มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า กลับมาแล้วหลังจากที่ห่างหายไปเกือบ 2 สัปดาห์ และขอบคุณสมาชิกแฟนเพจที่ห่วงใยและติดตามอิป้าเสมอว่า วันนี้เริ่มต้นสัปดาห์แรกที่เรากลับมาเจอกัน อิป้าเลยจะพาไปสุ่มดู ดัชนีใหม่ SET Well-Being (SETWB) ที่เริ่มประกาศไปตั้งแต่ 1 เม.ย. 2562 จนวันนี้ผ่านไป 6เดือนกว่าแล้ว ตัวไหนทำผลงานเข้าตากันบ้างคร้าาา อ้อ!!! ลืมบอกไป ดัชนี SETWB นี้เข้าคัดมา 30 ตัวแจ่มๆ จาก 7 กลุ่มอุตสหกรรมที่มีศักยภาพในการแข่งขันและเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนต่างชาติ และเมื่อส่องดูแล้ว 30 ตัว มีเพียง 12 ตัว ที่ผลงานบวกคะ ไปดูกันเลย มีตัวไหนโดนใจเพื่อนๆ กันบ้าง
1.CBG (บมจ.คาราบาวกรุ๊ป) ราคาเมื่อเริ่มเข้าดัชนี SETWB (1 เม.ย.62) ปิดที่ 54.25 บาท ณ 18 ต.ค.62 ปิดที่ 85.25 บาท ขยับบวก 31.00 บาท หรือ 57.14% ขณะที่มาร์เกตแคปปัจจุบัน 84,250 ล้านบาท (ต้นปี 62 อยู่ที่ 30,750 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 53,500 ล้านบาท
2.COM7 (บมจ.คอมเซเว่น) ราคาเมื่อเริ่มเข้าดัชนี SETWB (1 เม.ย.62) ปิดที่ 18.20 บาท ณ 18 ต.ค.62 ปิดที่ 27.75 บาท ขยับบวก 9.55 บาท หรือ 52.47% ขณะที่มาร์เกตแคปปัจจุบัน 33,300 ล้านบาท (ต้นปี 62 อยู่ที่ 18,600 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 14,700 ล้านบาท
3.PRM (บมจ.พริมา มารีน) ราคาเมื่อเริ่มเข้าดัชนี SETWB (1 เม.ย.62) ปิดที่ 6.60 บาท ณ 18 ต.ค.62 ปิดที่ 8.90 บาท ขยับบวก 2.30 บาท หรือ 34.84% ขณะที่มาร์เกตแคปปัจจุบัน 22,125 ล้านบาท (ต้นปี 62 อยู่ที่ 12,875 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 9,250 ล้านบาท
4.BTS (บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์) ราคาเมื่อเริ่มเข้าดัชนี SETWB (1 เม.ย.62) ปิดที่ 11.20 บาท ณ 18 ต.ค.62 ปิดที่ 13.60 บาท ขยับบวก 2.40 บาท หรือ 21.42% ขณะที่มาร์เกตแคปปัจจุบัน 174,745.65 ล้านบาท (ต้นปี 62 อยู่ที่ 113,122.10 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 61,623.55 ล้านบาท
5.AOT (บมจ.ท่าอากาศยานไทย) ราคาเมื่อเริ่มเข้าดัชนี SETWB (1 เม.ย.62) ปิดที่ 67.25 บาท ณ 18 ต.ค.62 ปิดที่ 77.25 บาท ขยับบวก 10 บาท หรือ 14.86% ขณะที่มาร์เกตแคปปัจจุบัน 1,099,998.90 ล้านบาท (ต้นปี 62 อยู่ที่ 917,856.22 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 182,142.68 ล้านบาท
6.ROBINS (บมจ.โรบินสัน) ราคาเมื่อเริ่มเข้าดัชนี SETWB (1 เม.ย.62) ปิดที่ 58.50 บาท ณ 18 ต.ค.62 ปิดที่ 65.75 บาท ขยับบวก 7.25 บาท หรือ 12.39% ขณะที่มาร์เกตแคปปัจจุบัน 72,748.30 ล้านบาท (ต้นปี 62 อยู่ที่ 70,526.98 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 2,221.32 ล้านบาท
7.HMPRO (บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์) ราคาเมื่อเริ่มเข้าดัชนี SETWB (1 เม.ย. 62) ปิดที่ 15.20 บาท ณ 18 ต.ค.62 ปิดที่ 16.80 บาท ขยับบวก 1.60 บาท หรือ 10.52% ขณะที่มาร์เกตแคปปัจจุบัน 220,940.13 ล้านบาท (ต้นปี 62 อยู่ที่ 199,898.21 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 21,041.92 ล้านบาท
8.CPALL (บมจ.ซีพี ออลล์) ราคาเมื่อเริ่มเข้าดัชนี SETWB (1 เม.ย.62) ปิดที่ 75.75 บาท ณ 18 ต.ค.62 ปิดที่ 82.75 บาท ขยับบวก 7.00 บาท หรือ 9.24% ขณะที่มาร์เกตแคปปัจจุบัน 738,860.09 ล้านบาท (ต้นปี 62 อยู่ที่ 617,588.22 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 121,271.87 ล้านบาท
9.M (บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป) ราคาเมื่อเริ่มเข้าดัชนี SETWB (1 เม.ย.62) ปิดที่ 72.25 บาท ณ 18 ต.ค.62 ปิดที่ 78.25 บาท ขยับบวก 6.00 บาท หรือ 8.30% ขณะที่มาร์เกตแคปปัจจุบัน 71,828.49 ล้านบาท (ต้นปี 62 อยู่ที่ 68,835.64 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 2,992.85 ล้านบาท
10.GFPT (บมจ.จีเอฟพีที) ราคาเมื่อเริ่มเข้าดัชนี SETWB (1 เม.ย.62) ปิดที่ 14.30บาท ณ 18 ต.ค.62 ปิดที่ 15.40 บาท ขยับบวก 1.10 บาท หรือ 7.69% ขณะที่มาร์เกตแคปปัจจุบัน 20,061.14 ล้านบาท (ต้นปี 62 อยู่ที่ 15,045.85 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 5,015.29 ล้านบาท
11.BEM (บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ) ราคาเมื่อเริ่มเข้าดัชนี SETWB (1 เม.ย. 62) ปิดที่ 10.10 บาท ณ 18 ต.ค.62 ปิดที่ 10.70 บาท ขยับบวก 0.60 บาท หรือ 5.94% ขณะที่มาร์เกตแคปปัจจุบัน 163,549.50 ล้านบาท (ต้นปี 62 อยู่ที่ 148,264.50 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น15,285 ล้านบาท
12.CPF (บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร) ราคาเมื่อเริ่มเข้าดัชนี SETWB (1 เม.ย.62) ปิดที่ 25.50 บาท ณ18 ต.ค.62 ปิดที่ 26.00 บาท ขยับบวก 0.50บาท หรือ 1.96% ขณะที่มาร์เกตแคปปัจจุบัน 228,197.92 ล้านบาท (ต้นปี 62 อยู่ที่ 211,836.56 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 16,361.36 ล้านบาท
และนี้เป็น 12 ตัวเด่น ที่ผลงานดีวันดีคืน และบางตัวได้อานิสงส์จากนโยบายรัฐบาลหนุนนำ อาจวิ่งได้ต่อค่ะ…วันนี้ไปล่ะค่ะ บ๊ายย