epahamalao

13 กูรู พยากรณ์ หุ้นปีหนู ชวดหรือ (ดี) ชัวร์?

ณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย

มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า นับถอยหลังสู่ ปี 2563 ปีชวดแล้ว แต่ตลาดหุ้นไทยจะชวดหรือ (ดี) ชัวร์? ดั๊น ไปรวบรวมมุมมองจากเกจิกูรู ทั่วฟ้าเมืองไทย มาให้เพื่อน ๆ ได้ลองอ่านเป็นข้อมูลเบื้องต้น ๆ เล็ก ๆ เพื่อเป็นแนวทางการลงทุนในปีหน้านะคะ

1.ณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไทยพาณิชย์ “ปี63 เศรษฐกิจยังทรงตัว จึงควรเน้นการลงทุนในบริษัทมีฐานะการเงินแข็งแรง มีกระแสเงินสดสม่ำเสมอหรือมีการจ่ายเงินปันผลสูง กลุ่มกิจการที่จะได้รับประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยต่ำ กลุ่มที่จะได้รับประโยชน์จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน มาตรการกระตุ้นการบริโภคจากภาครัฐ และกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยว ตลาดหุ้นมีโอกาสที่จะปรับตัวเป็นขาขึ้นได้ เนื่องจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนซึ่งยืดเยื้อมานานน่าจะเริ่มบรรลุข้อตกลงอะไรกันได้บ้างแล้ว (อ้างอิง posttoday)

2.เผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผูจัดการประธานสายธุรกิจรายย่อย บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ปี 2563 ประเมินว่า ทิศทางของดัชนีหุ้นไทย จะแกว่งตัวในในกรอบกว้างประมาณ 200 จุด หรือระดับที่ 1,500 – 1,700 จุด ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของการซื้อขายหุ้นทั่วโลกของนักลงทุนเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยเน้นความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนโยกย้ายรูปแบบการลงทุนทั้งตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร ส่งผลให้ภาพรวมของดัชนีตลาดหุ้นจึงมีความผันผวน ตลาดหุ้นไทยยังมองว่า จะไม่เห็นการเติบโตขึ้น แต่จะเป็นการทรงตัวในระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา (อ้างอิง mgronline)

3.กวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย “แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในปี 2563 จะแกว่งตัวในกรอบจำกัดที่ 1,450-1,700 จากปัจจัยกดดันมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และความไม่แน่นอนของการเจรจายุติสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ตลาดหุ้นไทยในปีนี้และปีหน้าไม่ค่อยน่าลงทุน เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่เข้าสู่สงคมผู้สูงอายุ ทำให้การเติบโตในอนาคตจะไม่เห็นการเติบโตมากอย่างเช่นในอดีต ซึ่งหากมีโอกาสในการที่ไปลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศได้ ให้มองตลาดหุ้นในประเทศอื่นๆเป็นทางเลือกในการลงทุน(อ้างอิง mgronline)

4.สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) “หุ้นกลุ่ม Turnaround น่าสนใจในปีหน้า หุ้นเด่นของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินว่า ฟื้นตัวในปีหน้าได้แก่ DELTA และ HANA หุ้นเด่นในกลุ่มโรงกลั่นที่ฝ่ายวิจัยฯชอบได้แก่ ESSO และ SPRC ส่วนกลุ่มธนาคารเลือก 4 ธนาคารใหญ่ ที่ Valuation ถูก ได้แก่ KBANK , BBL , SCB , KTB” (อ้างอิง bangkokbiznews)

5.สุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBS “ดัชนีตลาดหุ้นไทยปีหน้า1600 – 1800จุด แม้ยังคงมีความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจมหภาคจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน แต่คาดว่าเศรษฐกิจโลกยังคงเติบโตได้แม้กับการเติบโตต่ำแต่ไม่ถึงขั้นวิกฤตเศรษฐกิจ คาดว่ากำไรสุทธิในปี 2563 มีโอกาสฟื้นตัวได้ (อ้างอิง innnews)

6.เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส (บล.เอเซียพลัส) “ตั้งเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยในปี 2563 ที่ระดับ 1,579 – 1,675 จุด หลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 ครั้ง รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล กลุ่มที่น่าลงทุน ได้แก่ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มสื่อสาร กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม และกลุ่มโลจิสติกส์ ซึ่งกลุ่มที่ต้องระวัง คือ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่กดดันจากงานโครงการภาครัฐที่ยังมีความล่าช้า (อ้างอิง thejournalistclub)

7.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย “เศรษฐกิจโลกในปี 2563 มีแนวโน้มชะลอตัวลง แต่คงไม่ถึงขั้นถดถอย ปัจจัยหลักมาจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ขณะ IMF คาดว่าเศรษฐกิจโลกปี 2563 จะเติบโตเพียง 3% หรือเติบโตต่ำสุดตั้งแต่หลังวิกฤตการเงินโลก สงครามการค้าโลกคงไม่จบง่าย ๆ ซึ่งน่าจะเห็นความชัดเจนช่วงไตรมาส 1/2563 หรือเป็นช่วงก่อนการเลือกตั้งขั้นต้นของสหรัฐ (อ้างอิง prachachat)

8.ธำรงชัย เอกอมรวงศ์ เทรดเดอร์มืออาชีพ “หุ้น 2563 ยังเหนื่อยไม่คิดว่าตลาดหุ้นไทย จะดีได้ในระยะยาว หากดูเศรษฐกิจรอบนี้ไม่น่าจะมีการฟื้นตัวได้ในระยะเวลาสั้นเพียง 3-6 เดือน แต่น่าจะกินระยะเวลาหลายปี เวลาเศรษฐกิจแย่ควรเลือก “ธุรกิจสร้างอาชีพจะดี” หรือ “ธุรกิจที่มีคาแรคเตอร์ของแฟรนไชส์” ซึ่งจะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาอาชีพเสริมแต่เป็นแบบออฟไลน์แทนออนไลน์ (อ้างอิง stockradars)

9.วิวัฒน์ เตชะพูลผล รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ เป้าหมายดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีนี้ลงมาอยู่ที่ 1680 จุด ส่วนเป้าหมายดัชนีไตรมาส 1 ปี 2563 อยู่ที่ 1720 จุด ซึ่งมาจากปัจจัยสนับสนุนจากสภาพคล่องทั้งภายในและต่างประเทศ ทั้งนี้ คาดว่าจะมีเม็ดเงินจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ไหลเข้ามาประมาณ 40,000- 45,000 ล้านบาท (อ้างอิง www.thansettakij)

10.ลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง เปิดแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2563 ประเมินว่า จะเติบโตได้ ประมาณ 3.2% ในขณะที่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงไม่แตกต่างไปจากในปี 2562 มากนัก ทั้งในเรื่องของสงครามการค้า สถานการณ์การค้าโลกที่ยังซบเซา รวมทั้งปัจจัยเรื่องค่าเงินที่ยังคงต้องติดตามอยู่เช่นกัน ส่วนปัจจัยที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีหน้า มาจากการใช้จ่ายและการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก รวมทั้งการลงทุนทั้งในระดับฐานราก (อ้างอิงkhaosod)

11.ไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทิสโก้ และประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) “ทิศทางตลาดหุ้นไทยปี 2563 มีโอกาสที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากจะได้แรงหนุนกระแสเงินทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ที่คาดว่า จะไหลออกจากตลาดหุ้นอื่นๆที่ปรับตัวขึ้นไปมากแล้วในปีนี้กลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น หลังจากที่ปีนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเพียง 3% ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้วทั่วโลกที่ปรับตัวขึ้นเฉลี่ยสูงถึง 20% โดยคาดว่าปีหน้ามีโอกาสฟันด์โฟลว์ต่างชาติจะไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทยถึงระดับแสนล้านบาท (อ้างอิง bangkokbiznews)

12.ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ จำกัด ทิศทางฟันด์โฟลว์ปี 63 เชื่อว่า จะทรงตัวแบบปีนี้ เนื่องจากแวลูหรือ EPS ของตลาดหุ้นไทยที่ยังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จึงทำให้นักลงทุนต่างชาติมองตลาดหุ้นไทยดูแพง รวมถึงช่องว่างของการใช้นโยบายการเงินของทั่วโลกที่แคบลง ซึ่งจะส่งผลให้การหวังว่าสภาพคล่องจะไหลออกมาเพิ่มขึ้นคงเป็นไปได้ยาก (อ้างอิง bangkokbiznews)

13.SCB Wealth Holistic Experts ธนาคารไทยพาณิชย์ “เศรษฐกิจโลกปี 2563 ยังคงเติบโตได้แม้อัตราการเติบโตต่ำ แต่ยังไม่เห็นสัญญาณที่ชัดเจนของเศรษฐกิจถดถอย โดยเลือกลงทุนในตลาดหุ้น หรือ อุตสาหกรรมที่ราคาปรับลดลงมามากจนต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน หลีกเลี่ยงลงทุนในตราสารหนี้เอกชน High Yield และเน้นลงทุนในตราสารหนี้เอกชน Investment Grade สำหรับสินทรัพย์ทางเลือก แนะนำตลาดน้ำมัน Private Equity และรอตลาด REITs ปรับฐานแล้วค่อยเข้าลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในทองคำ

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงการประเมิณจากบรรดาผู้ที่อยู่วงการ ซึ่งไม่จำเป็นต้องถูกต้องเสมอไปนะคะ เราต้องหาข้อมูล ศึกษาเพิ่มเติมค่ะ โอกาสชนะก็มากขึ้น..วันนี้ไปล่ะค่ะ บ๊ายย

Facebook Comments
Skip to toolbar