1.KTC (บมจ.บัตรกรุงไทย) ธนาคารกรุงไทย ถือหุ้นใหญ่
เซียนฮง ถือ KTC มาหลายปี (12,829,500 หุ้น หรือ 4.98%) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 โดยขายออกในช่วงเดือน พ.ค.63
ปี 56 เขาทยอยซื้อหุ้น บมจ.บัตรกรุงไทย หรือ KTC จากนั้นในปี 62 เขาได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 ใน KTC ก่อนที่ 1 ปีต่อมา คือปี 63 จะขยับขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 ก่อนทยอยขาย (อ้างอิง prachachat)
สถาพร เริ่มมีชื่อปรากฎเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ KTC ครั้งแรกเมื่อการปิดสมุดทะเบียน วันที่ 7 มี.ค.56 ด้วยจำนวนหุ้น 1,763,400 หุ้น (อ้างอิง bangkokbiznews)
สถาพร ขายหุ้นออกมูลค่าสูงสุด โดย ณ 25 พ.ค.63 ถือครองหุ้น บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) จำนวน 128.51 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4.98% เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 แต่ล่าสุด ณ 30 มิ.ย.63 ไม่ปรากฎอยู่ในรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่แล้ว โดยหากคำนวณราคาปิด ณ 25 พ.ค.63 ที่ 37.75 บาท/หุ้น จะมีมูลค่ารวม 4,851.21 ล้านบาท (อ้างอิง efinancethai)
อนุมานว่า เขาเริ่มทยอยเก็บ KTC ในปี 56 ซึ่งปีนั้นราคาสูงสุด 5.15 บาท และต่ำสุด 2.90 บาท เฉลี่ย 3.93 บาท แล้วขายไป 37.75 บาท เท่ากับได้กำไร 33.82 บาท/หุ้น หรือ 860.56%
สุดท้ายเซียนฮงขายที่ราคา 37.75 บาท/หุ้น แต่ล่าสุด 25 มี.ค.64 KTC ปิดที่ 76.50 บาท ราคาเพิ่มจากที่เซียนฮงขาย เท่ากับ 38.75 บาท หรือ +102.65%
2.DOHOME (บมจ.ดูโฮม) เจ้าของคือ ตระกูลตั้งมิตรประชา
-DOHOME เข้าตลาดเมื่อ ส.ค.62 ต่อมาช่วง เม.ย 63 ชื่อของ “ฮง” ปรากฏอยู่ในรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ของ DOHOME (67,433,200 หุ้น หรือ 3.63%)
-จากนั้น มิ.ย.63 ลดพอร์ตเหลือ 31,796,500 บาท หรือ 1.71% ลดไป-1.92% จากนั้น มี.ค.64 ขายเกลี้ยงพอร์ต
-เมื่อดูราคา DOHOME ในช่วงเดือนเม.ย.63 เคลื่อนไหว 4.28-6.83บาท เฉลี่ย 5.55 บาท ส่วน มิ.ย.63 วิ่งแถว 7.50-10.15 บาท เฉลี่ย 8.82 บาท ส่วนราคา มี.ค.64 วิ่งในกรอบ 18.20 -19.75 บาท เฉลี่ย 18.97 บาท
-เท่ากับซื้อมาเฉลี่ย 8.82 บาท ขายไป 18.97 บาท ฟันกำไรไป 10.15 บาท/หุ้น หรือ +115.14%
-ขณะช่วงที่ฮงขายออกราคาเฉลี่ย 18.97 บาท ขณะล่าสุด 25 มี.ค.64 ปิดที่ 18.40 บาท
3.BFIT (บมจ.เงินทุน ศรีสวัสดิ์) บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่
เข้าซื้อเมื่อประมาณ เม.ย.63 (10,494,200 หุ้น หรือ 1.90%) แล้ว ก.ค.63 ขายหมด
ราคาBFIT เม.ย.63 เฉลี่ย 28.00 บาท ขณะ ก.ค.63 ช่างที่ฮงเทขายราคา 35.75 บาท ได้กำไร 7.75 บาท/หุ้น หรือ +27.68%
ขณะที่ราคาล่าสุด 25 มี.ค.64 ปิดที่ 34.00 บาท
4.AUCT (บมจ.สหการประมูล) นายภาคภูมิ ศิลา ถือหุ้นใหญ่
เข้าซื้อเมื่อประมาณ ส.ค.62 ซื้อ 14,835,000 หุ้น หรือ 2.70% และขายเกลี้ยงเมื่อ มี.ค.63
ส.ค.62 ราคาเฉลี่ย 7.12 บาท ขณะ มี.ค.63 ราคาสูงสุด 6.20 บาท ต่ำสุด 4.08 บาท ราคาเฉลี่ย 5.14 บาท
ขณะที่ราคาล่าสุด 25 มี.ค.64 ปิดที่ 11.10 บาท
5.NER (บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์) ตระกูล “จึงธนสมบูรณ์” ถือหุ้นใหญ่
-ปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น วันที่ 07 ม.ค. 64 “เซียนฮง” โผล่ถือหุ้น NER เป็นอันดับ 3 จำนวน 64,395,400 หุ้น หรือเกือบ 4% รวมมูลค่า 270.46 ล้านบาท ก่อนขายเกลี้ยงพอร์ต 5 มี.ค.64
– 7 ม.ค.64 ราคาเฉลี่ย 4.20 บาท ขณะ 5 มี.ค.64 ราคาเฉลี่ย 5.66 บาท ฟันกำไร 1.46 บาท/หุ้น หรือ 34.76%
ขณะที่ราคาล่าสุด 25 มี.ค.64 ปิดที่ 5.40 บาท
6.AEONTS (บมจ.อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์)) AEON FINANCIAL SERVICE CO.,LTD. ถือหุ้นใหญ่
เข้าซื้อตั้งแต่ พ.ค. 61 (4,791,600 หุ้นหรือ 1.92%) จากนั้น พ.ค.62 เหลือ 4,294,600 หุ้น หรือ1.72% ต่อมา ต.ค.62 เหลือ 4,119,100หุ้น หรือ 1.65% แล้วพ.ค.63 ขายเกลี้ยงพอร์ต
พ.ค. 61 ราคาเฉลี่ย 163.13 บาท ขณะที่ พ.ค.63 ราคาเฉลี่ย 133.58 บาท
ส่วนล่าสุด 25 มี.ค.64 ปิดที่ 212.00 บาท
7.EKH (บมจ.เอกชัยการแพทย์) นางอรสา ตั้งสัจจะพจน์ ถือหุ้นใหญ่สุด
เข้าซื้อมี.ค.63 (13,089,900 หุ้น หรือ 2.18%) จากนั้น พ.ค. 63 ขายหมด
มี.ค.63 ราคาเฉลี่ย 4.10 บาท ขณะพ.ค.63 ราคาเฉลี่ย 4.51 บาท
ส่วนล่าสุด 25 มี.ค.64 ปิดที่ 5.90 บาท
8.RS (บมจ.อาร์เอส) นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ถือหุ้นใหญ่สุด
ปี 61 เคยถือ 3.33% มูลค่าราว 800 ล้านบาท ต่อมาปี 62 ขายเกลี้ยง
ส่วนล่าสุด 25 มี.ค.64 ปิดที่ 25.00 บาท
9.SABINA (บมจ.ซาบีน่า) นายวิโรจน์ ธนาลงกรณ์ ถือหุ้นใหญ่สุด
ส.ค.62 เข้าถือ (3,338,700 หุ้นหรือ 0.96%) จากนั้นขยับเพิ่มเป็น 1.37% ก่อนที่ มี.ค.63 ขายเกลี้ยง
เมื่อช่วง ส.ค.62 ราคาเฉลี่ย 29.82 บาท ขณะที่ช่วง มี.ค.63 ราคาเฉลี่ย 16.79 บาท
ส่วนล่าสุด 25 มี.ค.64 ปิดที่ 21.20 บาท
นอกจากนี้แล้ว ยังมีหุ้นอีกหลายตัวที่เคยผ่านมือเซียนฮงมาแล้ว ทั้งตัวดังๆ อย่าง ADVANC (บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส), CPALL (บมจ.ซีพี ออลล์), CPF (บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร), TOP (บมจ.ไทยออยล์), BCP (บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น), CENTEL (บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา), STA (บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี), TVO (บมจ.น้ำมันพืชไทย) รวมไปถึง THCOM (บมจ.ไทยคม), ANAN (บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์), TTA (บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์) ,AP (บมจ.เอพี (ไทยแลนด์)), VNG (บมจ.วนชัย กรุ๊ป) ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่า 6 ตัวล่าสุดในพอร์ต “เซียนฮง” จะไปได้ไกลแค่ไหนคะ วันนี้ไปล่ะค่ะ…บ๊ายยย