epahamalao

ชำแหละ 8 ปมเสี่ยงฉุด เศรษฐกิจไทย !

เศรษฐกิจไทย

มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า วันนี้จะมาเล่า ความเห็นของเหล่าบรรดา CEO บริษัทจดทะเบียน โดยนำข้อมูลมาจาก สุมิตรา ตังสมวรพงษ์ Research Specialist ทำการผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 และมีเรื่องที่น่าสนใจคือปัจจัยเสี่ยงต่อการขยายตัวทาง เศรษฐกิจไทย

ซึ่งมีมุมมองที่น่าสนใจมากค่ะ ดั๊น รวบรวมแจกแจงเป็นข้อๆให้อ่านนะคะ เรียงลำดับจากปัจจัยที่เสี่ยงที่สุดลงไปนะคะ

1.เสถียรภาพการเมืองในประเทศ…ปัจจัยนี้ขยับมาเป็นอันดับ 1 จากอันดับ 2 จากการสำรวจครั้งก่อน โดยหมวดธุรกิจที่ CEO ส่วนใหญ่คาดว่าจะได้รับผลลบ ได้แก่ หมวดท่องเที่ยวและสันทนาการ หมวดพาณิชย์ หมวดเหล็ก และหมวดของใช้ในครัวเรือนและสำนักงาน

2.เศรษฐกิจโลก…มาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐอเมริกาต่อประเทศคู่ค้าจะส่งผลลบต่อเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทย นอกจากนี้ยังมีนโยบายของธนาคารกลางของประเทศสหรัฐอเมริกาที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายโดยตั้งแต่ ธ.ค.60 ถึงธ.ค.61 ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายทั้งหมด 9 ครั้ง

3.หนี้สินภาคครัวเรือน…ข้อนี้ผลสำรวจไม่ได้บอกไว้ แต่ ข้อมูลตัวเลขหนี้ครัวเรือนที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง…หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีที่ปรับตัวขึ้นจากร้อยละ 77.7 ในQ2/61 มาสู่ที่ระดับร้อยละ 77.8 เมื่อสิ้นสุดQ3/61 โดยอัตราหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีของไทยปรับสูงขึ้นเป็นร้อยละ 78.6 เมื่อสิ้นปี 61 และมียอดคงค้าง 12.8 ล้านล้านบาท ขณะปี 62 คาดว่าปรับสูงขึ้นไปสู่ระดับร้อยละ 79.5…(อ้างอิง เว็บ นิตยสารผู้จัดการ 9 เม.ย. 62)

4.กำลังซื้อในประเทศ…ข้อนี้ผลสำรวจไม่ได้บอกไว้ แต่จากเศรษฐกิจโลกที่มีการชะลอตัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกสินค้าและบริการของไทย รวมถึงส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่มีรายได้ลดลง ในขณะที่ภาระค่าใช้จ่ายยังคงอยู่ในระดับสูง ฉะนั้นไม่แปลกที่รัฐจะเข็นสารพัดมาตราการมากระตุ้นกำลังซื้อ (อ้างอิงเว็บไทยโพสต์ 30 เม.ย. 62)

5.ค่าเงินบาท…ข้อนี้ผลสำรวจไม่ได้บอกไว้ แต่ค่าเงินบาทกระทบกับพอร์ตลงทุน…บริษัทที่มีฐานรายได้ในรูปสกุลเงินดอลล่าร์และยังมีบริษัทย่อยในต่างประเทศอีก เมื่อเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มว่าจะแข็งค่าต่อไปอีก อาจมีผลต่อยอดขายและกำไรที่ได้รับเข้ามา เพราะเมื่อแลกเป็นเงินบาทจะได้รับน้อยลง…(อ้างอิงwww.set.or.th/set/education/)

6.การส่งออก…อันเป็นผลพวงมาจากมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐอเมริกาต่อประเทศคู่ค้า ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยโดยเฉพาะบริษัทจดทะเบียนในหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หมวดธุรกิจการเกษตร หมวดการแพทย์ หมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค

7.เสถียรภาพการเมืองโลก…อันนี้ในผลสำรวจไม่ได้แจกแจงไว้ แต่ในภาพรวมแล้วการเมืองของทุกประเทศ ย่อมส่งผลไปยังเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศนั้นๆ อย่างหลีกเหลี่ยงไม่ได้ และถ้าเป็นประเทศใหญ่มหาอำนาจ บิ๊กเนมทั้งหลาย เมื่อการเมืองสั่้นไหว ก็จะสะเทือนไปยังเศรษฐกิจของประเทศตัวเอง และเศรษฐกิจของโลก โดยเฉพาะประเทศคู่ค้ากับไทยนั่นเองค่ะ

8.ราคาน้ำมัน…คาดว่าราคาน้ำมันจะส่งผลลบต่อเศรษฐกิจไทยและตลาดทุนไทยตามลำดับ โดยเฉพาะบริษัทจดทะเบียนในหมวดพาณิชย์ หมวดยานยนต์ หมวดการท่องเที่ยวและสันทนาการ หมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และหมวดวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร

และนั้นเป็นข้อกังวลจากCEO บริษัทจดทะเบียน ที่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องควรสดับรับฟังไว้ด้วยนะคะ…วันนี้ไปละค่ะ บ๊ายย

Facebook Comments
Skip to toolbar