มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า วันก่อนแวบเห็นข่าวสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ออกมากระชุ่น ว่า อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ปีนี้คาดโตพรวด 10% รับอานิสงส์การส่งออกไทยที่เติบโตและคนไทยนิยมสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ทำให้แม่ค้า ขายออนไลน์ ต้องใช้บรรจุภัณฑ์เพิ่ม ฉะนั้นแล้วอิป้าเลยจะพาไปส่องในแวดวงของ อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์กันค่ะว่า หุ้นตัวไหนที่น่าจะดี้ด้าไปด้วย
“เราพบว่า คนไทยมีความนิยมในการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น และช่วงเทศกาลปีใหม่ก็มีแนวโน้มจะมีการสั่งซื้อเพื่อมอบเป็นของขวัญด้วยเช่นกัน ซึ่งการส่งของถึงสถานที่ดังกล่าวทำให้ต้องมีการใช้บรรจุภัณฑ์มากขึ้น และคาดว่าแนวโน้มของบรรจุภัณฑ์จะยังคงเติบโตต่อเนื่องในปี 2562 และคาดว่าสัดส่วนของตลาดบรรจุภัณฑ์เมื่อเทียบกับการพิมพ์น่าจะสูงขึ้นเช่นกัน” (อ้างอิง เว็บ mgronline)
นั้นเป็นคำกล่าวของ นายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และในฐานะประธานกิตติมศักดิ์ กลุ่มอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ ที่ออกมายืนยันถึงแนวโน้มของธุรกิจหมวดนี้น่าจะมีอนาคตสดใส
ซึ่งตรงนี้ไปสอดคล้องกับผลวิจัยของศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่ระบุว่า การขยายบทบาทของการค้าออนไลน์ ส่งผลให้ความต้องการบรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่งจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง (Business to Consumer : B2C) หรือบรรจุภัณฑ์ตติยภูมิ (Tertiary Packaging) เช่น กล่องกระดาษแข็ง กล่องพัสดุไปรษณีย์ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการผลิตเพื่อตอบสนองผู้ประกอบการ E-Commerce รายกลางและรายเล็กหรือ SME ที่มีจำนวนมาก
และยิ่งเฉพาะ การใช้กระดาษบรรจุภัณฑ์ถูกจับตาอย่างมากคะ เมื่อตลาดค้าออนไลน์ ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญ แทบจะกลืนการช้อปปิ้งแบบเดิมๆ ไปแล้ว ซึ่งไปดูว่ามีหุ้นตัวไหนที่น่าสนใจกันบ้างคะ
ตัวแรก UTP (บมจ.ยูไนเต็ด เปเปอร์) ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายกระดาษคราฟท์สำหรับผู้ผลิตกล่องกระดาษ และบรรจุภัณฑ์ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ กระดาษคราฟท์สำหรับทำผิวกล่อง และทำลอนลูกฟูกซึ่งหลายสำนักคาดการถึงโอกาสเติบโตจากเทรนด์ของธุรกิจ e-commerce ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้กล่องบรรจุภัณฑ์จำนวนมาก
UTP นั้นมีมาร์เกตแคป 6,890.00 ล้านบาท P/E 10.10 P/BV 2.78 มีนาย วัชชระ ชินเศรษฐวงศ์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และอุปนายกสมาคมอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษไทย ถือหุ้นใหญ่สุด คือ 81,962,730 หุ้น หรือ 12.61% นอกจากนี้ยังมีนางอัจฉรา ชินเศรษฐวงศ์ ถือ 9.34% และมีนายชิน ชินเศรษฐวงศ์ ถือ 9.06% และมี นายมงคล มังกรกนก เป็นกรรมการผู้จัดการ
ไปดูผลงานไตรมาส 3/61 มีผลกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น 273,451,386.84 บาท คิดเป็น 40.4% เมื่อเปรียบเทียบกับรอบปีที่ผ่านมา หรือเพิ่มขึ้น 11,784,003.54 บาท คิดเป็น 1.3% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 125,075,861.39 บาท คิดเป็น 127% เมื่อเปรียบเทียบกับรอบปีที่ผ่านมา (อ้างอิงเว็บข่าวหุ้น)
ตัวต่อมา SCC (บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย) พี่เบิ้มที่เมื่อต้นปี 61 กลุ่มสยามบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง เอสซีจี แพคเกจจิ้ง 70% กับบริษัทเรนโก้ (Rengo) ประเทศญี่ปุ่น 30% เข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติม บริษัท ไดน่า แพคส์ จำกัด และ บริษัท โอเรียนท์คอนเทนเนอร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูก
และล่าสุดทางคณะกรรมการบริษัท SCC เพิ่งอนุมัติให้ขยายการลงทุนในกิจการกระดาษบรรจุภัณฑ์ในประเทศฟิลิปปินส์ โดยจะใช้เงินลงทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 5,115 ล้านบาท ครอบคลุมค่าเครื่องจักร ค่าก่อสร้าง ค่าใช้จ่ายทางการเงิน และเงินทุนหมุนเวียน คาดว่าโครงการดังกล่าวจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 4 ปี 2563 (อ้างอิงเว็บทันหุ้น)
สำหรับอุตสาหกรรมการพิมพ์นั้นภาพรวมการเติบโตปีนี้น่าจะทรงตัวใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่สิ้นปีนี้จะได้รับอานิสงส์ของการเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ที่บริษัทห้างร้านขนาดใหญ่ได้มีการสั่งทำปฏิทินปี 2562 (อ้างอิง เว็บ mgronline)รวมไปถึงเทศกาลเลือกตั้งในปี 62 อาจจะช่วยดัน ธุรกิจสิ่งพิมพ์ได้เล็กๆ นั้นเองคะ
อย่างไรก็ตาม การซื้อ-ขายออนไลน์ นับวันจะโตขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้นหุ้นบรรจุภัณฑ์ (กระดาษ) น่าจะพอมีลุ้นเล็กๆ ได้คะ…ไปละบ๊ายย
ขอบคุณภาพจาก blog.belltastudio , smethailandclub
