัน

ด้านการแบ่งปันสังคมนั้น “ดาวนภา” และครอบครัวบริจาคเงินให้กับหลายองค์กร โดยเฉพาะที่บ้านเกิด เช่น สร้างอาคาร “จิตเมตตา” อาคารอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน 40 ล้านบาท ให้ รพ.สุโขทัย และ ซื้อเครื่องฟอกไต และปรับปรุง รพ.สุโขทัย 50 ล้านบาทในปีต่อมา นอกจากนั้นยังให้ทุนนักศึกษาพิการ ปีละ 1 แสนบาทต่อคน ส่งเรียนจนจบ ฯลฯ

และวันนี้ “ดาวนภา” ยังคงลอยเด่นเป็น “ดาว” กลาง “นภา” เป็นที่สุดของเศรษฐนีหุ้นเมืองไทยนั้นเองคะ…ไปละบ๊ายย

Facebook Comments