มาแล้วค่ะ อิป้าหามามาเล่า วันนี้จะพาไปส่องหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีแววสดใสหลังผลประกอบการไตรมาส 2 ทำกำไรเติบโตถ้วนหน้า อีกทั้งภาคการผลิตทั่วโลกฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ
1.DELTA (บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย)) มาร์เกตแคป 223,281 ล้านบาท
สิ้นปี 62 ปิดที่ 53.50 บาท ณ วันที่ 7 ต.ค.63 ปิดที่่ 179.00 บาท เพิ่มขึ้น 125.50 บาท หรือ 234.57%
ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านการจัดการระบบกำลังไฟฟ้า รวมถึงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ พัดลมอิเล็กทรอนิกส์, อีเอ็มไอ ฟิลเตอร์ และโซลินอยด์
2.KCE (บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์) มาร์เกตแคป 39,964 ล้านบาท
สิ้นปี 62 ปิดที่ 24.50 บาท ณ วันที่ 7 ต.ค.63 ปิดที่่ 34.00 บาท เพิ่มขึ้น 9.50 บาท หรือ 38.77%
ผลิตและจำหน่ายแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์ PCB และผลิตแผ่น PCB หลายชั้น ซึ่งเป็นชิ้นส่วนพื้นฐานสำคัญในการประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องมือสื่อสารโทรคมนาคม
3.HANA (บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส) มาร์เกตแคป 35,817 ล้านบาท
สิ้นปี 62 ปิดที่ 34.50 บาท ณ วันที่ 7 ต.ค.63 ปิดที่่ 44.50 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท หรือ 28.98%
ให้บริการผลิตผลิตภัณฑ์อิเล็คทรอนิกส์แบบครบวงจร (Electronic Manufacturing Service-EMS)
4.CCET (บมจ.แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย)) มาร์เกตแคป 10,385 ล้านบาท
สิ้นปี 62 ปิดที่ 1.86 บาท ณ วันที่ 7 ต.ค.63 ปิดที่่ 2.28 บาท เพิ่มขึ้น 0.42 บาท หรือ 22.58%
ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อีเล็คโทรนิคส์ในรูปแบบของ Electronics Manufacturing Services (EMS) โดยมีกลุ่มลูกค้าหลัก 2 ประเภทคือ อุปกรณ์ประกอบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม
5.SVI (บมจ.เอสวีไอ) มาร์เกตแคป 10,699 ล้านบาท
สิ้นปี 62 ปิดที่ 3.60 บาท ณ วันที่ 7 ต.ค.63 ปิดที่่ 4.72 บาท เพิ่มขึ้น 1.12 บาท หรือ 31.11%
ธุรกิจประกอบผลิตภัณฑ์ประเภทวงจรไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำเร็จรูป มีพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ ถือหุ้นใหญ่สุด มีบอร์ดนามสกุลดัง ๆ เช่นบุญสัมพันธ์ ,เจียรวนนท์ , บุนนาค ,บุณยรัตพันธุ์, สวัสดิ์ชูโต
6.NEX (บมจ.เน็กซ์ พอยท์) มาร์เกตแคป 7,636 ล้านบาท
สิ้นปี 62 ปิดที่ 2.90 บาท ณ วันที่ 7 ต.ค.63 ปิดที่่ 4.56 บาท เพิ่มขึ้น 1.66 บาท หรือ 57.24%
ผลิตและรับจ้างผลิตชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ที่มีขนาดเล็ก มีความเที่ยงตรงสูง ตามคำสั่งซื้อของลูกค้า ,ให้เช่ารถบัสโดยสารทางการเงิน ,ลงทุนในบริษัทย่อย
7.METCO (บมจ.มูราโมโต้ อีเล็คตรอน (ประเทศไทย)) มาร์เกตแคป 3,427 ล้านบาท
สิ้นปี 62 ปิดที่ 174.00บาท ณ วันที่ 7 ต.ค.63 ปิดที่่ 164.00 บาท ลดลง 10.00 บาท หรือ -5.74%
ผลิตชิ้นส่วนโลหะและพลาสติกของอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดเสียงและภาพ และอุปกรณ์อีเล็คโทรนิกส์สำหรับยานยนต์ และชิ้นส่วนอุปกรณ์สำนักงานอัตโนมัติ
8.SMT (บมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย)) มาร์เกตแคป 2,476 ล้านบาท
สิ้นปี 62 ปิดที่ 1.17 บาท ณ วันที่ 7 ต.ค.63 ปิดที่่ 2.96 บาท เพิ่มขึ้น 1.79 บาท หรือ 152.99%
รับจ้างผลิตและประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ มี MORGAN STANLEY & CO. INTERNATIONAL PLC ถือหุ้นใหญ่ นอกนั้นเป็นคนในครอบครัว ไชยกุล
9.W (บมจ.วาว แฟคเตอร์) มาร์เกตแคป 2,564 ล้านบาท
สิ้นปี 62 ปิดที่0.04 บาท ณ วันที่ 7 ต.ค.63 ปิดที่่ 0.21 บาท เพิ่มขึ้น 0.17 บาท หรือ 425.00%
ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอะไหล่อิเล็คทรอนิคส์ ซึ่งเป็นผู้ออกแบบผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำประเภทไดโอดที่เป็นอุปกรณ์พื้นฐานในวงจรอิเล็กทรอนิกส์สำหรับอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า
10.TEAM (บมจ.ทีมพรีซิชั่น) มาร์เกตแคป 573 ล้านบาท
สิ้นปี 62 ปิดที่ 0.87บาท ณ วันที่ 7 ต.ค.63 ปิดที่่ 0.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท หรือ 3.44%
ออกแบบ ผลิต ประกอบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCBA) และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำเร็จรูป รวมทั้งให้บริการจัดหาวัตถุดิบและจัดส่ง ธุรกิจของครอบครัว มานัสสถิตย์
อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มนี้อาจไม่เป็นนิยมของนักลงทุนมากนัก มีเพียง 2-3 ตัวที่โดดเด่น เช่นDELTA-KCE-HANA วันนี้ไปล่ะค่ะ บ๊ายย
