epahamalao

บลจ.พรินซิเพิล เปิดตัวกองทุน ‘พรินซิเพิล โกลบอล แบรนด์’

พรินซิเพิล เปิดตัวกองทุน ‘พรินซิเพิล โกลบอล แบรนด์’ ลุยหุ้นแบรนด์ดังระดับโลก เน้นมั่นคงยั่งยืน โอกาสรับผลตอบแทนดี แนะเหมาะสมเลือกลงทุนภายใต้ตลาดผันผวน กองทุนหลักสร้างผลงาน 10 ปีย้อนหลังเฉลี่ยปีละ 13% ดีเดย์เสนอขายครั้งแรก 5-13 กันยายนนี้

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ แนะลงทุนในหุ้นหรือสินทรัพย์ที่มีคุณภาพในแบรนด์ระดับโลก ดีเดย์ 5-13 กันยายนนี้เปิดขายกองทุนใหม่ ‘พรินซิเพิล โกลบอล แบรนด์’ (PRINCIPAL GBRAND) เน้นลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียวคือ Morgan Stanley Investment Funds – Global Brands Fund ที่เน้นกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นกลุ่ม Defensive ที่เป็นธุรกิจแบรนด์ชั้นนำระดับโลก โชว์ศักยภาพกองทุนหลักให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 10 ปี เฉลี่ย 13.1% ต่อปี สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน MSCI World Net Index ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 9.9% ต่อปี และให้อัตราผลตอบแทนนับจากต้นปีถึงปัจจุบัน (ณ กรกฎาคม 2562) อยู่ที่ 22.7% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน MSCI World Net Index ที่ให้ผลตอบแทน 17.6%

นายวิน พรหมแพทย์, CFA ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนพรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า ทีมบริหารจัดการประเมินภาพรวมเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยล่าสุดมีแนวโน้มชะลอตัวจากความไม่แน่นอนและปัจจัยลบจากสงครามการค้าที่ยังยืดเยื้อและมีความไม่แน่นอนทางการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (Geopolitics) โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประเมินอัตราการเติบโต GDP โลกในปี 2562 จะเติบโตชะลอตัวลงเหลือ 3.2% จากเดิมคาดการณ์จะเติบโต 3.3% รวมถึงปัจจัย BREXIT อังกฤษประกาศแยกตัวจากยุโรป โดยยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน นอกจากนี้หลายสำนักวิจัยประเมินเศรษฐกิจไทยในปีนี้มีโอกาสประมาณ 3%+/- จากผลกระทบเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยคาดหวังนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐเพื่อผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโต

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้อยู่ในภาวะชะลอตัว แต่เป็นที่สังเกตว่าราคาสินทรัพย์เกือบทุกประเภทกลับปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำทำให้การลงทุนในหุ้นและสินทรัพย์ที่มีการจ่ายเงินปันผลที่สูงมีความน่าสนใจ โดยจากการประเมินมูลค่า (Valuation) หุ้นในกลุ่ม Defensive หรือหุ้นในกลุ่มที่มีค่าความผันผวนต่ำ ยังคงอยู่ระดับใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยระยะยาว

ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.พรินซิเพิล กล่าวว่า ภายใต้เศรษฐกิจทั่วโลกที่มีความผันผวนสูง เราแนะนำการจัดสรรการลงทุนในสินทรัพย์หรือการลงทุนในหุ้นคุณภาพที่มีผลการดำเนินงานดีอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องในระยะยาว จะช่วยให้พอร์ตการลงทุนของนักลงทุนยังคงเติบโตได้ภายใต้ปัจจัยการลงทุนปัจจุบัน ทีมจัดการลงทุนได้ทำการคัดเลือกกองทุน ‘กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกลบอล แบรนด์’ หรือ Principal Global Brands Fund (PRINCIPAL GBRAND) (Class A: PRINCIPAL GBRAND-A) เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ

กองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Master Fund) คือ Morgan Stanley Investment Funds – Global Brands Fund (กองทุนหลัก) ชนิดหน่วยลงทุน (Share class Z) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน (Feeder Fund) ที่บริหารจัดการโดย Morgan Stanley Investment Management (Ireland) Limited

จุดเด่นด้านกลยุทธ์การลงทุนของ Master Fund ดังกล่าวคือ 1.เน้นลงทุนในหุ้น Defensive เหมาะกับภาวะเศรษฐกิจและตลาดการเงินที่มีความผันผวน 2. ลงทุนในธุรกิจที่เป็นแบรนด์ระดับโลกในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค 3. กองทุนมีผลการดำเนินงานที่ดีและสม่ำเสมอ และได้รับการจัดอันดับ 5 ดาวจาก Morningstar Ratings 4. บริหารกองทุนโดย Morgan Stanley Investment ที่มีประสบการณ์กว่า 40 ปี นอกจากนี้ยังจัดอยู่ในกลุ่ม The 1st quartile fund และได้รับรางวัล Equity Manager of the Year 2019

ทั้งนี้ กองทุนหลัก เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ประสบผลสำเร็จหรือมีชื่อเสียงประมาณ 20-40 บริษัทคุณภาพ โดยพิจารณาเครื่องหมายการค้าซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วโลก การเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์สินค้าภายใต้แฟรนไชส์ธุรกิจที่แข็งแกร่งในทุกอุตสาหกรรม และเป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม จุดแกร่งของบริษัทเหล่านี้คือสามารถกำหนดราคาสินค้าได้ และมีโอกาสเติบโตในระดับที่สมเหตุสมผล มีรายได้ต่อเนื่อง มีงบการเงินที่แข็งแกร่งจากการมีทีมงานบริหารที่มีศักยภาพ อาทิ แบรนด์ Microsoft ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจ Software จากประเทศสหรัฐอเมริกา, Phillip Morris ผู้ประกอบธุรกิจผลิตยาสูบในประเทศสหรัฐอเมริกา, Visa ผู้ประกอบธุรกิจระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิคส์เจ้าของ Platform การจ่ายเงินในรูปแบบการ์ดที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากประเทศสหรัฐอเมริกา ฯลฯ

ขณะที่ผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนหลัก นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (มิถุนายน 2551 ถึง เดือนกรกฎาคม 2562) ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 11.2% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน MSCI World Net Index ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 6.7% ต่อปี ในขณะที่ผลตอบแทนนับจากต้นปีถึงปัจจุบันอยู่ที่ 22.7% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน MSCI World Net Index ที่ให้ผลตอบแทน 17.6%

Facebook Comments
Skip to toolbar