1.กระทรวงการคลัง มูลค่าพอร์ต 1,311,766,806,754 บาท (1.31 ล้านล้านบาท)
ลงทนุในหุ้น 11 ตัว ประกอบด้วย AOT (6.72 แสนล้านบาท) , PTT (6.13 แสนล้านบาท) , TMB (1.3 หมื่นล้านบาท) , TFFIF (4.7 พันล้านบาท) ,THAI(3.19 พันล้านบาท) , BCP (2.74 พันล้านบาท) , MCOT (1.67 พันล้านบาท) , MFC (286 ล้านบาท) , PDI (268 ล้านบาท) , RPH (85 ล้านบาท) , NEP (79 ล้านบาท)
กระทรวงการคลังลงทุนหุ้นหลายกลุ่มธุรกิจ แต่มากสุดคือหมวดธุรกิจ : ขนส่งและโลจิสติกส์ มี 3 ตัว (AOT – TFFIF – THAI) และธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค 3 ตัว (PTT – BCP – PDI)
2.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด มูลค่าพอร์ต 843,233,955,922 บาท (8.43 แสนล้านบาท)
ลงทนุในหุ้น 470 ตัว โดยมากสุด 10 อันดับแรกคือ PTT (5.9 หมื่นล้านบาท) , BBL (5.5 หมื่นล้านบาท) , KBANK (5 หมื่นล้านบาท) , CPALL (4.9หมื่นล้านบาท) , AOT (4.7 หมื่นล้านบาท) , SCC (4.3 หมื่นล้านบาท) , ADVANC (3.6หมื่นล้านบาท) , SCB (3.1 หมื่นล้านบาท) , BDMS (2.9 หมื่นล้านบาท) และ INTUCH (2.8 หมื่นล้านบาท)
โดยไทยเอ็นวีดีอาร์ ลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค 41 หลักทรัพย์ , กลุ่มอาหาร 29 หลักทรัพย์ , กลุ่มขนส่ง 15 หลักทรัพย์
3.บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มูลค่าพอร์ต 507,103,149,862 บาท (5.07 แสนล้านบาท) ลงทุนในหุ้น 6 ตัว คือ PTTEP (2.57 แสนล้านบาท) , PTTGC(1.27 แสนล้านบาท) ,TOP (4.7 หมื่นล้านบาท) , GPSC (4.5 หมื่นล้านบาท) , IRPC (2.7 หมื่นล้านบาท) , TIP (2.1 พันล้านบาท)
ปตท.ลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค 4 ตัว และปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ 1 ตัว (PTTGC ) และประกันภัยและประกันชีวิต 1 ตัว (TIP)
4.SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED มูลค่าพอร์ต 284,064,873,023 บาท (2.84 แสนล้านบาท)
ลงทุนในหุ้น 124 ตัว โดยมากสุด 10 อันดับแรกคือ CPALL (3.5 หมื่นล้านบาท) , AOT (2.5 หมื่นล้านบาท) , PTT (2.2 หมื่นล้านบาท) , KBANK (1.6หมื่นล้านบาท) , ADVANC (1.3 หมื่นล้านบาท) , SCC (1.29 หมื่นล้านบาท) , BBL (1.22 หมื่นล้านบาท) , BDMS (8.5 พันล้านบาท) , SCB (8.3 พันล้านบาท) ,GULF (4.1 พันล้านบาท)
ทั้งนี้ SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED ตั้งอยู่ที่ 25 Bank Street Canary Wharf London ก่อตั้งเมื่อ 23 มีนาคม 2541 เป็นบริษัทนอมินีที่ทำการลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อ้างอิง http://www.xn--72caab2fl6azbbby8lpav6ezjxc.com/)
5.สำนักงานประกันสังคม มูลค่าพอร์ต 254,095,289,253 บาท (2.54 แสนล้านบาท)
ลงทุนในหุ้น 84 ตัว โดยมากสุด 10 อันดับแรกคือ PTT (2.5 หมื่นล้านบาท) , SCC (1.9 หมื่นล้านบาท) , ADVANC (1.4 หมื่นล้านบาท) , BDMS (1.16 หมื่นล้านบาท) , CPALL (1.14 หมื่นล้านบาท) , AOT (1.10 หมื่นล้านบาท) , BBL (1.06 หมื่นล้านบาท) , KBANK (9.83 พันล้านบาท) , SCB (9.82พันล้านบาท) , PTTEP (8.04พันล้านบาท)
ประกันสังคมลงในหุ้นกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค 12 ตัว และลงทุนใน 22 กองทุน
ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 และมาตรา 26 ได้กำหนดให้การนำเงินกองทุนประกันสังคมไปจัดหาผลประโยชน์ 1.ลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 และ 2.ลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงไม่เกินร้อยละ 40 ของเงินกองทุน ได้แก่ ตราสารหนี้อื่นๆ- หน่วยลงทุน – หุ้นสามัญ
6.บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) มูลค่าพอร์ต 217,163,882,137 บาท (2.17 แสนล้านบาท)
ลงทุนในหุ้น 2 ตัว คือ ADVANC (2.14 แสนล้านบาท) และ THCOM (บมจ.ไทยคม) (2.47 พันล้านบาท)
เป็นบริษัทโฮลดิ้งสัญชาติไทย ก่อตั้งเมื่อ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2526 ในชื่อชินวัตร คอมพิวเตอร์ เซอร์วิส แอนด์ อินเวสต์เมนต์ ก่อนที่ในปี พ.ศ. 2544 จะเปลี่ยนไปใช้ชื่อ ชิน คอร์ปอเรชั่น และเปลี่ยนมาใช้ชื่อปัจจุบันในปี พ.ศ.2557 บริษัทได้เข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ในวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ.2533
7.STATE STREET EUROPE LIMITED มูลค่าพอร์ต 209,095,920,068 บาท (2.09 แสนล้านบาท)
ลงทุนในหุ้น 101 ตัว โดยมากสุด 10 อันดับแรกคือ KBANK (2.3 หมื่นล้านบาท) , CPALL (2.03 หมื่นล้านบาท) , PTT (1.56 หมื่นล้านบาท) , AOT(1.52 หมื่นล้านบาท) , SCC (1.10 หมื่นล้านบาท) , ADVANC (9.7 พันล้านบาท) , PTTEP (7.2 พันล้านบาท) , BDMS (6.6 พันล้านบาท) , SCB (6.4 พันล้านบาท) , CPF (6.0 พันล้านบาท)
ลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค 15 ตัว และกลุ่มอสังหาฯ 23 ตัว
เป็นบริษัทลูก ของ STATE STREET CORPORATION (STT) ซึ่งเป็นบริษัทในประเทศสหรัฐอเมริกา ให้บริการด้านการเงินและเป็นธนาคารโฮดิ้ง ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ One Lincoln Street ก่อตั้งขึ้นปี 2335
8.บริษัท ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด มูลค่าพอร์ต 168,736,667,700 บาท (1.68 แสนล้านบาท)
ลงทุนในหุ้น 1 ตัว คือ CPALL
บริษัท ซี.พี.เมอร์แซนไดซิ่ง จำกัด ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดใน CPALL จดทะเบียนเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2532 ทุนปัจจุบัน 9 พันล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 313 อาคารซี.พี.ทาวเวอร์ ถ.สีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กทม. แจ้งประกอบธุรกิจส่งออกสินค้าไก่แปรรูป เป็ดแปรรูป และอาหารสำเร็จรูปไปจำหน่ายต่างประเทศ
มีนายอดิเรก ศรีประทักษ์ (กรรมการ CPALL) นายอรุณี วัชรานานันท์ นายพิสิฐ โอมพรนุวัฒน์ นายอาณัติ จุลินทร นายไพศาล จิระกิจเจริญ และนายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ เป็นกรรมการ
งบการเงิน ปี 2561 มีรายได้รวม 34,330,782,611 บาท รายจ่ายรวม 23,415,960,509 บาท เสียภาษีเงินได้ 357,344,500 บาท กำไรสุทธิ 7,085,942,072 บาท ปี 2560 กำไรสุทธิ 11,780,002,717 บาท ปี 2559 กำไรสุทธิ 6,932,745,589 บาท (อ้างอิง isranews)
9.UBS AG SINGAPORE BRANCH มูลค่าพอร์ต 157088350485 บาท (1.57 แสนล้านบาท)
ลงทุนในหุ้น 44 ตัว คือ GULF (4.93 หมื่นล้านบาท) , EA (4.0 หมื่นล้านบาท) , AWC (9.7 พันล้านบาท) , MINT (9.2พันล้านบาท) , BJC (8.38 พันล้านบาท) , BDMS (8.30 พันล้านบาท) , CBG (5.5 พันล้านบาท) , BGRIM (4.5 พันล้านบาท) , SEG (3.66 พันล้านบาท) , CPN (3.62 พันล้านบาท) ,
โดยลงทุนในกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ 12 ตัว และในกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค 4 ตัว
UBS AG SINGAPORE BRANCH เป็นบริษัทหลักทรัพย์ในประเทศสิงคโปร์
10.MUFG BANK, LTD. มูลค่าพอร์ต 148,452,468,833 บาท (1.48 แสนล้านบาท)
ลงทุนในหุ้น 1 ตัวคือ BAY ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) 76.88% มูลค่า 1.48 แสนล้านบาท
MUFG BANK, LTD. บริษัทลูกของ ธนาคารโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ เป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น และเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับแปดของโลก
อย่างไรก็ตาม 10 องค์กรเหล่านี้ เป็นต่างชาติถึง 4 องค์กร ฉะนั้นเวลาขยับจึงส่งผลต่อตลาดหุ้นไม่มากก็น้อยค่ะ วันนี้ไปแล้วล่ะค่ะ บ๊ายย