มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า ช่วงปลายสัปดาห์อย่างนี้จะพาไปอ่านเรื่องสนุกๆ กันนะคะ ไปดูว่าผู้บริหารหุ้นดังๆ คนไหนที่ร่ำเรียนจบมาทางด้าน “รัฐศาสตร์” แต่พลิกผันหันมาทำธุรกิจจนโด่งดัง

1.สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ “เฮียฮ้อ” จบปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ โครงการศิลปศาสตรบัณฑิตภาคพิเศษ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งมาได้ใบปริญญญาตอนหลัง

“ผมเรียนจบแค่ มศ.5 จากโรงเรียนสีตบุตรบำรุง โตมาแถวโคลีเซี่ยม เป็นเด็กเกเรสอบตกตลอด พอพี่ชายคนโต “เฮียจั๊ว” ออกมาเปิดธุรกิจเล็กๆ “Rose Sound” อัดเพลงจากแผ่นเสียงลงตลับเทปขาย ผมเลยออกจากโรงเรียนมาช่วยพี่ชาย ผมชอบทำงานตั้งแต่เด็ก จะคิดอย่างเดียวคืออยากรวย!! เพราะครอบครัวยากจน พ่อเป็นช่างทาสี และแม่เป็นแม่บ้าน ผมเป็นคนสุดท้ายเสมอที่โดนทวงค่าเล่าเรียน” (อ้างอิงไทยรัฐ19 เม.ย.58)

ปัจจุบัน เฮียฮ้อเป็นประธานกรรมการบริหาร RS (บมจ.อาร์เอส) เป็นน้องชายของ เกรียงไกร เชษฐโชติศักดิ์ หรือ เฮียจั๊วะ 2 พี่น้องผู้ปลุกปั้น RS จากค่ายเพลง สู่อาณาจักร สื่อ-เครื่องสำอาง ฯลฯ

และเฮียฮ้อ ถือหุ้น ใน RS 366,300,000 หุ้น หรือ 36.26% และให้ลูกชาย และลูกสาวถือด้วยคือ น.ส.ธิดารัตน์ เชษฐโชติศักดิ์ ถือ 5,080,900 หุ้น หรือ 0.5% และนายเชษฐ เชษฐโชติศักดิ์ ถือ 9,227,101 หุ้น หรือ 1.9% รวมมูลค่า 3 คน เท่ากับ 5,937,484,815 บาท (ราคา 15.60 บาท ณ 9 ส.ค.62)

2.กิตติ ธนากิจอำนวย วัย 63 ปี เขาเป็น “สิงห์ดำ” จบปริญญาตรี สาขารัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กิตติสมรสกับ คุณแหมว -นาง อมรพิมล วัย 55 ปี ซึ่งเป็นบุตรีของ ดร.อำนวย วีรวรรณ อดีตรองนายกฯ และอดีตประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพ กับคุณหญิงสมรศรี วีรวรรณ และคุณแหมว เป็นพี่สาวของคุณบอย-นายถกลเกียรติ วีรวรรณ คนดังวงการบันเทิงนั่นเองค่ะ

นอกจากนี้เขายังเป็น เจ้าของรีสอร์ทหรูเขาใหญ่ คีรีมายา , มุตติ มายา รีสอร์ท high-end ในเขาใหญ่ ซึ่งเดิมคีรีมายานั้นเป็น สนามกอล์ฟของธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ ที่มีปัญหา เลยถูกนำออกมาประมูล และกิตติประมูลได้และปรับปรุงสนามกอล์ฟ พร้อมสร้างคีรีมายา ในพื้นที่ 1,200 ไร่ จนโด่งดัง

ปัจจุบัน ถือหุ้นใน NOBLE (บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์) อับดับที่ 3 (21,490,973 หุ้น หรือ 4.71%) มูลค่า 459,906,822 บาท (ราคา 21.40 บาท ณ 9 ส.ค.62) โดยมีบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อผู้ฝากถือใหญ่อันดับ 1 (199,736,686 หุ้น หรือ 43.76%)

3.นายพิชิต วิวัฒน์รุจิราพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NETBAY (บมจ.เน็ตเบย์) จบปริญญาตรีศิลปศาสตร์บัณฑิต คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และรัฐศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาการจัดการทางการเมือง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นผู้ก่อตั้ง NETBAY เดิมทำธุรกิจ เครื่องพิมพ์ แต่พอถึงขาลง เลยโดดเข้าสู่วงการไอที ทั้งๆ ที่ไม่มีความรู้เลยแม้แต่น้อย

เขายอมควักเงินหลักแสน เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ช่วงที่เครื่องพีซีเข้ามาเมืองไทยใหม่ๆ และมี “บิล เกตส์” เป็นไอดอล เขาอ่าน Business @ The Speed of Thought เมื่ออ่านจบทำให้รู้ว่า หากไม่รีบปรับตัวให้ทันโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราจะเป็นคนหนึ่งที่โดนกระแส Disruption เล่นงานเข้าสักวัน สุดท้ายตกผลึกทางความคิดว่า “ถ้าอยากชนะ ต้องกล้าแตกต่าง” (อ้างอิง http://knowledge.bualuang.co.th 15 ก.พ.62)

ปัจจุบัน เขาถือ NETBAY อันดับ 1 (101,999,990 หุ้น หรือ 51.00%) มูลค่า 3,187,499,687 บาท (ราคา 31.25 บาท ณ 9 ส.ค.62)

4.นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ปริญญาตรีรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คาราบาวกรุ๊ป เขาติดทำเนียบ 50 มหาเศรษฐีไทยเป็นครั้งแรก หลังจากนำ CBG (บมจ.คาราบาวกรุ๊ป) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยมูลค่าบริษัทกว่า 4.2 หมื่นล้านบาท โดยเขาอยู่ในลำดับที่ 36 มูลค่า ทรัพย์สิน 860 ล้านเหรียญ หรือ 2.74 หมื่นล้านบาท (อ้างอิง forbesthailand.com)

ปี 2562 เขาพุ่งเป้าไปที่ “ตลาดจีน” อีกครั้งดัน “ร่มธรรม เศรษฐสิทธิ์” บุตรชายเป็นซีอีโอ แทนผู้บริหารเดิมที่เป็นคนจีนเปลี่ยนยุทธศาสตร์ลุกช่องทางจำหน่ายในปั้มน้ำมันตลาดจีนกับ “ซิโนเปก” เจ้าของปั๊มน้ำมันรายใหญ่ในจีน ที่มีสาขากว่า 20,000 สาขาทั่วประเทศ (อ้างอิง forbesthailand.com)

ปัจุจบันเสถียร ถือ CBG ลำดับที่ 4 (48,474,100 หุ้น หรือ 4.85%) มูลค่า 3,562,846,350 บาท (ราคา73.50 บาท ณ 9 ส.ค.62) มีบริษัท เสถียรธรรมโฮลดิ้ง จำกัด น.ส. ณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ และแอ็ด คาราวบาว ถือหุ้นในลำดับ1-3

5.นายทวีฉัตร จุฬางกูร ปริญญาตรี รัฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จบปริญญาโทไฟแนนซ์จาก Webster University เป็นลูกของ “สรรเสริญ จุฬางกูร” และเขาเป็นหลานชายของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และเป็นลูกพี่ลูกน้อง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” (สรรเสริญ จุฬางกูร มีลูกชาย 6 คน คือ “อภิชาติ-ทวีฉัตร-ณัฐพล-กรกฤช-วุฒิภูมิ-อัครพงษ์” ขณะที่สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มีลูก 5 คน “ธนาธร-สกุลธร-บดินทร์ทร-ชนาพรรณ-รุจิรพรรณ”

ทวีฉัตรลงทุนในตลาดหุ้นตั้งแต่อายุ 18 ปี โดยนำหุ้นไอพีโอที่ได้รับมาจากพ่อและแม่ไปขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ และปี 44 ได้รับการจัดสรรหุ้นไอพีโอ PTT จำนวน 2.2 ล้านหุ้น มูลค่า 77 ล้านบาท เทคนิคการลงทุนส่วนตัว เขาจะแบ่งพอร์ตเป็น 2 ส่วน คือ หุ้นพื้นฐานลงทุนระยะยาว ที่จะต้องผ่านการทำการบ้านอย่างหนัก และอีกส่วนเอาไว้ลงทุนตามเทคนิค (อ้างอิง http://www.thansettakij.com 10 มิ.ย. 60)

ปัจุจบัน เขาถือหุ้น 40 ตัว อาทิเช่น AIRA,BEC ,GRAMMY,ITD,MALEE ,NOK,OISHI,SE-ED,SUSCO,TVT ฯลฯ รวมๆ แล้วนับหมื่นล้านบาท

6.นายณัฐภพ รัตนสุวรรณทวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NFC (บมจ.เอ็นเอฟซี) จบปริญญาตรี ศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโทศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง จากเดิม บริษัท ปุ๋ยแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ต่อมา ปี 60 บริษัทได้ทำการล้างขาดทุนสะสมด้วยการลดมูลค่าหุ้น เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “บริษัท เอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน)” เลิกทำปุ๋ย เดินหน้า ธุรกิจ ปิโตรเคมีฯ

ปัจุจบันเขาถืออยู่ 2 ตัวคือ คือ 1.NFC (690,329,994 หุ้น หรือ 63.46%) มูลค่า 2,498,994,578 บาท (ราคา3.62 บาท ณ 9 ส.ค.62) 2.WIN (บมจ.สวนอุตสาหกรรม วินโคสท์) 7,622,200 หุ้น หรือ 1.36% มูลค่า 3,658,656 บาท (ราคา 0.48 บาท ณ 9 ส.ค.62) รวม 2 ตัว มูลค่า 2,502,653,234 บาท

7.นางสาวดวงใจ แก้วบุตตา วัย 39 ปี กรรมการ SAWAD (บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น) ปริญญาตรี รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปริญญาโท วิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเดอพอล สหรัฐอเมริกา ดวงใจเป็นพี่สาวของธิดา แก้วบุตตา หรือ “ไนล์” โดยพ่อของเธอ ฉัตรชัย แก้วบุตตา ติดอันดับ 32 ในทำเนียบ 50 มหาเศรษฐีไทย ทรัพย์สิน 1 พันล้านเหรียญฯ หรือ 3.19 หมื่นล้านบาท (อ้างอิง forbesthailand.com)

ปัจุจบัน ดวงใจ ถือ SAWAD อันดับ 3 (88,141,959 หุ้น หรือ 7.32%) มูลค่า 4,451,168,929 บาท (ราคา 50.50 บาท ณ 9 ส.ค.62)

และนี้คือ 7 คนที่เรียนมาทางด้านรัฐศาสตร์ แต่มาบริหารธุรกิจ ทั้งที่เป็นของครอบครัว และที่ก่อตั้งขึ้นมาเอง วันนี้ไปล่ะค่ะ บ๊ายย

Facebook Comments